'พิชัย' มั่นใจ ปิดดีลภาษีสหรัฐฯ ต่ำกว่า36% ก่อน 1 ส.ค. ชี้มีแผนสำรอง

'พิชัย' มั่นใจ ปิดดีลภาษีสหรัฐฯ ต่ำกว่า36% ก่อน 1 ส.ค. ชี้มีแผนสำรอง

“พิชัย” เชื่อ ปิดดีลภาษีสหรัฐฯ ได้ก่อน 1 ส.ค. ต่ำกว่า 36% ยัน มีแผนสํารอง หากไม่เป็นไปตามเป้า เชื่อ คสพ. ไทย-กลุ่ม BRICS ระบุ หลังจากนี้ ประชุมทุกวัน

เมื่อเวลา 09.25 น.วันที่ 8 กรกฎาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีสหรัฐส่งจดหมายเรียกเก็บภาษีนําเข้าจากไทย 36% ว่า ทุกคนคงได้ทราบข่าวแล้วว่ามี 10 กว่าประเทศ ที่สหรัฐฯ ประกาศขึ้นอัตราภาษี โดยในข้อความระบุว่าให้ประเทศเหล่านี้เร่งเจรจา ก่อนวันที่ 1 สิงหาคม ซึ่งสาเหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะการเจรจาต้องใช้เวลา โดยอัตราภาษีที่ประกาศ มีอยู่ 2-3 ลักษณะคือ 1.ถ้ายังไม่ได้เจรจา หรือภาษีอยู่ในอัตราที่เหมาะสมอยู่แล้ว ก็จะยืนตามเดิม ส่วนกลุ่มประเทศที่อัตราภาษีเกิน 40% ก็จะถูกดึงลงมาเพื่อให้อัตราอยู่ที่ 40% นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มที่อัตราคงเดิม และประเทศที่เคยส่งข้อเสนอไปแล้ว จะมีการปรับเข้ากลุ่ม อาทิเช่น เกาหลีใต้และญี่ปุ่น เราจึงต้องใช้เวลาช่วงนี้ทำงานให้หนักขึ้น 

ทั้งนี้ มั่นใจว่าข้อมูลที่ส่งไปก่อนหน้านี้ ผู้ปฏิบัติได้รับแล้ว แต่การที่หนังสือที่ประกาศขึ้นอัตราภาษีออกมานั้น เพราะหากไม่ประกาศก็จะทำงานไม่ได้ ใจว่า อัตราภาษีจะทำให้เราเข้าไปอยู่ในกลุ่มระดับเดียวกันกับประเทศที่เป็นคู่แข่งทางการค้า และการส่งออกของไทย ทำให้เราสามารถแข่งขันได้ ส่วนข้อเสนอใหม่ที่เรายื่นไปนั้น โดยปกติข้อเสนอเหล่านี้จะมีรายการจำนวนมาก ซึ่งจะมีการทำ FTA อยู่แล้ว อยู่ในอัตรา 0%

เมื่อถามว่า อัตราภาษีที่คาดหวังไว้อยู่ที่กี่% นายพิชัย กล่าวว่า ขอให้อยู่ในกลุ่มที่แข่งขันได้ สินค้าใดที่ส่งออกเช่นเดียวกับประเทศอื่น ก็ควรอยู่ในกลุ่มเดียวกัน โดยอัตราภาษี 36% นั้น ไม่ได้บังคับใช้ทั้งหมด สามารถดึงส่วนที่คิดว่ามีอัตราภาษีที่แตกต่างกันได้หมด ทั้งนี้ เราไม่ได้ไปขอลดอัตราภาษีจาก 36% แต่สิ่งที่ทำคือ เจรจาว่าจะมีความร่วมมืออย่างไรบ้าง ส่วนสินค้าที่เรานำเข้ามานั้นจะมีหน้าตาอย่างไร สหรัฐฯ ได้นำเรื่องนี้ไปพิจารณา และทำงานร่วมกับเรา เสร็จแล้วเค้าจะเป็นฝ่ายตอบ ว่าจะเป็นเท่าไหร่ เชื่อว่าจะไม่ใช่อัตราเดียว อาจจะเป็นอัตราหนึ่งที่สอดคล้องกับสินค้านั้นๆ

เมื่อถามว่า การที่ประเทศไทยเข้าร่วมกลุ่ม BRICS จะทำให้เกิดปัญหาหรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า เราเป็นกึ่งพาร์ทเนอร์ เข้าไปเรียนรู้และสังเกตการณ์มากกว่า คิดว่าวันนี้โลกเปลี่ยนแปลงไปเยอะ จึงใช้วิธีคิดแบบเดิมไม่ได้ เราจึงต้องอยู่ให้ได้กับทุกฝ่าย ส่วนจะต้องชี้แจงกับสหรัฐฯ ด้วยหรือไม่นั้น ต้องดูด้วยว่าสหรัฐฯ จะส่งอะไรมาถึงเรา 

เมื่อถามยํ้าว่า เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดหรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า ยืนยันว่าเราเป็นแค่ระดับพาร์ทเนอร์ คนอื่นไปกันตั้งนานแล้ว เราก็ดูไปเรื่อยๆ ไม่เสียหายอะไรมั้ง หากเราจะเข้าไปดูว่าเขาขับเคลื่อนกันอย่างไร ยืนยันว่าตอนนี้จะทำงานอย่างหนัก หากมีอะไรต้องการความชัดเจน ตนก็พร้อมจะเดินทางไปเจรจาตลอด

เมื่อถามว่า ได้วางไทม์ไลน์ไว้หรือไม่ว่าสหรัฐฯ จะตอบกลับข้อเสนอของเราเมื่อไหร่ นายพิชัยร้อง โอ้โห ก่อนกล่าวว่า เราไปวางไทม์ไลน์ไม่ได้ สิ่งที่เราให้เขา เขาก็บอกแล้วว่าให้เจรจาไปเรื่อยๆ เขาจะเป็นผู้กำหนดเอง ว่าจะให้เท่าไหร่ 

นายพิชัย กล่าวว่า ทั้งนี้ หากสหรัฐฯ ไม่รับพิจารณาข้อเสนอ และไทยถูกจัดเก็บภาษีที่ 36%หรือไม่นั้น เรายังไม่ทราบ แต่ยืนยันว่าข้อเสนอของเรา เป็นข้อเสนอที่ดีและเปิดเผย ต้องคำนึงว่าข้อเสนอที่เราให้ไป ผู้เกี่ยวข้องก็จะมีอีกมาก จึงต้องทำให้ทุกฝ่ายเข้าใจและยอมรับได้

เมื่อถามว่า รัฐบาลเดินเกมช้าไปหรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า ไม่ช้า เพราะในการทำสิ่งนี้ คนทำงานระดับนโยบายก็ส่งข้อความมา คนทำงานก็ทำงานไป แม้ตนจะเดินทางไปสหรัฐฯ ในวันที่ 1-3 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ก่อนหน้านั้น เราคุยกันตลอดเป็นระยะเวลากว่า 1 เดือน และไม่ได้คุยกันเฉยๆ แต่คุยถึงรายการสินค้าและลงรายละเอียด ดังนั้น ตนไม่ได้ไปเจรจาแค่เรื่องนโยบายอย่างเดียว ปัญหาอะไรแต่พูดคุยว่าสิ่งที่เราเสนอไป มีปัญหาอะไร และอยากได้อะไรเพิ่มเติมหรือไม่ จึงหมายความว่าเราไม่ได้ดำเนินการช้า

เมื่อถามว่า รัฐบาลมีแผนสำรองหรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า แน่นอน ไม่ว่าภาษีจะอัตรา 36% หรือต่ำกว่านั้น เพราะการค้าขายในโลกนี้ ต้องปรับกันใหม่ ส่วนการเยียวยาผู้ประกอบการนั้น อยู่ในแผนอยู่แล้ว แม้จะยังไม่มีข้อตกลง แต่การส่งออกก็อาจจะชะลอไป ซึ่งอาจมีผู้ได้รับผลกระทบ แต่เราได้เตรียมการไว้อยู่แล้ว

เมื่อถามว่า จะมีการใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจที่เหลือ มาเยียวยาผู้ประกอบการหรือไม่ นายวิชัย กล่าวว่า ต้องดูความจำเป็นว่าถูกที่ถูกทางหรือไม่ เพราะยังมีแหล่งเงินอื่นที่จะลงมาช่วยได้ ทั้งตลาดเงินและตลาดทุน 

“มั่นใจว่าข้อเสนอของไทยครั้งนี้จะได้รับข่าวดี เนื่องจากอธิบาย วัดผล และปฏิบัติได้ ซึ่งได้ผลต่อเนื่อง ไม่ใช่ทำแล้วหาย เวลาเสนออะไรแล้ว จะรับปากเฉยๆ ไม่ได้ ต้องปฏิบัติได้ด้วย” นายพิชัย กล่าว

เมื่อถามว่า จะมีการตั้งกองทุนขึ้นมาเยียวยาผู้ประกอบการหรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า มีการเก็บข้อมูลแล้ว ซึ่งแต่ละคนอาจเข้าถึงแหล่งเงินทุนไม่เหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องเป็นเฉพาะกองทุน แต่อาจจะเป็นแหล่งเงิน แล้วแต่ชนิดของความช่วยเหลือ

เมื่อถามว่า ข่าวการขึ้นอัตราภาษีสหรัฐฯ กระทบความเชื่อมั่น โดยเฉพาะในตลาดหุ้น เช้าวันเดียวกันนี้ นายพิชัย กล่าวว่า เกิดขึ้นกับความรู้สึกของทุกประเทศคู่ค้า ตนประเมินสถานการณ์หลายประเทศ เขาก็ตกในที่นั่งคล้ายๆ เรา ซึ่งเป็นหน้าที่เราที่ต้องชี้แจง ที่ผ่านมาก็สุดๆ แล้ว แต่เชื่อว่าการใช้ความพยายามอย่างสูง และปัจจัยส่งออก จะช่วยทำให้จบได้

เมื่อถามว่า มองว่าอัตราภาษีระดับใด ถึงจะเหมาะสมให้เราแข่งขันได้ นายพิชัย กล่าวว่า ต้องถามว่าแข่งกับใคร และเขาได้อัตราภาษีเท่าไหร่ ตรงนั้นคือคำตอบ ส่วนประเทศเวียดนามนั้น เป็นเรื่องของสินค้าบางชนิด

เมื่อถามว่า จะบินไปเจรจากับสหรัฐฯ อีกเมื่อไหร่ นายพิชัย กล่าวว่า ”ไม่อีกเมื่อไหร่ ประชุมทุกวันต่อไปนี้“ ก่อนจะเดินขึ้นตึกบัญชาการไปทันที