‘ส้ม-ฟ้า’ชูแบรนด์พรรค-คน สู้‘บ้านใหญ่’ ชิงสส.เมืองคอน

“พรรคประชาชน - พรรคประชาธิปัตย์” กลางศึกเลือกตั้งซ่อม ชิงเก้าอี้ สส. นครศรีธรรมราช เขต 8 มาแนวเดียวกัน ขายแบรนด์พรรค - ขายแบรนด์คน ปลุกกระแสไม่ “ซื้อเสียง” สู้กับการเมือง “บ้านใหญ่” อาวุธครบมือ

โดยเย็นวันที่ 16 เม.ย. ที่ผ่านมา “เดอะทิม” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ของพรรคประชาชนที่ อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช ช่วย ณัฐกิตต์ อยู่ด้วง-ปรีชา ผู้สมัครพรรคประชาชน

พร้อมขน “ขุนพลสีส้ม” ประกอบด้วย “ศิริกัญญา ตันสกุล” “ภคมน (ลิซ่า) หนุนอนันต์” “กรุณพล เทียนสุวรรณ” “พนิดา มงคลสวัสดิ์” และ “ศรายุทธิ์ ใจหลัก” เลขาธิการพรรคประชาชน

คะแนนด้อมส้มในตัวของ “พิธา” ยังพอมีอยู่บ้าง แม้จะไม่พีคเหมือนในช่วงเลือกตั้งปี 2566 การกลับเมืองไทยเที่ยวนี้ มีโปรแกรมขึ้นเหนือไปเล่นสงกรานต์ แต่มีหมายด่วนจากสนามเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีธรรมราช เขต 8 ปรากฏว่า “ณัฐกิตต์” แต้มการเมืองเริ่มมาแรง “พิธา” จึงเปลี่ยนแผนล่องใต้ไปช่วยหาเสียงทันที

พรรคสีส้มมีโอกาสเป็น “ตาอยู่” ในท่ามกลางการต่อสู้ห้ำหั่นกันเองของพรรคบ้านใหญ่-ขาใหญ่ ซึ่งมีฐานเสียงเหนียวแน่น แต่ต้องมาเปิดศึกชิงคะแนนกันเอง

อย่าลืมว่าสูตร “ตาอยู่” ทำให้ “ขุนพลสีส้ม” ปักธงในพื้นที่ภาคใต้มาแล้ว โดยเฉพาะ จ.ภูเก็ต เครือข่าย “บ้านใหญ่” ของทุกพรรค ส่งผู้สมัครลงชิงเก้าอี้ สส. บทสรุป ผู้สมัคร สส. สีส้ม เข้าวินกวาดเรียบ 3 เก้าอี้

มารอบนี้ “พรรคสีส้ม” เตรียมการสำหรับการเลือกตั้งซ่อม เขต 8 นครศรีธรรมราช มาตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นพรรคก้าวไกล โดยวันที่ 3 ก.พ. 2567 ชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินทางลงไป จ.นครศรีธรรมราช เพื่อทำกิจกรรมเช็กความพร้อม โดยเชิญผู้ประสงค์จะลงสมัคร สส.มาพบกับ “หัวหน้าต๋อม” ที่หมู่บ้านหลังโรงแรมจินเฮง ต.จันดี อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช

ทีมงานพรรคสีส้ม มีความเร่าร้อน เนื่องจากผลการเลือกตั้ง สส.นครศรีธรรมราชสมัยที่แล้ว คะแนน สส.บัญชีรายชื่อ มาเป็นอันดับ 2 จำนวน 262,656 คะแนน รองจากพรรครวมไทยสร้างชาติ

เฉพาะเขต 8 “ปรีชานนท์ สรรพจิตต์” สวมเสื้ออดีตพรรคก้าวไกลได้ 11,587 คะแนน ซึ่ง ปรีชานนท์ เป็นนักธุรกิจเพื่อสังคม ประกอบวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแปรรูปไม้ผลต้นน้ำตาปี อ.พิปูน

เมื่อการเลือกตั้งซ่อมมาถึงจริงๆ “พรรคประชาชน” ได้เลือก ณัฐกิตต์ อยู่ด้วง-ปรีชา เป็นผู้สมัคร สส.ของพรรค เขาเป็นลูกหลานคนเมืองคอน เกิดที่ อ.พิปูน ปัจจุบันเป็นอาจารย์สถาบันเทคโนโลยีแห่งสุวรรณภูมิ และอนุกรรมาธิการฯหลายชุดในโควตาพรรคสีส้ม

ฝั่ง “พรรคสีฟ้า” แม้ “ชินวรณ์ บุณยเกียรติ” จะพกดีกรีอดีต สส.นครศรีธรรมราช 9 สมัย แต่สนามเลือกตั้งซ่อมหนนี้ โอกาสชนะมีน้อย เพราะพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้มี “กระแส” เหมือนในอดีต แถม “กระสุน” จาก “บิ๊กเนม” ยังถูกเก็บใส่ลิ้นชัก เตรียมเอาไว้สู้เลือกตั้งใหญ่เสียมากกว่า

“ชินวรณ์” จึงต้องหาเสียงด้วยการชูความสำเร็จของ “พรรคประชาธิปัตย์” ในอดีต พร้อมควง “นายหัว” ชวน หลีกภัย มาช่วยเดินหาเสียงให้

มนต์ขลัง “นายหัวชวน” จะจางหายไปจาก “เมืองคอน” มานานหลายปีแล้ว แต่ยังพอหลงเหลือคนรักอยู่บ้าง แม้จะเพียงน้อยนิด แต่ก็ถือเป็นแต้มการเมือง ไม่แปลกที่ “ชินวรณ์” และลูกสาว บีท-ปุณณ์สิริ จะประสบความพ่ายแพ้แบบไม่ได้ลุ้น

การเลือกตั้งปี 2566 เพราะเดิมที “สจ.บิ๊กโอ” ก้องเกียรติ เกตุสมบัติ อดีต ส.อบจ.นครศรีธรรมราช เขต อ.ฉวาง ได้เสนอตัวลงสนามในนาม ปชป. เนื่องจาก “สจ.บิ๊กโอ” อยู่ในทีมเดียวกับ กนกพร เดชเดโช อดีตนายก อบจ.นครศรีธรรมราช มี “สส.แทน” ชัยชนะ เดชเดโช สส. นครศรีธรรมราช คอยให้การสนับสนุน

เมื่อ “ชินวรณ์” พ่อตาของ “สจ.บิ๊กโอ” ยืนกรานจะลงสนามเพื่อกู้ศักดิ์ศรี สส. 9 สมัย ทำให้ลูกเขยต้องไปสมัครพรรคกล้าธรรม

จึงน่าแปลกที่ “พรรคประชาธิปัตย์” ยุคผู้นำบ้านใหญ่ มีมติให้ชินวรณ์ลงสนาม พร้อมกับวางแนวทางหาเสียงไว้คือ ไม่ซื้อเสียง หรือทำการเมืองสุจริต แต่กลับไร้เงา “บิ๊กปชป.” มาช่วยหาเสียง มีแต่ “นายหัวชวน” ของแสลง “ผู้นำบ้านใหญ่สีฟ้า” ที่ออกแรงช่วย

“ชินวรณ์” จึงหาเสียงเน้นขายแบรนด์พรรค แบรนด์นายชวน ซึ่งตกเป็นรองแบรนด์พรรคประชาชนอย่างเห็นได้ชัด

“พรรคสีส้ม - พรรคสีฟ้า” ระดมขุนพลรุ่นเก่า - รุ่นใหม่ หวังชิงแต้มจากประชาชน “นครศรีธรรมราช” เขต 8 วางยุทธศาสตร์ “บ้านใหญ่” แข่งกันเอง ตัดคะแนนกันเอง หวังเป็น “ตาอยู่” เข้าวิน.