‘เศรษฐา’ สั่ง รื้อ ‘ยุทธศาสตร์ชาติ20ปี’ ฟาด คนรุ่นเก่าผูกมัดอนาคตลูกหลาน

‘เศรษฐา’ สั่ง รื้อ ‘ยุทธศาสตร์ชาติ20ปี’ ฟาด คนรุ่นเก่าผูกมัดอนาคตลูกหลาน

“เศรษฐา” ถก คกก.ยุทธศาสตร์ชาติ ลั่น ไม่เชื่อการวางแผนรัดตัวเอง 20ปี นานไป 5ปียังยาก โลกเปลี่ยนเร็ว ฟาด พวกท่านไม่สนใจ “ค่าแรงขั้นต่ำ“ น่าละอายใจ เผย อยากเห็นความคล่องตัว สั่ง ทบทวนให้ยืดหยุ่นตามสถานการณ์ ไม่ปิดกั้นอนาคต ไม่ผูกมัดลูกหลานด้วยความคิดคนรุ่นเก่า

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายก รัฐมนตรี และ รัฐมนตรี ว่าการ กระทรวง การคลัง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ครั้งที่ 2/2566 โดยนายกฯ ได้สั่งการในที่ประชุมว่า การวางยุทธศาสตร์ ถือเป็นการวางกรอบโครงยุทธศาสตร์ ที่ให้รัฐบาลและคนทั้งประเทศ ได้รับรู้ทิศทางในการทำงานว่าประเทศไทยในอนาคตที่เราอยากจะให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน เพื่อให้เรารู้ว่า จะไปถึงภาพนั้นเราต้องทำอะไรกันบ้าง ตนคิดว่า การมียุทธศาสตร์ มีกลยุทธ์ในการทำงานเป็นเรื่องที่ดี แต่ตนไม่เชื่อกับการวางแผนและรัดตัวเองไว้ยาวนานเกินไป ไม่มีใครวางแผนได้ยาวนานขนาดนี้ อย่าว่าแต่ 20 ปี ซึ่ง 5 ปีก็ยังยาก โลกนี้เปลี่ยนไปแล้วและจะเปลี่ยนเร็วขึ้นเรื่อยๆจากเทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่จะมากำหนดทิศทางโลก 

นายกฯ กล่าวว่า ก่อนการไปเปิดเวทีการค้าขาย 3 ปีที่ผ่านมาดึงคุณมาลงทุน ดูแต่เรื่องค่าแรงขั้นต่ำ ที่พวกท่านไม่ค่อยสนับสนุนเท่าไหร่ ไม่ใช่เรื่องที่น่าหัวเราะ แต่เป็นเรื่องที่น่าละอายใจ และมีอีกหลายเรื่อง ซึ่ง 3 ปีที่แล้วไม่มี ทั้งเรื่องพลังงานสะอาดเป็นเรื่องที่เวลาตนเดินทางไปเจรจาต่างประเทศที่ต้องหยิบยกมาพูดคุย ซึ่งโลกเปลี่ยนไปเยอะ กลายเป็นจุดเริ่มต้นของ War of Talent ที่ทุกรัฐบาลทุกประเทศทั่วโลกจะต้องดึงดูด ผู้ที่มีความสามารถมาทำงานทั้งภูมิรัฐศาสตร์ 4 ปีที่ผ่านมาทั้งสหรัฐอเมริกาและจีน ก็ไม่ได้แข็งขันกันขนาดนี้ แต่ปัจจุบันกลับสูงขึ้นและในหลายประเทศรวมถึงประเทศเราก็ต้องคอยปรับยุทธศาสตร์ให้เหมาะสมกับแต่ละช่วงเวลา

นายกฯ กล่าวว่า เพราะฉะนั้นตนอยากเห็นยุทธศาสตร์นี้ต้องมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น โดยขอให้มีการทบทวนและมีความยืดหยุ่นไปตามสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของโลก ตนขอฝากที่ประชุมช่วยการพิจารณารูปแบบการดำเนินงานที่เหมาะสมว่าจะทำอย่างไรให้ยุทธศาสตร์เกิดขึ้นและมีประโยชน์ และสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและไม่ปิดกั้นอนาคตของประเทศชาติ เพื่อให้การตัดสินกันเส้นทางการพัฒนาของลูกหลาน ในอีก 20 ปีข้างหน้า ไม่ถูกผูกมัดโดยความคิดของคนรุ่นเรา พร้อมขอให้คนรุ่นใหม่ที่มีโอกาสเติบโต และเลือกทิศทางในการวางยุทธศาสตร์และก้าวไป พร้อมกับสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงไป