'พริษฐ์' ทวงสัญญาแก้ รธน.ใหม่ ชวนจับตา 3 ไพ่ตายรัฐบาล สืบทอดอำนาจเก่า

'พริษฐ์' ทวงสัญญาแก้ รธน.ใหม่ ชวนจับตา 3 ไพ่ตายรัฐบาล สืบทอดอำนาจเก่า

'ไอติม พริษฐ์' อภิปราย ม.152 ทวงสัญญากลางสภาฯ ไหนบอกจะแก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่ ชวน ปชช.จับตารัฐบาลวาง 3 ไพ่ตาย ตั้ง ส.ส.ร.แบบผสม-กินรวบ กกต.-สว. วางเงื่อนไขสืบทอดอำนาจเก่า

เมื่อวันที่ 4 เม.ย. 2567 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 เป็นวันที่ 2 มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายทวงถามถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่รัฐบาลสัญญาไว้กับประชาชน ว่า การกระทำของรัฐบาลเป็นเหมือนตลกหกฉาก โดยฉากสุดท้ายที่ส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ตัดสินเกี่ยวกับการทำประชามติ ไม่ทราบว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยเมื่อใด โดย 6 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ ทั้งที่ย้ำว่ามีวิกฤตความเห็นต่างที่จะแก้ไข ข้อสรุปไตรมาสแรก ของปี 67 แต่เลยเวลาแล้ว 3-4 วัน แต่ในมิติของรัฐธรรมนูญอยู่จุดเดิม และให้อำนาจตุลาการเป็นผู้ตัดสินเรื่องดังกล่าว

นายพริษฐ์ กล่าวว่า หากการแก้ไขรัฐธรรมนูญยังล่าช้าต่อไป อาจสร้างความเสียหายที่ประเทศไทยสูญโอกาสมีรัฐธรรมนูญใหม่ใช้ก่อนการเลือกตั้ง เพราะตามกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ หากรัฐบาลดำเนินการตั้งแต่แรกจะใช้เวลาตามเทอมของรัฐบาล และก่อนการเลือกตั้ง แต่หากต้องรอฟังศาลรัฐธรรมนูญ ที่ผลอาจออกมาได้ 2 ทาง คือ ทำประชามติสองครั้ง เป็นไปได้ที่จะจัดรัฐธรรมนูญใหม่ และ กฎหมายประกอบได้ทันกรอบ 4 ปี แต่หากทำประชามติ 3 ครั้ง เสี่ยงต้องกลับมาเริ่มต้นกระบวนการใหม่ ไม่ได้รัฐธรรมนูญใหม่ และกฎหมายประกอบก่อนการเลือกตั้ง

นายพริษฐ์ กล่าวอีกว่า แม้มีรัฐธรรมนูญใหม่ในรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน แต่รัฐบาลของนายเศรษฐาที่ตั้งได้ และอยู่ได้ จากใบบุญอำนาจเดิม จึงไม่ไว้ใจให้ประชาชนออกแบบการเมือง และจัดทำกติกาสูงสุดตามที่ประชาชนคาดหวัง ทั้งนี้ ตนขอทำนายว่า รัฐบาลจะมีไพ่ไม้ตายที่เตรียมมาใช้ คือ 1.สภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) สูตรผสม จากการเลือกตั้ง และแต่งตั้ง เพื่อให้โหวตแข่งในประเด็นที่ต้องการผลักดัน 2.กินรวบคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่หมกเม็ดไว้ในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทย ซึ่งยื่นเมื่อต้นปี 2567 ผ่านกลไกของคณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญที่มีสัดส่วนจากรัฐบาล และสส.ฝ่ายรัฐบาลมากกว่าฝ่ายค้าน และ 3.ด่านทางผ่านวุฒิสภา ที่ได้สิทธิเห็นชอบเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญที่ สสร.ยกร่าง ก่อนนำไปทำประชามติ แม้ว่าจะมีสว.ชุดใหม่ เชื่อว่ายังยึดโยงกับเครือข่ายอำนาจเดิม

“ผมทำนายว่ารัฐบาลคิดค้น และทยอยใช้เพื่อควบคุมรัฐธรรมนูญใหม่ ทั้งนี้ หากคำทำนายเป็นจริง คือรัฐบาลเอาความคิดของตนเองเป็นใหญ่มากกว่าประชาชน เพราะรัฐบาลผลิตนวัตกรรมล็อกสเปครัฐธรรมนูญ แบบนี้คือประชาธิปไตยที่ขอใบอนุญาต ผมเห็นท่าทีของพรรคเพื่อไทยพยายามออกแบบกลไกให้อำนาจที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งแทรกแซง ขอถามนายกฯที่มาจากพรรคเพื่อไทยว่าเชื่อในอำนาจประชาชนหรือไม่ หากการพ่ายในสนามเลือกตั้งครั้งแรก จึงมองว่าไม่ได้เปรียบในสนามเลือกตั้ง จึงต้องหากระบวนการ” นายพริษฐ์ กล่าว

นายพริษฐ์ กล่าวด้วยว่า ขอให้รัฐบาลยืนยันว่าไม่ต้องการกินรวบ และไม่ต้องขอใบอนุญาตจากสว. ก่อนการทำประชามติ เพื่อให้ความหวังประชาชนที่ต้องการเห็นประชาธิปไตยเต็มใบไม่แตกสลาย ดังนั้น ตนขอเสนอแนะต่อการทำประชามติ ว่าให้ปฏิเสธคำถามยัดไส้ ต้องตั้งคำถามเปิดกว้าง และสนับสนุน สสร.ที่มาจากการเลือกตั้ง 100% สนับสนุนการแก้ไขรายมาตราให้เป็นประชาธิปไตยและสนับสนุนเร่งแก้ไข พ.ร.บ.ประชามติ ที่รออยู่ในระเบียบวาระประชุม

“ความสำเร็จหรือล้มเหลวของรัฐบาล ต่อการผลักดันรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นประชาชนในความจริงใจและรักษาคำพูดและสัจจะที่ให้ไว้ประชาชน” นายพริษฐ์ กล่าว