'กมธ.มั่นคง' หารือลับ ร่วม 'ฝ่ายมั่นคง' แก้ปมพิพาทไทย-กัมพูชา

'กมธ.มั่นคง' หารือลับ ร่วม 'ฝ่ายมั่นคง' แก้ปมพิพาทไทย-กัมพูชา

"กมธ.มั่นคง" ประชุมลับ ถก "ฝ่ายความมั่นคง" หาทางแก้ข้อพิพาทดินแดนไทย-กัมพูชา "รังสิมันต์" จี้ให้วางยุทธศาสตร์ก่อนถก เจบีซี 14 มิ.ย.

ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาฯผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการประชุมกมธ. เพื่อพิจารณาประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเชิญตัวแทนรัฐบาล ฝ่ายความมั่นคง นักวิชาการที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมทั้งนี้จะเป็นการประชุมลับและไม่มีการบันทึกการประชุมรวมถึงการถ่ายทอดสด เพื่อให้ทุกฝ่ายคุยกับกมธ.เต็มที่และตรงไปตรงมา และได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ทั้งนี้ในเบื้องต้นทราบว่าสถานการณ์ชายแดนมีความตึงเครียดจริงๆ

"ทางสภาฯ กับทางฝ่ายบริหารรวมถึงผู้ปฏิบัติ จะได้เห็นความร่วมไม้ร่วมมือกันในการแก้ปัญหานี้ พร้อมยืนยันว่าการทำสงครามการขัดกันด้วยอาวุธ ไม่จำเป็นต้องเป็นทางเลือก และยืนยันว่าทางออกที่จะพูดคุยกันแบบทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและไทย ยังเป็นทางออกที่เป็นไปได้ และเชื่อว่าเป็นทางออกที่จะสร้างบาดแผลให้กับทั้ง 2 ชาติน้อยที่สุด" นายรังสิมันต์ กล่าว

เมื่อถามว่า ประเด็นที่จะถามต่อหน่วยงานที่เข้ามาชี้แจงมีประเด็นอะไรบ้าง เป็นประเด็นที่จะนำไปพูดคุยในโต๊ะเจรจา JBC ด้วยหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เกี่ยวพันกับเรื่องที่จะนำไปพูดคุย รวมถึงการวิเคราะห์ว่าฝ่ายกัมพูชาต้องการอะไร ซึ่งเป็นคำถามสำคัญที่ยังไม่มีใครตอบได้

"ทั้งหมดที่เกิดขึ้น กัมพูชาต้องการอะไร ใช่ 3 ประสาท 1 ช่องบกจริงหรือไม่ ดังนั้นต้องพิจารณาให้ดี ส่วนที่จะร้องไปศาลโลกจะเป็นสิ่งที่กัมพูชาต้องการจริงๆ ใช่หรือไม่ รวมถึงต้องเตรียมการเรื่องความมั่นคง เพราะมีภัยคุกคาม  ขณะที่ยุทธศาสตร์ฝั่งไทย จะนำไปสู่การคลี่คลายความขัดแย้งคืออะไร ดังนั้นต้องคุยกันบนพื้นฐานของการมียุทธศาสตร์ และกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหมทำอะไร รวมถึงแนวทางการเจรจาวันที่ 14 มิ.ย. นี้จะเป็นอย่างไร" นายรังสิมันต์ กล่าว

เมื่อถามว่า ก่อนจะถึงวันที่ 14 มิ.ย. มีการปรับกำลังทหาร แล้วเราต้องใช้ไพ่ใดในการเจรจา นายรังสิมันต์ กล่าวว่า  เรื่องความมั่นคงทางทหารมีหลายส่วน ตนทราบดีว่าทางกัมพูชาได้เตรียมการเรื่องกำลังทหารมาโดยตลอดตั้งแต่มีประเด็นเรื่องเขาพระวิหาร ไม่ใช่แค่กำลังพล อาวุธ แต่รวมไปถึงการส่งกำลังบำรุงบริเวณชายแดนชาย ทางกัมพูชามั่นใจมากขึ้น แต่ในส่วนของไทยมีความได้เปรียบเรื่องเศรษฐกิจแนวชายแดน เราอาจจะได้ดุลการค้าเขา แต่เราต้องยอมรับว่ามีหลายภาคส่วนที่กัมพูชาเขามีความจำเป็น  เช่น กาสิโน ที่เป็นท่อน้ำเลี้ยงแต่ธุรกิจนี้ได้ใช้ประโยชน์จากคนไทยที่ไปทำงาน ไฟฟ้า และอินเตอร์เน็ตจากไทย  ดังนั้นธุรกิจที่อยู่ตามแนวชายแดน นี่ถือเป็นไพ่ที่สำคัญที่จะใช้ ยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว ทั้งแก้ปัญหาภายในประเทศ ปราบปรามแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์  ทำลายโครงสร้างแก๊งค์อาชญากรรมข้ามชาติ และสร้างแรงกดดัน และเพิ่มแต้มต่อให้กับการเจรจาของไทย

เมื่อถามว่า เรื่องตัดไฟตัดก่อนประชุมJBC หรือไม่ ประธานกมธ.ความมั่นคงฯ กล่าวว่า ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ยังมีอยู่ ตนไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องเก็บเอาไว้  ถ้าเราตัดไปก่อนตนเชื่อว่าเป็นการเพิ่มแต้มต่อให้กับประเทศไทย แม้มีผลกระทบหลายยด้านแต่ประเทศไทยต้องตัดสินใจในเชิงนโยบายเพื่อแก้ปัญหาแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ให้จบ 

เมื่อถามว่า การทำงานทางการทูตต้องทำแบบเชิงรุกมากกว่านี้ใช่หรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ใช่ วันนี้เราต้องคุยกันตรงไปตรงมา สายตาทั่วโลกมองว่ากัมพูชาเป็นประเทศเล็ก และมองว่าไทยไปรังแกเขาหรือไม่ เขาพยายามเอากรณีการเสียชีวิตของทหารกัมพูชาที่ถูกยิงบริเวณชายแดน ดังนั้นไทยต้องมียุทธศาสตร์ทำให้ต่างประเทศเห็นว่าความเป็นจริงคืออะไร  และไทยต้องมองถึงโอกาสและความเป็นไปได้ทางการทูตใหม่ๆ ซึ่งอาจต้องคุยกับจีน เวียดนาม หรือฝรั่งเศส และอีกหลายประเทศเพื่อเป็นทางเลือกใหม่ๆ ประเทศไทยต้องพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส  

นายรังสิมันต์ กล่าวย้ำว่ากรณีที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯลงพื้นที่ที่ช่องจอมจังหวัดสุรินทร์เป็นเรื่องดี แต่ไม่เห็นด้วยกับหัวข้อที่พูดคุยเรื่องการเปิด หรือ ปิดด่านให้ตรงกัน เพราะมองว่าไม่ใช่เวลา มีประเด็นอื่นที่สำคัญอีกมาก และนายกฯ ควรหยิบยกมาพูดคุย และสั่งการไปหน่วยความมั่นคงเพื่อลดความตึงเครียดทั้ง 2 ฝั่ง และใช้แนวทางทวิภาคี ทำอย่างมียุทธศาสตร์ หากไม่มี เชื่อว่าวันที่ 14 มิ.ย. จะลำบาก

เมื่อถามว่า มีการวิเคราะห์ว่าในกรณีของกัมพูชาอาจเกี่ยวโยงกับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาจากการดำเนินการของรัฐบาล แต่สุดท้ายโจทย์ใหญ่คือความเชื่อมั่น ว่ารัฐบาลจะใช้อำนาจตรงไปตรงมาชอบด้วยกฎหมาย ส่วนความสัมพันธ์ส่วนตัว เรื่องภายในครอบครัว ต้องไม่ใหญ่กว่าเรื่องของผลประโยชน์ของชาติ   

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับการประชุมกมธ. นั้นพบว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม และตัวแทนจากกระทรวงมหาดไทย สมช. เข้าร่วม ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศไม่ได้ส่งผู้แทนมาชี้แจง โดยให้เหตุผลว่าติดเตรียมข้อมูลเข้าร่วมประชุม JBC ในวันที่ 14 มิ.ย.