'พิธา' ชี้อย่าเอาไข่ใส่ตะกร้าใบเดียว รัฐบาลต้องมีแผนสองกระตุ้นเศรษฐกิจ

'พิธา' ชี้อย่าเอาไข่ใส่ตะกร้าใบเดียว รัฐบาลต้องมีแผนสองกระตุ้นเศรษฐกิจ

'พิธา' ยันรัฐบาลต้องมีแผนสองกระตุ้นเศรษฐกิจ หลัง 'กฤษฎีกา-ป.ป.ช.' มีข้อเสนอแนะนโยบายแจกเงินดิจิทัล เปรียบอย่าเอาไข่ใส่ตะกร้าใบเดียว ต้องละเอียดอ่อน อย่าดูถูกการกระตุ้นเศรษฐกิจจากล่างขึ้นบน 

เมื่อวันที่ 10 ก.พ. 2567 ที่ซุ้มประตูวัฒนธรรมไทย-จีน ถนนเยาวราช นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตภายหลังคณะกรรมการกฤษฎีกาและ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีข้อเสนอแนะ ว่า คิดว่าหลักการสำคัญในการดำเนินนโยบายเป็นหน้าที่ของรัฐบาล แต่ละคนมีหน้าที่ของตัวเอง ป.ป.ช.ก็มีหน้าที่ของเขา รัฐบาลก็มีหน้าที่ของตัวเอง ไม่ควรให้องค์กรอิสระมาควบคุมการทำงานของคนที่มาจากการเลือกตั้ง ขณะเดียวกันมองว่ารัฐบาลต้องหาทางออกหรือมีแผนสองในเรื่องนี้ ที่เศรษฐกิจซึม และมีความลำบากที่แตกต่างกันไป เช่น ธุรกิจSME ในถนนเยาวราชก็จะมีปัญหาสภาพคล่องกันมาก เพราะมีเรื่องของสินค้าและทุนจีนเข้ามา หากจะวิเคราะห์เศรษฐกิจให้เห็นจะเห็นได้ว่า ไตรมาสที่ผ่านมา เรามีรายได้จากการท่องเที่ยว แต่รายได้ลดลงแม้นักท่องเที่ยวจะกลับมาจำนวนมาก ภาคส่งออกลดลง การใช้จ่ายของรัฐบาลลดลง

“ถ้าหากเราแก้ให้ถูกจุดก็จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้ตรงจุด อย่าเอาไข่ไปใส่ในตะกร้าใบเดียว ว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจอยู่ที่โครงการดิจิทัลวอลเล็ต เท่านั้น คิดว่าไม่ได้เป็นการบริหารความเสี่ยงที่ดี ย้ำว่ารัฐบาลต้องมีแผนสองได้แล้วว่าจากกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างไร” นายพิธา กล่าว

นายพิธา กล่าวด้วยว่า คิดว่าการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในขณะนี้มีความละเอียดอ่อน ต้องลงรายละเอียดมาก ๆ และอย่าดูถูกการกระตุ้นเศรษฐกิจจากล่างขึ้นบนเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่อาจใช้รวมกันแล้วแก้ถูกจุด ใช้งบประมาณเหมาะสม และสามารถทำให้เศรษฐกิจกลับมาคึกคักได้ อย่ามองแต่บนลงล่างอย่างเดียว ส่วนการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ต ในสัปดาห์หน้าจะมีผลอย่างไร คงต้องรอดูการพิจารณาของรัฐบาล