‘ปชป.’ ลั่น อย่าไปคาดหวังอนาคต ‘ร่วมรัฐบาล’ จ่อ ดึง เลือดเก่าไหลกลับ

ที่รัฐสภา นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 3 เพื่อเลือก หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ที่มีไลน์โดยประธานสาขาพรรคที่แจ้งกับสมาชิกพรรคไม่ให้ยกมือยกเว้นข้อบังคับให้ มาดามเดียร์ น.ส.วทันยา บุนนาค ที่เสนอตัวชิงหัวหน้าพรรค ว่า ข้อเท็จจริง สส.ส่วนใหญ่รวมถึงตนก็ยกมือให้ยกเว้นข้อบังคับพรรคเพื่อให้มีการแข่งขัน ยินดีที่จะเปิดทางให้คนรุ่นใหม่ แต่โหวตเตอร์ที่เป็นตัวแทนสาขาพรรคก็แล้วแต่ว่าเขาจะโหวตไปในทิศทางใด ก็ต้องดูว่าผู้ที่กระทำนั้นเป็นใคร หากไม่ได้รับความเป็นธรรมก็ให้ร้องเรียนมา ยินดีตรวจสอบให้อยู่แล้ว

เมื่อถามว่า มองว่าเป็นการล็อบบี้กันก่อนโหวตหรือไม่ นายชัยชนะ กล่าวว่า สามารถมองกันได้แต่ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรก็ต้องว่ากัน แต่ตนไม่ทราบรายละเอียดว่าเป็นมาอย่างไร

เมื่อถามว่า ภายหลังได้หัวหน้าพรรค ปชป. คนใหม่แล้ว มีสมาชิกหลายคนเตรียมลาออก ถือว่าเป็นประสบการณ์เลือดไหลซ้ำหรือไม่ นายชัยชนะ กล่าวว่า ผู้ที่บอกว่ารักประชาธิปัตย์นั้น พรรคเป็นองค์กร มีการเปลี่ยนแปลง 4ปีต้องมีการเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ หากเรารักองค์กร ใครที่ขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรค เราก็พร้อมที่จะทำงานให้ แต่หากใครขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคแล้วลาออก แปลว่าไม่ได้รักองค์กร เราต่อต้านผู้นำที่ขึ้นมา หากรักพรรคเราก็ต้องยืนอยู่กับพรรค ช่วยกันฟื้นฟูพรรค ถ้ากก.บห.ชุดใหม่ไม่ดี 4 ปีก็เปลี่ยนได้ เชื่อว่าทุกคนมีวุฒิภาวะอยู่ ในการตัดสินใจเลือกตั้งหัวหน้าพรรคคนใหม่อยู่แล้ว

นายชัยชนะ กล่าวว่า ตนในฐานะ กก.บห.ชุดใหม่ พร้อมรับทุกเสียงทุกปัญหาทุกคำวิจารณ์ คำแนะนำที่นำไปสู่การแก้ปัญหาเพื่อให้พรรคมีเอกภาพ กลับมาเป็นพรรคหลักได้เหมือนเดิม ประขาธิปัตย์เดินทางเข้ามาสู่ปีที่ 78 มีทั้งจุดสูงสุดและต่ำสุด สิ่งหนึ่งที่เราบอกว่ามีเจตนาดีต่อพรรค เราต้องช่วยกันแสดงความคิดเห็น ตนคิดว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าหัวหน้าพรรคคนใหม่ มาเพื่อแก้วิกฤติ พวกเราขอร้องนายเฉลิมชัยมา ยืนยันเราไม่ใช่พรรคอะไหล่ เราจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเข้มแข็ง 

เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยกับผู้ใหญ่ในพรรคหรือไม่ นายชัยชนะ กล่าวว่า ต้องพูดคุยทุกคน เพราะทุกคนเป็นประชาธิปัตย์ ไม่มีฝ่าย อย่าคิดว่าเป็นฝ่ายนั้นฝ่ายนี้ วันนี้ลืมความหลัง ว่ากันในอนาคต ช่วยกันทำ หัวหน้าพรรคและพวกตนพร้อมคุยกับผู้ใหญ่ทุกคน หลังจากนี้จะเดินหน้าไปปรึกษาหารือกับผู้ใหญ่ แล้วไปเชิญชวนสมาชิกพรรคที่เคยลาออกให้กลับมาเป็นสมาชิกพรรคใหม่ นี่เป็นสิ่งที่เราต้องการ

เมื่อถามว่า นายสาธิต ปิตุเตชะ อดีต ส.ส.ระยอง ระบุว่า คนไม่มีสัจจะ จะไม่สามารถนำพรรคได้ในสถานการณ์เช่นนี้ นายชัยชนะ กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องของนายสาธิตที่มีสิทธิ์ที่จะพูดว่ากล่าวได้ เราก็ยอมรับในคำพูดของทุกคน และตนคงไม่ไปโต้เถียงใคร วันนี้ไม่ใช่เวลาโต้เถียง เป็นเวลาที่เริ่มต้นการทำงานที่จะฟื้นฟูพรรค ใครจะติชมหรือตำหนิเราพร้อมรับฟัง อดทนได้ แต่สิ่งที่สำคัญเหนือคำพูดคือ ผลการเลือกตั้งข้างหน้าว่า กก.บห. จะนำพาให้ได้ที่นั่งมากกว่าเดิมหรือไม่

เมื่อถามว่า หากสมาชิกพรรคหลายคนต่อต้าน จะนำไปสถานการณ์พรรคแตกหรือไม่ นายชัยชนะ ถามกลับว่า ใครต่อต้าน ก่อนจะระบุว่า สมาชิกทั้ง 25 คนที่มีอยู่ตอนนี้ เสียง 23 คนรับได้ ส่วนตัวแทนสาขาพรรค เสียงส่วนใหญ่ก็เลือกมา แล้วคนที่ลาออกรักพรรคหรือรักตัวเอง หากรักพรรคต้องสามารถทำงานได้กับทุกคนที่ขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรค และหากนายเฉลิมชัย ไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรค ตนก็พร้อมทำงานให้พรรคและไม่ลาออก แต่หากลาออกถือว่าตนรักตัวเอง

เมื่อถามว่า จะทำงานเป็นฝ่ายค้านหรือไม่ เนื่องจากมีกระแสข่าวว่าพร้อมจะพลิกขั้วไปร่วมรัฐบาล เพราะในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เคยยกมือสนับสนุนนายเศรษฐา ทวีสิน นายชัยชนะ กล่าวว่า การโหวตเรื่องนายกฯ ตนพูดชัดเจนว่า เป็นการหาทางออกให้ประเทศและเราเป็นฝ่ายค้าน เราไม่ได้บอกว่าโหวตเพื่อเป็นรัฐบาล ตนเป็นหนึ่งใน 16 คนที่โหวตให้นายเศรษฐา และหลังจากวันโหวตนายกฯ ต้องดูว่าตนทำงานตรวจสอบและออกไปอภิปรายนายเศรษฐาหรือไม่ ขณะนี้เราก็เป็นฝ่ายค้านอยู่ ข่าวที่ว่าจะไปร่วมรัฐบาลนั้น ใครพูด มีจุดประสงค์ดีกับพรรคหรือไม่ ที่มาพูดเช่นนี้ พรุ่งนี้ตื่นมาจะหายใจหรือไม่ยังไม่รู้เลย ว่าจะร่วมอย่าไปคาดหวังอนาคตว่าจะร่วมรัฐบาลหรือไม่ เพราะนั่นเป็นเรื่องของอนาคต แต่นาทีนี้ เราเป็นฝ่ายค้านก็ต้องทำให้ดีที่สุด