ก้าวไกล โจทย์ใหญ่ รัฐบาล ผลงานค้ำคอ เศรษฐา-พรรคร่วม

ก้าวไกล โจทย์ใหญ่ รัฐบาล ผลงานค้ำคอ เศรษฐา-พรรคร่วม

ไม่เฉพาะนายกฯเศรษฐา ที่ต้องการเค้นฟอร์มการบริหารงานของรัฐบาล พรรคร่วมแต่ละพรรคเองก็ไม่ประมาท เพราะรู้ดีว่าโจทย์ใหญ่ไม่ได้อยู่แค่วันนี้ แต่อยู่ที่วันข้างหน้า ถ้ายังมีก้าวไกลในสังเวียน คงไม่มีใครกล้าประมาทโดยเด็ดขาด

รัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ประเดิมแถลงนโยบายวันแรกต่อรัฐสภาไปแล้ว โดยนโยบายเร่งด่วนตามสคริปต์ที่นายกรัฐมนตรีแถลง ประกอบด้วย 

1.การแก้ไขปัญหาหนี้สินผ่านมาตรการพักหนี้เกษตรกร ประคองภาระหนี้สินและต้นทุนการเงินของประชาชน และ SMEs

2.ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ทั้งค่าไฟฟ้า ค่าก๊าซหุงต้ม และค่าน้ำมันเชื้อเพลิงให้อยู่ในระดับเหมาะสมทันที และจะปรับโครงสร้างการใช้พลังงานของประเทศ วางแผนความต้องการ จัดหาแหล่งพลังงาน เร่งเจรจาในพื้นที่อ้างสิทธิกับประเทศข้างเคียง

3.สร้างรายได้จากการท่องเที่ยว เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ปรับปรุงสนามบินทั่วประเทศ

และ 4.นโยบายเร่งด่วนสุดท้าย แก้รัฐธรรมนูญ ปี 60 โดยยึดรูปแบบการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และไม่แก้ในหมวดพระมหากษัตริย์ เพื่อสร้างหลักนิติธรรมให้ประเทศไทยมีความน่าเชื่อถือ

ขณะที่ไฮไลต์สำคัญที่ถูกจับตาหนีไม่พ้นนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และเรื่องค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ของพรรคเพื่อไทย จะสำเร็จเป็นรูปธรรมเมื่อไหร่อย่างไร

ฟากของพรรคภูมิใจไทย รอบนี้ก็ถูกจับตาไม่น้อยไปกว่าพรรคการเมืองไหน การได้คุมกระทรวงมหาดไทย ของอนุทิน ชาญวีรกูล ก็ถูกคาดหมายว่าจะเป็นหน่วยงานที่จะใช้ต่อยอดในทางการเมือง ผ่านกลไกส่วนกลางสู่ท้องถิ่น เพื่อปูทางในการเลือกตั้งครั้งต่อไป

ที่สำคัญภูมิใจไทย ยังได้คุมกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม แบบที่หลายคนก็ยังแปลกใจ ว่าเปลี่ยนโฟกัสมาให้ความสนใจในเรื่องวิชาการแต่ขุมข่ายของครูใหญ่ในกระทรวงเสมา ก็เรียกว่าแน่นเอี๊ยดมานานหลายปีแล้ว

ตามนโยบายการศึกษายุคนี้ ซึ่งเป็นสาระสำคัญของคำแถลงในเอกสาร คือมุ่งปฏิรูปการศึกษาส่งเสริมให้เป็นคนดี ภูมิใจในชาติ พัฒนาองค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยไม่ละเลยศึกษาประวัติศาสตร์ความเป็นมาของประเทศ และปลูกฝังความรักในสถาบันหลักของชาติ

แถมภูมิใจไทยยังมีกระทรวงแรงงานอยู่ในมือ จึงน่าสนใจตรงที่ว่า ภูมิใจไทยจะสามารถแจ้งเกิดผลงานได้มากน้อยแค่ไหน ภายใต้คอนเซ็ปต์บูรณาการทำงาน เริ่มจากการสร้างคน สร้างงาน ยึดโยงท้องถิ่น ปราบมาเฟีย โดยมีเดิมพันสำคัญคือสร้างความนิยมผ่านการบริหารงาน

รอบนี้มีการพูดกันกว้างขวางว่า ภูมิใจไทยมีการวางเกณฑ์ประเมินผลงานรัฐมนตรีแต่ละคนของพรรคเอาไว้ด้วย ต่างจากรอบก่อนสมัยที่ร่วมงานในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อาจเป็นเพราะต้องการปักธงไม่ให้มีรัฐมนตรีโลกลืมมาจากพรรคตัวเอง

แค่นี้ก็พอมองเห็นแล้วว่า ไม่เฉพาะนายกฯเศรษฐา ที่ต้องการเค้นฟอร์มการบริหารงานของรัฐบาล พรรคร่วมแต่ละพรรคเองก็ไม่ประมาท เพราะรู้ดีว่าโจทย์ใหญ่ไม่ได้อยู่แค่วันนี้ แต่อยู่ที่วันข้างหน้า ถ้ายังมีก้าวไกลในสังเวียน คงไม่มีใครกล้าประมาทโดยเด็ดขาด

ผลเลือกตั้งซ่อมระยอง เขต3 ล่าสุด คะแนนอย่างไม่เป็นทางการก็ชนะขาด ทิ้งคู่แข่งอันดับ2 ไปกว่า 12,000 คะแนน เรียกว่าก้าวไกลยังไม่สิ้นลาย พร้อมจะสร้างเซอร์ไพรส์ได้ทุกเมื่อ