‘แพทองธาร’ ผู้นำเพื่อไทยคนที่ 8 คุมเบ็ดเสร็จ สลายมุ้งการเมือง ?

‘แพทองธาร’ ผู้นำเพื่อไทยคนที่ 8 คุมเบ็ดเสร็จ สลายมุ้งการเมือง ?

ต้องจับตาบทบาทของ “แพทองธาร” ว่าที่ผู้นำพรรคเพื่อไทย ซึ่งจะอยู่ในลำดับผู้นำคนที่ 8 จะนำพาเพื่อไทย ฝ่ากระแสบนเส้นทางการเมืองไปได้ไกลกว่ารุ่นพ่อหรือไม่

พรรคเพื่อไทย นัดหมายประชุมใหญ่วิสามัญ เพื่อเลือกหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ในวันที่ 27 ต.ค. ภายหลังจาก นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ลาออกจากหัวหน้าพรรค

เป็นที่น่าสังเกตว่า บรรยากาศในพรรคเพื่อไทยเต็มไปด้วยความชื่นมื่น ภายหลังจัดตั้งรัฐบาล “เศรษฐา ทวีสิน” ได้สำเร็จ 

ทำให้บรรดา สส.สอบได้ อดีตผู้สมัคร สส.สอบตก ต่างได้รับผลพลอยได้ เข้าสู่อำนาจทางการเมืองกันทั่วหน้า เนื่องจากพรรคเพื่อไทยห่างหายจากการกุมอำนาจบริหารมากว่า 9 ปี

ทว่า การจัดตั้ง "รัฐบาลเศรษฐา” พรรคเพื่อไทย-ตระกูลชินวัตร สูญเสียเครดิตทางการเมืองไปไม่น้อย เพราะต้องเสียสัจจะจับมือกับ พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งเป็นพรรคการเมืองของ “สองลุง”

ภารกิจของรัฐบาลเศรษฐา นอกจากจะต้องกอบกูเศรษฐกิจของประเทศให้กลับมาเฟื่องฟู ประชาชนมีเงินจับจ่ายใช้สอย ยังต้องกอบกู้คะแนนของพรรคที่ต้นทุนทางการเมืองวูบหนัก โดยดึงกลับมาให้ได้ โดยการเลือกตั้งครั้งต่อไป พรรคเพื่อไทยจะต้องขับเคี่ยวกับพรรคก้าวไกลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ดังนั้นบุคคลที่จะเข้ามานั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ จึงถูกจับตามากเป็นพิเศษ เพราะต้องเป็นที่ยอมรับของคนภายในพรรค จะต้องเป็นที่ยอมรับของสังคม พร้อมกับสร้างความหวังให้กับ “คนรุ่นใหม่”  ควบคู่กันไปด้วย

มีเสียงเชียร์จาก สส.เพื่อไทย ดังขึ้นทุกที สนับสนุนให้ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และรองประธานคณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ เข้ามาบัญชาการงานพรรคเต็มตัว

สอดคล้องกับสัญญาณจาก “โทนี่” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เคยบอกกับ สส.เพื่อไทย ระหว่างอีเวนท์อวยพรวันเกิดออนไลน์  เมื่อวันที่ 26 ก.ค.2566 ก่อนจัดตั้งรัฐบาล  โดย “ทักษิณ” กล่าวตอนหนึ่งว่า “น้องอิ๊งมาอยู่ช่วยงานที่พรรค ส่วนเศรษฐาคงอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาล”

เวลานี้ เป้าหมายสำคัญก็เป็นจริง เมื่อ “เศรษฐา” ไปอยู่ทำเนียบรัฐบาล จากนี้ต้องลุ้นว่า อุ๊งอิ๊ง “แพทองธาร” จะนั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรคเพื่อไทยตามที่ทักษิณส่งสัญญาณล่วงหน้าไว้เมื่อไหร่ เพราะทั้งทักษิณและสส.เพื่อไทย รู้ดีว่า หาก“ลูกสาว”นายใหญ่ ในฐานะตัวแทน มาคุมบังเหียนพรรค เพียงแค่กระซิบเบาๆ ทุกองคาพยพในพรรคก็พร้อมรับคำสั่ง

ขณะที่ท่าทีล่าสุดของ “แพทองธาร” บอกเป็นนัย ต่อที่ประชุม สส.เพื่อไทย วันที่ 26 ก.ย.ว่า “ดิฉันก็พร้อมที่จะ สนับสนุนพรรคทุกเรื่อง หัวใจอยู่ตรงนี้แน่นอน เราจะโต และเข้มแข็งไปพร้อมกัน วันที่เราเจอมรสุมต่างๆเราก็จะผ่านไปด้วยกัน ขอให้ทุกคนมีกำลังใจมาก”

จุดยืน “แพทองธาร” ชัดเจน ต้องการที่จะทำให้พรรคเพื่อไทยมีความเข้มแข็งทั้งภายใน-ภายนอก ใช้ความเป็น “ชินวัตร” ให้เป็นจุดแข็งประสานงานกับทุกฝ่าย

ที่สำคัญหาก “แพทองธาร” คุมพรรคเพื่อไทยด้วยตัวเอง การต่อรองทางการเมืองของกลุ่ม-มุ้งจะลดน้อยลงอีก จากเดิมที่แทบจะไม่เหลือการต่อรองของ กลุ่ม-มุ้ง การเมืองอยู่แล้ว

นอกจากนี้ ยังสามารถคอนโทรลพรรคเพื่อไทยได้เต็มกำลัง แม้บางครั้งอาจจะเห็นต่าง ขัดกับบิดาอยู่บ้าง แต่ชั่วโมงนี้แรงต่อรองของ ลูกสาวมีมากกว่า “พ่อแม้ว” แม้ประสบการณ์ในการตัดสินใจทางการเมืองอาจจะน้อยกว่า แต่ทักษิณเคยพูดถึงลูกสาวบ่อยครั้ง ถึงการตัดสินใจที่เด็ดขาด

ข้อพิสูจน์หนึ่งที่เพิ่งผ่านมา มีความเคลื่อนไหวของใครบางคน-คนบางกลุ่ม พยายามเปิดดีลหอบ สส. กว่า 30 คน กลับเข้ามาซบพรรคเพื่อไทย แต่ถูก “แพทองธาร-แกนนำเพื่อไทย” แตะเบรกเอาไว้  เนื่องจากบุคคลปริศนา ติดภาพลักษณ์ด้านลบ หากเปิดหน้ากลับเพื่อไทย จะส่งผลต่อภาพลักษณ์ ละอาจทำพรรคเสียแต้มการเมืองลงไปอีก

หลังจากนี้ ต้องจับตาบทบาทของ “แพทองธาร” ว่าที่ผู้นำพรรคเพื่อไทย ซึ่งจะอยู่ในลำดับผู้นำคนที่ 8 จะนำพาเพื่อไทย ฝ่ากระแสบนเส้นทางการเมืองไปได้ไกลกว่ารุ่นพ่อหรือไม่