ข้าวดิ่ง-น้ำมันปาล์มพุ่ง สส.ค่ายแดง ซักฟอก'รมต.(ป้าย)แดง'

หมดเวลาเกรงใจ เมื่อปรากฏการณ์ สส.ค่ายแดง ได้จังหวะที่ “นายกฯอุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร ติดภารกิจประชุม ครม.สัญจร สงขลา 

ตามปฏิทินงานพรรค มีการประชุม สส.ทุกวันอังคาร โอกาสเปิดให้สะท้อนปัญหา และวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของ “รัฐมนตรี” อย่างตรงไปตรงมา

ในการประชุม สส.เพื่อไทย ที่มี “วิสุทธิ์ ไชยณรุณ” ประธาน สส. ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม ช่วงหนึ่งได้เปิดให้ สส.แสดงความคิดเห็นต่อการทำงานในรัฐบาล ปรากฏว่าอดีตรัฐมนตรี ที่ผงาดขึ้นมา “รมต.ป้ายแดง” ในรัฐบาลแพทองธาร โดนกระหน่ำอย่างหนัก

จะว่าไปแล้วก่อนการประชุม สส.ประธาน “วิสุทธิ์” ได้แจ้งวาระหารือเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อมีตัวแทน สส.รายหนึ่งเปิดประเด็นราคาข้าวร่วง ราคาน้ำมันปาล์มพุ่งทำให้เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญถูกตีตกไปโดยปริยาย กลายเป็นวาระ “ซักฟอกรัฐมนตรี”

สส.ค่ายแดง โจมตีประเด็นที่ รมต.ไม่ช่วยดูแลราคาสินค้าการเกษตร โดยเห็นว่าเจ้ากระทรวง ปล่อยให้ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำลงอย่างมาก โดยเฉพาะปัญหา "ราคาข้าว" ซึ่งกระทบฐานเสียงของพรรค

พร้อมกับยกตัวเลข ในช่วงเดือนส.ค.2567 ที่รัฐบาลแพทองธาร เข้ามาบริหารประเทศ ราคาข้าวเจ้าเปลือก 15% ราคากรุงเทพฯ อยู่ที่ 11,000 บาทต่อตัน แต่ในเดือนก.พ.2568 ราคาข้าวเจ้าเปลือก 15% ราคากรุงเทพฯ อยู่ที่ 8,200 บาทต่อตัน ผนวกกับมีสัญญาณ การชุมนุมของ “กลุ่มชาวนาภาคกลาง” มากว่า 2 สัปดาห์ อาทิ ชาวนา จ.อุทัยธานี จ.สุโขทัย

สส.ค่ายแดงมองว่า สถานะรัฐมนตรีควรมีความเป็นมืออาชีพ เพราะหากรับรู้สัญญาณว่า ราคาข้าวจะร่วงหรือจะมีการชุมนุมของกลุ่มชาวนา ต้องรับรู้สถานการณ์ล่วงหน้า เพื่อหามาตรการแก้ไข เสนอต่อ ครม.และการที่ชาวนาภาคกลางเริ่มออกมาชุมนุม ทำให้ “นายกฯ อุ๊งอิ๊ง - รัฐบาล” เสียภาพลักษณ์

ที่สำคัญปัญหาราคาข้าวตก โดยไม่มีมาตรการรับมือ ทำให้ “พรรคเพื่อไทย” เสียแต้มการเมืองจากฐานเสียง ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกร

อีกปมที่ “สส.ค่ายแดง” กังวลใจ-กังขาต่อการทำงานของ รมต.รายนี้ คือปัญหาน้ำมันปาล์มขวดขาดตลาด แม้น้ำมันปาล์มจะผลิตพอใช้ในประเทศมาตลอด แต่ตอนนี้ราคาขยับจากช่วงเดือนส.ค.2567 ราคา 45.5 บาทต่อขวด 1 ลิตร มาในเดือนก.พ.2568 ราคา 57.5 บาทต่อขวด 1 ลิตร ราคาพุ่งสูงขึ้น 12 บาทต่อขวด 1 ลิตร

หากย้อนไปดูประวัติศาสตร์ ราคาน้ำมันปาล์มขวดของประเทศไทย เคยขาดตลาดในช่วงรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จนทำให้เกิดปรากฏการณ์ ประชาชนต่อคิวซื้อน้ำมันปาล์มขวดมาแล้ว โดยว่ากันว่า ในห้วงเวลาดังกล่าว มีขบวนการกักตุนน้ำมันปาล์มขวด เพื่อดันราคาให้พุ่งสูง เปิดช่องให้ “เอกชนรายใหญ่” ฟันส่วนต่าง

ตัดกลับมายังยุคนี้ เมื่อราคาน้ำมันปาล์มขวดพุ่งสูงขึ้นแบบผิดปกติ ทำให้ “สส.ค่ายแดง” ข้องใจการทำงานของรัฐมนตรีอีกประเด็น เพราะเห็นว่า หากไม่สามารถควบคุมราคาได้ จะกระทบต่อผลงานของพรรคอย่างเลี่ยงไม่ได้ 

ผนวกกับ “รมต.ป้ายแดง” แทบไม่มีมิตรรักสหายเลิฟอยู่ใน “ค่ายสีแดง” สักเท่าไร จึงไม่มี “สส.” รายใด ยกมือขอชี้แจงเพื่อปกป้อง บรรยากาศในที่ประชุมจึงดุเดือด ถึงขั้นพีค เมื่อมีข้อเสนอให้รัฐมนตรีรายนี้ ควรพิจารณาตัวเอง

ว่ากันว่า “รมต.ป้ายแดง” มาจากสาย “พี่ชาย” ของ “นายใหญ่” บ้านจันทร์ส่องหล้า ไม่ได้ยึดโยงกับกลุ่ม สส. จึงไม่แปลกที่จะมีปฏิบัติการรุกไล่ เมื่อหมดเวลาเกรงใจ

ขณะเดียวกัน ยังมีข้อกังขาเดิม คือ การเดินสายโรดโชว์ในต่างประเทศของ “รมต.ป้ายแดง” ที่พักหลังแทบจะไม่อยู่ประจำการในประเทศ แต่มักปรากฏตัว โคจรไปตามประเทศต่างๆ แม้แต่ข้าราชการก็แอบหวั่นเรื่องการใช้งบฯ อีเวนต์ทัวร์นอก จนเป็นจุดอ่อนให้ สส.ในพรรคหยิกยกมาโจมตีเช่นกัน

นอกจากนี้ จับตาว่าหากมีการปรับ ครม.ชื่อของ “รมต.ป้ายแดง” จะอยู่หรือจะปลิว แม้ “นายกฯ อุ๊งอิ๊ง” จะแสดงเจตจำนง ยังไม่ปรับ ครม.โควตาพรรคเพื่อไทย แต่เมื่อลูกพรรคออกมาขย่มรัฐมนตรี เก้าอี้ที่มั่นคง อาจจะสั่นคลอนอยู่ไม่น้อย

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์