‘กล้าธรรม’ อัปไซส์ พรรคครึ่งร้อย ตัวแปร เบียด 'น้ำเงิน' ต่อรอง

หลังจากพรรคกล้าธรรม ฉลองชัยชนะในการเลือกตั้งซ่อมเขต 8 นครศรีธรรมราช ได้บิ๊กโอ ก้องเกียรติ เกตุสมบัติ  สส.คนที่ 25 รวมถึงการได้เอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น ที่ถูกขับจากภูมิใจไทย มาเป็นผู้แทนราษฎร คนที่ 26

ล่าสุด กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ สส.ชลบุรี พรรคประชาชน ที่ตัดสินใจร่วมงานกับกล้าธรรม แม้ต้นสังกัดจะไม่ขับตามใจอยาก เลือกดองไว้ แต่ในทางพฤตินัยก็คือ ปิดดีล เป็น สส.คนที่ 27 ของกล้าธรรมเรียบร้อย

ท่ามกลางการจับตาว่ายุทธศาสตร์ของกล้าธรรม ที่ทยอยดูดนักการเมืองต่างพรรคเข้ามารวมกัน แน่นอนว่าเป็นไปตามที่ ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรค เคยประกาศไว้ว่า จะทำพรรคให้เป็นพรรคใหญ่ และตามที่ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค ระบุจะมีนักการเมืองมาอยู่ด้วยอีกกว่า10 ชีวิต

กลยุทธ์สร้างกระแสให้พรรคดูเนื้อหอม ปฏิเสธเหตุผลสำคัญข้อหนึ่งไม่ได้ว่า เป็นเพราะกล้าธรรมได้คุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แบบเบ็ดเสร็จ สามารถเสกโครงการลงพื้นที่ได้ โดยเฉพาะเรื่องแหล่งน้ำเพื่อซื้อใจ สส. และแก้ปัญหาให้ชาวบ้าน แบบที่ กฤษฎิ์ สส.ส้มกลายพันธ์ุ ให้เหตุผลประกอบในการย้าย

แกนนำกล้าธรรมถูกถามมาตลอดว่า การที่พรรคมี สส.เพิ่ม จะส่งผลกับโควตารัฐมนตรี ที่จะได้เพิ่มขึ้นหรือไม่ คำตอบที่ได้ยินจากธรรมนัส และนฤมล ไปในทางเดียวกันว่าไม่เกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด

อีกเหตุผลหนึ่งที่ถูกมองได้เช่นเดียวกันว่า ในระหว่างที่ 2 เจ้าสำนัก "แดง-น้ำเงิน" ฟาดฟันกันถึงตาย เช่น กรณีเช็กบิลฮั้ว สว.ที่มีโอกาสสูงว่าจะขยายผลลามมาถึงคนระดับรัฐมนตรี ในจังหวะที่น่าจะใกล้คิวปรับ ครม. มีการพูดกันหนาหูว่า "นายใหญ่" อาจเล่นเกมโหด ยึดเก้าอี้มหาดไทย หรืออาจจะหนักถึงขั้นเขี่ยพ้นพรรคร่วมรัฐบาล เหมือนที่เคยจัดให้กับพลังประชารัฐมาแล้ว

“กล้าธรรม” จึงอาจเป็นพรรครองรับสถานการณ์ในการหาเสียงมาชดเชยให้รัฐบาลอะไรทำนองนั้น แต่ก็มีการคาดการณ์ว่า หากเขี่ย “ภูมิใจไทย” เพื่อล้างแค้นจริง สส.สีน้ำเงิน หลายคนก็คงได้เวลาตัดสินใจ และน่าจะมีอยู่หลายคนพร้อมยกมือหนุนรัฐบาลเพื่อไทย หากพรรคต้นสังกัดต้องเป็นฝ่ายค้าน เพราะบางคนใจไม่อยู่กับพรรคมานานแล้ว

การเร่งเกมสร้างโมเมนตั้มของกล้าธรรม ให้นักเลือกตั้งเข้ามาร่วมชายคา จะว่าไปก็คล้ายกับตอนพลังประชารัฐ ช่วงตั้งพรรค มีข่าวนักการเมืองแต่ละมุ้งทั่วสารทิศ ตบเท้าสร้างกระแสเข้าพรรคไม่เว้นแต่ละวัน

ดังนั้น กล้าธรรม ภายใต้นำของธรรมนัส น่าจะเป็นยาสารพัดนึกของนายใหญ่ ทั้งระยะเฉพาะหน้า หากจะตัดชีพจรสีน้ำเงิน หรือในระยะถัดไปในการเลือกตั้งใหญ่ กล้าธรรม ที่กำลังอัปไซส์อย่างต่อเนื่อง น่าจะวางตำแหน่งตัวเองเป็นพรรคขนาดไม่เล็ก และไม่ใหญ่จนเกินไป ประมาณ 40-60 ที่นั่ง หรือมากกว่านั้น จะขยับกลายเป็นพรรคตัวแปรทันที มีอำนาจต่อรองเบียดภูมิใจไทยทันที

เมื่อส่องขุมกำลังในกล้าธรรมวันนี้ มีทั้งบ้านใหญ่ และตัวบุคคลที่แข็งในหลายพื้นที่ ถ้าได้เลือดใหม่เคมีตรงกันเข้ามา ตัวเลข สส.ตามที่คาดการณ์ไว้ก็มีโอกาสเป็นไปได้ค่อนข้างสูง

ยิ่งสถานการณ์ที่พรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ ลดความเข้มแข็งลงจนน่าเสียวไส้ ทั้งประชาธิปัตย์ และรวมไทยสร้างชาติ ส่วนฝ่ายค้านนั้นไม่ต้องพูดถึง ทั้งไทยสร้างไทย และพลังประชารัฐ ก็อยู่ในภาวะระส่ำมาตลอด

จึงไม่น่าแปลกใจ หากกล้าธรรมจะเห็นช่องว่างตรงนี้ แล้วคอยจัดแจงเป็นบ้านหลังใหม่ให้นักเลือกตั้งจากแต่ละพรรค ที่อนาคตไม่แน่นอนมาร่วมหอลงโรง

ความมั่นใจเต็มเปี่ยมของกล้าธรรม หลังเอาชนะภูมิใจไทย ในศึกเมืองคอน เขต 8 ที่ได้ชื่อว่าเป็นสังเวียนที่ยากที่สุดสนามหนึ่ง ยังทำสำเร็จได้ พื้นที่อื่นๆ ในศึกเลือกตั้งใหญ่ที่ต้องชนกับภูมิใจไทย ซึ่งตอนนี้มีเรื่องให้ห่วงหน้าพะวงหลัง ยี่ห้อกล้าธรรม เปิดศึกเอาแน่

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์