'พริษฐ์' เมิน 'ฮุน เซน' บอกอย่าไปฟังมาก มีนายกฯใหม่ใน 3 เดือน

'พริษฐ์' ชี้เป้า 'นายกฯแพทองธาร' สางปมสังหาฝ่ายค้านกัมพูชากลาง กทม. เมิน 'ฮุน เซน' บอกอย่าฟังมากได้นายกฯใหม่ใน 3 เดือน
เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.2568 นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ออกมาเปิดเผย ประเทศไทยจะมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ภายใน 3 เดือน ว่า เป็นความพยายามของสมเด็จฮุน เซน ที่พยายามชี้นำสังคมว่า ตนเองรับรู้ถึงขั้นมีส่วนร่วมกับการเมืองไทย ดังนั้น เราอย่าไปหลงตามคำพูดของสมเด็จฮุน เซน เลย แต่สิ่งที่รัฐบาลควรจะพุ่งเป้ามากกว่า คือเรื่องการสืบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข้อเท็จจริง กรณีมีการสังหารนักการเมืองฝ่ายค้านกัมพูชาในประเทศไทยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นความเร่งด่วนที่รัฐบาลต้องดำเนินการ แต่เรายังไม่ได้ยินความชัดเจนจากนายกรัฐมนตรี เพราะเกี่ยวข้องในเรื่องสิทธิมนุษยชน เป็นสิ่งที่ควรดำเนินการ
นายพริษฐ์ กล่าวว่า การดำเนินการสอบสวนตรงนี้ จะทำให้เรามีแต้มต่อในเวทีต่างประเทศ ที่จะสะท้อนให้เห็นว่า เรายึดมั่นในหลักสากล และสิทธิมนุยชน ในกรณีที่เรามีข้อพิพาทระหว่างไทยกับกัมพูชาที่เกิดขึ้นอาจจะลุกลามถึงเวทีนานาชาติ ตนคิดว่า การมีพันธมิตรจากประเทศอื่นในโลก จะเป็นแต้มต่อให้กับประเทศไทยได้ ถ้านายกรัฐมนตรีจริงจัง และเดินหน้าเรื่องนี้ จะลบข้อครหาว่า ตนเองรับรู้เกี่ยวกับเหตุการณ์นี้หรือไม่ เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นในสมัยที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ถ้าไม่ดำเนินการ คนก็จะตั้งคำถามต่อว่า สาเหตุที่ไม่ดำเนินการเป็นเพราะรับรู้ด้วยหรือไม่
เมื่อถามว่า การที่กัมพูชาออกมาโจมตีว่าไทยให้ข้อมูลว่ากัมพูชาเป็นศูนย์กลางของอาชญากรรมคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นการทำลายมิตรภาพในภูมิภาค เราสามารถใช้กลไกใดตอบโต้ได้บ้าง นายพริษฐ์ กล่าวว่า การทำงานในประชาคมอาเซียน ซึ่งมักพูดเสมอว่า เราต้องมองเป็น 1 ประชาคม ถ้ามีส่วนไหนของประชาคมทำอะไรที่ทำลายความมั่นคง คุณภาพชีวิตของคนไทย จะให้อยู่นิ่งเฉย ก็คงไม่ใช่ ดังนั้น ตนยืนยันว่า ความร่วมมือระหว่างประเทศก็สำคัญ แต่ความร่วมมือระหว่างประเทศต้องไม่มาจากการทำให้การดำเนินการบางอย่างของเพื่อนบ้าน มาทำลายคุณภาพชีวิตและความปลอดภัยของคนไทย
เมื่อถามว่ามีคำแนะนำให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการอย่างไร นายพริษฐ์ กล่าวว่า เรื่องการเจรจาทวิภาคี คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาฯ ซึ่งมีนายรังสิมันต์ โรม รองหัวหน้าพรรคประชาชน เป็นประธาน จะมีการประชุมในวันที่ 26 มิ.ย.ที่จะถึงนี้ ซึ่งได้มีการเชิญนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ มาชี้แจง แต่ไม่รู้ว่าจะมาเอง หรือส่งตัวแทนมา และคิดว่า ข้อเสนอตรงนี้ เป็นข้อเสนอที่มีน้ำหนัก เพราะในคณะกรรมาธิการฯ มีตัวแทนของทุกพรรคการเมือง ซึ่งข้อเสนอก็จะส่งต่อให้รัฐบาล เรายืนยันเรื่องกลไกทวิภาคี แต่การมีพันธมิตรจากประชาคมโลก ก็สำคัญ ฉะนั้น การเอาจริงเอาจังกับเรื่องสิทธิมนุษยชน ไม่ใช่เป็นการรักษาเพื่อสิทธิอย่างเดียว แต่เป็นแต้มต่อให้กับประเทศไทย







