'ก้าวไกล' แถลงเบื้องหลัง กมธ.งบฯ 67 จี้รัฐบาลหาทางลงแจกเงินดิจิทัล

'ก้าวไกล' แถลงเบื้องหลัง กมธ.งบฯ 67 จี้รัฐบาลหาทางลงแจกเงินดิจิทัล

'ศิริกัญญา' นำทัพ สส.ก้าวไกล แถลงเบื้องหลัง กมธ.งบฯ 67 โวยสภาฯมีอำนาจน้อย หน่วยรัฐใช้งบไปพลางแล้ว หวังแก้ช่องโหว่โยกอำนาจจาก ผอ.สำนักงบฯไปที่นายกฯ จะได้มีคนรับผิดชอบ กังขาตัดงบใหญ่วันสุดท้าย จี้รัฐบาลต้องหาทางลงแจกเงินดิจิทัล เหน็บไม่ได้เกิดแน่

เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2567 ที่อนาคารอนาคตใหม่ ที่ทำการพรรคก้าวไกล คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 สัดส่วนพรรคก้าวไกล โดยนางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และนายชยพล สท้อนดี สส.กทม. จัดแถลงข่าว Policy Wach ในหัวข้อ "รวบตึงงบฯ 67 จากห้อง กมธ.

โดยนางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า ปีนี้เราค่อนข้างมีทำงานกระชับ เร็วขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากงบประมาณออกล่าช้า ซึ่งเท่าที่ตนจำได้ ไม่มีปีไหนที่เร็วที่สุดมาก่อน อีกสาเหตุหนึ่ง เนื่องจากมีการใช้งบประมาณในหน่วยงานราชการไปพลางก่อนแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นในการอนุมัติงบประมาณไปแล้วคือหน่วยงานเริ่มใช้งบประมาณไปก่อน ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา และพอสภาเข้ามาพิจารณาเงินก้อน 3.48 ล้านล้านบาท ก็จะมีเกือบ 2 ล้านล้านบาทถูกอนุมัติและใช้ไปแล้ว ดังนั้นในความเป็นจริงสภามีอำนาจที่จะพิจารณาจริงจังแค่ 41% เท่านั้น ซึ่งวิธีการแบบนี้มีปัญหาและช่องโหว่ แม้จะเป็นการกระทำตามรัฐธรรมนูญ

นางสาวศิริกัญญา กล่าวอีกว่า สิ่งที่เราพบการอนุมัติหลักเกณฑ์ว่าใช้อะไรได้ อะไรไม่ได้ มีผู้อำนวยการสำนักงบประมาณแค่คนคนเดียวที่มีอำนาจที่จะอนุมัติ เลยคิดว่าช่องโหว่ตรงนี้ ควรจะได้รับการอนุมัติโดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือ นายกรัฐมนตรี เพื่อที่จะมีผู้รับผิดชอบในส่วนที่สภาไม่สามารถอนุมัติได้ นอกจากนี้มีเกิดเหตุการณ์ในอนุ กมธ. ที่ไปตัดงบฯ บางโครงการ แต่ต้องมาคืนภายหลัง เนื่องจากมีการใช้งบประมาณไปเรียบร้อยแล้ว เช่น โครงการจัดการยาเสพติด หลายครั้งที่รัฐบาลจัดตั้งได้อย่างล่าช้า เราอาจจะต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้อีก จึงอยากให้เป็นบทเรียนว่าคนที่จะมีอำนาจในการอนุมัติแผนงานใช้งบประมาณไปพลางก่อนควรจะเป็นคณะรัฐมนตรี

นางสาวศิริกัญญา กล่าวด้วยว่า ตามปกติแล้วในทุกปี คณะ กมธ.งบประมาณ จะต้องตั้งอนุ กมธ.มาทำงาน เพื่อพิจารณารายละเอียดที่ลงลึกในงบแต่ละสัดส่วน ที่ผ่านมาจะแบ่งตามรายการ แบ่งตามผู้รับเหมาเข้าห้องงบ แต่ปีนี้มีเรื่องแปลกใหม่ คือแบ่งกันตามกระทรวง แต่ละอนุ กมธ. จะมีความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของของรัฐมนตรีที่มาสังกัดพรรคการเมืองนั้นอยู่ เช่น อนุ กมธ.เศรษฐกิจ จะเห็นว่าจะมีกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพลังงาน เราก็จะทราบว่ารัฐมนตรีนั้น มาจากพรรครวมไทยสร้างชาติ ดังนั้นอนุ กมธ.ก็จะมาจากพรรครวมไทยสร้างชาติเช่นเดียวกัน หรือ อนุ กมธ. ทรัพยากรบุคคล อุดมศึกษา แรงงาน ก็จะมาจากพรรคภูมิใจไทย

"ก็มีเสียงบ่น เสียงห่วงใยมาจากในหลาย กมธ.และอนุ กมธ. ว่าทำจัดแบบนี้ จะเกิดเหตุการณ์ที่จะมีการเข้ามาปกป้องงบของรัฐมนตรีหรือไม่" นางสาวศิริกัญญา กล่าว

นางสาวศิริกัญญา ตั้งข้อสังเกตว่า มีความพยายามที่จะเร่งตัดงบฯ กันในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของการพิจารณาอนุ กมธ. เช่น เรือฟริเกต ก็ตัดวันสุดท้าย การก่อสร้างรันเวย์ที่ 2 ของสนามบินอู่ตะเภา กองทัพเรือก็ถูกตัดวันสุดท้าย แต่มีการอุทธรณ์และคืนงบไป ยังมีอีกหลายรายการที่ตัดในห้อง กมธ.ใหญ่ ในส่วนแผนบูรณาการถูกตัดงบฯมากที่สุด เนื่องจากไม่มีเจ้าที่ ไม่มีเจ้าภาพ แต่สุดท้ายก็มีการอุทธรณ์

นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า ปีนี้ตัดงบฯ ไปได้ 9,024 ล้านบาท โดยเงินส่วนนี้ก็จะถูกเฉลี่ยไปที่หน่วยงานที่ของบเพิ่ม ซึ่งส่วนใหญ่จะไปลงที่งบกลาง โดยกระทรวงที่ได้งบเพิ่ม คือกระทรวงแรงงาน เนื่องจากเราเห็นว่าควรจะได้เงินสมทบประกันสังคม ทุกวันนี้ผู้ประกันตนถูกรัฐบาลเล่นตุกติกอยู่ เนื่องจากไม่เคยจ่ายดอกเบี้ยครบ ไม่เคยจ่ายเงินสมทบ ขณะเดียวกัน กระทรวงที่ถูกตัดงบที่สุดคือกระทรวงกลาโหม โดยรายการใหญ่ที่สุดที่ถูกตัดคืองบฯจัดซื้อเรือฟริเกต รองลงมาคือกระทรวงมหาดไทย ในการตัดงบฝายซีเมนต์

รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า สาเหตุที่อยากโยกงบฯไปงบกลาง เนื่องจากการจัดสรรงบผิดพลาดใน 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้ต้องชดใช้เงินคงคลังเกือบ 1.2 แสนล้านบาท แทนที่ควรตั้งเบี้ยหวัดบำเหน็จบำนาญ เงินชำระหนี้ให้ได้ ที่ผ่านมามีการตั้งงบไว้ขาด ปีนี้ก็ยังตั้งงบไว้ไม่เพียงพออีก ทำให้ต้องแปรเพิ่มให้กว่า 7,000 ล้าน นอกจากนี้ยังมีการส่งเงินไปที่เงินสำรองใช้จ่ายฉุกเฉินยามจำเป็น ซึ่งตรวจสอบได้ยาก เนื่องจากนายกรัฐมนตรีมีอำนาจเต็ม กมธ.ในสัดส่วนของพรรคก้าวไกล จึงมีการเจรจาอนุมัติให้แลกกับเพิ่มเงินในกองทุนประกันสังคม

โดยช่วงท้ายของการแถลง เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนสอบถาม ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการตั้งข้อสงสัยว่าการโยกงบไปอยู่ที่งบกลางนั้น เป็นเพราะจะนำไปทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ตหรือไม่ นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า ไม่น่าจะเป็นไปได้ เนื่องจากงบที่ได้คนละไซส์กับดิจิทัลวอลเล็ต ถือเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตจะไม่เกิดขึ้นภายในงบ 67 แน่นอน เพราะยังไม่มีแหล่งที่มาของเงินที่ชัดเจน และจนถึงวันนี้ครบ 30 วัน หลังจากที่มีการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่ และไม่มีการนัดประชุมอีกเลย รวมถึงไม่มีการแจ้งล่วงหน้าแต่อย่างใด จึงเท่ากับว่ากระบวนการล่าช้าออกไปอีก ทั้งนี้เข้าใจว่านายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่าอาจเป็นมาจากการที่คณะอนุกรรมการยังทำงานไม่แล้วเสร็จ ซึ่งไม่แน่ใจว่าที่ไม่แล้วเสร็จ เพราะไม่ได้คำตอบที่น่าพอใจจากการไปรับฟังภาคส่วนต่างๆ ใช่หรือไม่

เมื่อถามว่ายังยืนยันว่าเป็นการหาทางลงของรัฐบาลใช่หรือไม่ นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า ที่ผ่านมาพรรคก้าวไกลยืนยันมาตลอดว่ารัฐบาลเลือกเส้นทางที่ลุยไฟมากที่สุด วันนี้เห็นได้ชัดว่าไม่มีทางที่จะไปต่อแล้ว และหน้าจากกำลังหาทางลงอยู่ตามที่มีหลายคนตั้งข้อสังเกตไว้ เพราะมองว่าแม้จะไม่ได้ทำโครงการนี้ รัฐบาลไม่ต้องกังวลอะไรมาก เพราะจากที่ทำโพลออกมา ประชาชนอาจจะเสียใจแต่ไม่โกรธรัฐบาล