งานเข้า เรืองไกร ร้องสอบ ‘เศรษฐา-9ก.ตร.’ เคาะ ‘บิ๊กต่อ’ นั่ง ผบ.ตร. ส่อขัดรธน.
“เรืองไกร” ยื่น “ผู้ตรวจการแผ่นดิน” ส่ง “ศาลปกครอง” ไต่สวน “เศรษฐา” พร้อม 9 ก.ตร. เห็นชอบ “บิ๊กต่อ” นั่ง “ผบ.ตร.” ขัด “รธน.-พรบ.ตำรวจ” หรือไม่ ขอให้เรียกรายงานการประชุม 27 ก.ย. มาประกอบการพิจารณา ให้ “นายกฯ” แจงพยานหลักฐาน ใช้เกณฑ์อะไรเสนอชื่อ
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ทำหนังสือถึงผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้เสนอความเห็นต่อศาลปกครองเร่งวินิจฉัยการกระทำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ในฐานะผู้คัดเลือกรายชื่อพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล และ ก.ตร. 9 คน ที่ลงมติเลือกพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เป็น ผบ.ตร. มีปัญหาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ม.258 ง. ด้านกระบวนการยุติธรรม (4) และมีปัญหาความชอบด้วยกฎหมายตามพรบ.ตำรวจ ม.78 หรือไม่
นายเรืองไกร ระบุว่า สาระสำคัญของรัฐธรรมนูญ ม.ดังกล่าวบัญญัติว่า ให้มีหลักประกันว่าจะได้รับความเป็นธรรมในการแต่งตั้งโยกย้าย คำนึงถึงอาวุโส ความรู้ความสามารถประกอบกันเพื่อให้ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีอิสระ ไม่ตกอยู่ใต้อาณัติของบุคคลใด สอดคล้องกับพรบ.ตำรวจ ให้คำนึงถึงความอาวุโส โดยเฉพาะในงานสืบสวนสอบสวนหรืองานป้องกันปราบปราม และตามที่พล.ต.อ.เอก เอกอังสนานนท์ ก.ตร. เสียงข้างน้อย ที่ไม่เห็นชอบพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เป็น ผบ.ตร. เนื่องจากไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์กฎหมาย จึงมีเหตุให้ผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอความเห็นต่อศาลปกครองโดยไม่ชักช้า และขอให้เรียกรายงานการประชุม ก.ตร. เมื่อ 27 ก.ย. ที่ผ่านมา มาประกอบการพิจารณาด้วย พร้อมกับขอให้นายกฯ นำพยานหลักฐานในการคัดเลือก ใช้หลักเกณฑ์อะไรในการเสนอชื่อพล.ต.อ.ต่อศักดิ์
นายเรืองไกร ระบุอีกว่า ขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน เทียบเคียงคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ที่9/2557 ที่ระบุสาระสำคัญช่วงหนึ่งว่า การใช้อำนาจดุลพินิจนอกจากจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กฎหมายกำหนดแล้ว จะต้องคำนึงถึงวัตถุประสงค์ของกฎหมายและขอบเขตของกฎหมายด้วย การโอนผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการระดับกรมหรือกระทรวงไปดำรงตำแหน่งอื่นจะต้องเหมาะสมและเป็นธรรมแก่ผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวด้วย
