ก้าวไกล ชำแหละ'ตั๋วตร.'ซุกขยะใต้พรม 'เศรษฐา' โยนก.ตร.ปัดล้วงลูกสีกากี

ก้าวไกล ชำแหละ'ตั๋วตร.'ซุกขยะใต้พรม 'เศรษฐา' โยนก.ตร.ปัดล้วงลูกสีกากี

ก้าวไกล ชำแหละ"ตั๋วตร." 1-10 ล้าน เด้ง "2นายพล" ซุกขยะใต้พรม แฉส่วยG PASS ด้าน "เศรษฐา" โยนก.ตร.ปัดล้วงลูกสีกากี

ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ญัติอภิปรายทั่วไป โดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา152  น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า ยุคนี้เป็นยุคตกต่ำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) จากสมรภูมิแย่งชิงผบ.ตร. ของนายตำรวจเบอร์1และเบอร์2 เป็นศึกช้างชนช้าง เกิดความวุ่นวายในตร. เพราะการแต่งตั้งผบ.ตร.ของนายกรัฐมนตรีทำไม่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ ทราบว่ามีโทรศัพท์ลึกลับมาสั่งการในวันแต่งตั้งผบ.ตร.นายกฯยังพูดในที่ประชุมพรรคเพื่อไทยวันที่ 21พ.ย.2566 เรื่องการแต่งตั้งตำรวจระดับผกก.มีคนสมหวังและผิดหวัง ไม่รู้นายกฯทราบก่อนที่จะมีการลงนามแต่งตั้งผกก.ในวันที่ 1ธ.ค.2566ได้อย่างไร 

สะท้อนเรื่องตั๋ว ทราบว่า ระดับรองผกก.ขึ้นเป็นผกก.ใช้เงิน10ล้านบาท  สารวัตรเป็นรองผกก. ใช้1.5ล้านบาท เงินที่จ่ายไปจะไปได้คืนจากส่วย ส่วนที่นายกฯสั่งเด้ง 2นายตำรวจใหญ่มาช่วยราชการ อาจเป็นแค่การกวาดปัญหาไว้ใต้พรม ไม่รู้เป็นการฟอกขาวตร.หรือไม่

 รัฐบาลปล่อยให้ปัญหาตำรวจคาราคาซัง ไม่ตั้งใจแก้ปัญหาระบบตั๋วตำรวจ อย่าให้ใครปรามาสนายกฯได้ว่า เป็นแค่เหรียญอีกด้านของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี หรือแก้ปัญหาแบบฉบับบ้านจันทร์ส่องหล้า 
กางหลักฐานตร.รับส่วยกลางสภาฯ
 

ขณะที่นายจรยุทธ จตุพรประสิทธิ์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล อภิปรายพุ่งเป้าเรื่องส่วยรถบรรทุก ชื่อ G PASS จ่ายผ่านสะดวก ให้มีการใช้รถบรรทุกเชื้อเพลิงนอกเวลาที่กำหนด เป็นห่วงจะย้อนรอยอุบัติเหตุรถแก๊สระเบิดปี2533 ถ.เพชรบุรี ทั้งนี้นายจรยุทธเปิดหลักฐานเป็นซองเอกสารที่ระบุชื่อสถานีตำรวจหลายแห่งทั่วประเทศทั้งในกทม.และต่างจังหวัด พร้อมระบุที่ตั้งบริษัทขนส่งที่มีการจ่ายเงินให้ตำรวจ ตลอดจนรายละเอียดช่องทางสื่อสารระหว่างบริษัทกับสถานีตำรวจ ทั้งเบอร์โทรศัพท์ หมายเลขบัญชีธนาคาร

ตนจึงลองแอดไลน์และโอนเงินเข้าไป ไปปรากฏว่า ชื่อบัญชีธนาคาตรงกับชื่อไลน์ ทำให้เข้าใจว่า เป็นบัญชีตรง ไม่มีบัญชีม้ามาเกี่ยวข้อง หลังจากนี้จะนำหลักฐานฝากประธานสภาฯส่งไปยังนายกรัฐมนตรี ให้ดำเนินการอย่างเต็มที่
 

ทำให้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ลุกขึ้นชี้แจงต่อที่ประชุม ว่า ในฐานะนายกรัฐมนตรีและประธานคณะกรรมการข้าราชการตํารวจ(ก.ตร.) ยืนยันว่า ไม่อาจใช้อำนาจแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) รองผบ.ตร. รวมทั้งรองลงมาได้เพียงลำพัง แต่เป็นการพิจาณณาร่วมกันของกรรมการ นายกฯก็ไม่เคยใช้อำนาจครอบงำทั้งทางตรงและทางอ้อม  ขณะที่การทำหน้าที่มีการเปิดกว้างรายชื่อที่มีการแต่งตั้งอย่างเปิดเผยไม่มีการรวบรัดเร่งรีบและยึดหลักนิติธรรม

ขณะนี้แม้มีปัญหาในสำนักงานตำรวจแห่งชาติตนไม่เคยนิ่งเฉยและได้แก้ปัญหาทันทีอาทิ แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะที่ส่วนไหนอยู่ในกระบวนการยุติธรรมตนก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมดำเนินไป โดยไม่มีการก้าวล่วงและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายวันนี้ผบ.ตร.ได้แถลงรวมถึงดำเนินการกับนายตำรวจที่ตกเป็นข่าวถือว่าเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย

ขอยืนยันในฐานะนายกฯรัฐมนตรีและประธานก.ตร.จะเร่งรีบแก้ไขและช่วยกอบกู้ภาพพจน์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและกวดให้แก้ไขปัญหาสังคมที่มีอยู่ หากลูกน้อยหรือใครเข้าไปเกี่ยวข้องก็พร้อมที่จะดำเนินการตามกฎหมาย