แจกเงินดิจิทัลเริ่มแล้ว ‘เศรษฐา’ ยันทำตามกฎหมาย - วินัยคลัง ถึงมือประชาชนไตรมาส 4

แจกเงินดิจิทัลเริ่มแล้ว ‘เศรษฐา’ ยันทำตามกฎหมาย - วินัยคลัง ถึงมือประชาชนไตรมาส 4

ทำตามสัญญา! ‘เศรษฐา’ แถลงนโยบายแจกเงินดิจิทัลเกิดขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว! ใช้งบ 5 แสนล้าน รัฐบาลใช้ความพยายามสูงสุดฝ่าฟันข้อกฎหมาย เป็นไปตามวินัยการเงินการคลัง จะทำอย่างโปร่งใส - ซื่อสัตย์ - รอบคอบ เปิดให้ลงทะเบียนไตรมาส 3/67 ส่งเงินถึงมือประชาชนไตรมาส 4/67

เมื่อวันที่ 10 เม.ย.2567 ที่ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง แถลงข่าวผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ตอนหนึ่งว่า นโยบายการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet เป็นนโยบายเรือธงของรัฐบาล นโยบายยกระดับเศรษฐกิจของประเทศ และประชาชน ได้เกิดขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว รัฐบาลได้ใช้ความพยายามสูงสุดฝ่าฟันข้อจำกัด รัฐบาลได้ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน ส่งมอบนโยบายพลิกชีวิตประชาชนได้ และที่สำคัญเป็นไปตามตัวบทกฎหมายทุกประการ อยู่ในกรอบวินัยการเงินการคลังอย่างเคร่งครัด โดยประชาชนร้านค้าจะได้ลงทะเบียนได้ในไตรมาส 3/2567 และเงินส่งตรงถึงประชาชนในไตรมาส 4/2567

นายเศรษฐา กล่าวว่า นโยบายนี้ เป็นการใส่เงินในระบบเศรษฐกิจอย่างทั่วถึงกระจายทุกพื้นที่ ให้หมุนเวียนในระบบถึงฐานราก ยกระดับคุณภาพชีวิต และสร้างโอกาสในการประกอบอาชีพของประชาชน และภาคธุรกิจ เกิดการผลิตสินค้าที่มากขึ้น นำไปสู่การจ้างงาน สร้างอาชีพ เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ รัฐบาลได้ผลตอบแทนทางภาษี เป็นการวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัลให้กับประเทศ เตรียมพร้อมประเทศให้เข้าสู่เศรษฐกิจสมัยใหม่ เพิ่มความโปร่งใสการชำระเงิน

แจกเงินดิจิทัลเริ่มแล้ว ‘เศรษฐา’ ยันทำตามกฎหมาย - วินัยคลัง ถึงมือประชาชนไตรมาส 4

นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า นโยบายนี้มีวัตถุประสงค์กระตุ้นเศรษฐกิจ มีเม็ดเงินหมุนเวียนในพื้นที่ ลดภาระค่าครองชีพ ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน เช่น กลุ่มเปราะบาง กลุ่มเกษตรกร เป็นต้น เพื่อให้ประชาชนเข้มแข็งด้านเศรษฐกิจ พึ่งพาตนเองได้ สร้างโอกาสประกอบอาชีพของประชาชน ก่อให้เกิดนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีดิจิทัล อันเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคมโดยรวม ทั้งนี้ความคุ้มค่าจะให้สิทธิแก่ประชาชนจำนวน 50 ล้านคนผ่านดิจิทัลวอลเล็ต วงเงิน 5 แสนล้านบาท กำหนดใช้จ่ายในร้านค้าที่กำหนด เป็นการเติมเงินลงสู่ฐานราก ส่งผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย 1.2-1.6% จากกรณีฐานครั้งนี้ขึ้นอยู่กับรายละเอียดของโครงการ
    
“รัฐบาลจะดำเนินโครงการให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ 2560 โดยกระบวนการต่างๆ เป็นไปตามกฎหมาย และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง โปร่งใส ตรวจสอบได้ ต้องเป็นไปด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต รอบคอบ และระมัดระวัง เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศ และประชาชนโดยรวม รักษาวินัยการเงินการคลังของรัฐอย่างเคร่งครัด” นายเศรษฐา กล่าว

แจกเงินดิจิทัลเริ่มแล้ว ‘เศรษฐา’ ยันทำตามกฎหมาย - วินัยคลัง ถึงมือประชาชนไตรมาส 4

ผู้สื่อข่าวถามว่า มาตรการที่ออกในวันนี้ ความรู้สึกลึกๆ ของนายกฯ ผิดกับความตั้งใจแรกในตอนหาเสียงอย่างไรบ้าง นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็ระยะเวลาที่จะเกิดขึ้นได้ แน่นอนรัฐบาลต้องฟังเสียงของประชาชน ที่คาดว่าที่แรกจะออกต้นปีนี้ แต่ก็เลยไปถึงปลายปี อย่างที่เรียนว่า ต้องฟังเสียงของทุกคน ที่ให้คำแนะนำ ให้เสนอแนะ และพยายามที่จะตั้งคณะกรรมการต่างๆ มา ต้องมีการดูอย่างดี อย่างละเอียด เพื่อให้เป็นโครงการที่โปร่งใส ซื่อสัตย์ สุจริต ผลประโยชน์ทุกบาททุกสตางค์ตกอยู่กับประชาชน
    
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนรายละเอียดของโครงการ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง และนายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง จะเป็นผู้แถลงต่อไป

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์