‘ก้าวไกล’ ไม่รีบถอยเป็นผู้นำฝ่ายค้าน รอศาล รธน.ชี้ขาดคดี ‘พิธา’ ก่อน

เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2566 ที่พรรคก้าวไกล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค และ สส.ก้าวไกล เพื่อเตรียมอภิปรายนโยบายของรัฐบาล ที่จะมีการแถลงต่อรัฐสภา ในวันที่ 11 ก.ย.นี้ 

โดยนายชัยธวัช ตุลาธน สส.แบบบัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงการคัดเลือกบุคคลเป็นประธานคณะกรรมาธิการสามัญ (กมธ.) สภาผู้แทนราษฎร ที่ยังมีปัญหาการจัดสรรไม่ลงตัว ใน 2 เก้าอี้สำคัญที่ฝ่ายค้านต้องการ คือ กมธ.การศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ และ กมธ.การป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) ว่า ตอนนี้ยังมีปัญหาที่กรรมาธิการ ป.ป.ช.

เมื่อถามว่า กมธ.ป.ป.ช.มีพรรคไหนบ้างที่ชิงกัน นายชัยธวัช กล่าวว่า “อยู่ระหว่างการเจรจา ขออย่าเพิ่งลงรายละเอียด”

เมื่อถามถึงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน หลังเมื่อวานนี้ (4 ก.ย.) นายปิยบุตร แสงกนกกุล โพสต์ข้อความระบุว่า ยังไม่มีผู้ใดมีคุณสมบัติเลย นายชัยธวัช กล่าวว่า เบื้องต้นเป็นไปตามนั้น วานนี้ได้มีการหารือกับนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ นอกรอบ เห็นตรงกันว่า หากดูตามรัฐธรรมนูญจะไม่มีการไหลไปพรรคลำดับรอง เพราะจะกลายเป็นไม่มีคุณสมบัติเป็นผู้นำฝ่ายค้าน
    
เมื่อถามว่า ต้องรอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคุณสมบัติของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ใช่หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ส่วนของพรรคก้าวไกลจะรอก่อน

เมื่อถามย้ำว่า ประธานสภาฯเห็นตรงกันว่าตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน จะยังไม่มีการไหลไปที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ใช่หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า หากพรรค ปชป.มีหัวหน้าพรรคเป็น สส.ก็จะมีคุณสมบัติ แต่หากหัวหน้าพรรค ปชป. ไม่ได้เป็น สส.ก็จะไม่ไหลไปพรรคอันดับรอง เพราะถือว่าเป็นคุณสมบัติของผู้นำฝ่ายค้าน

เมื่อถามอีกว่า แสดงว่าพรรคก้าวไกลรอพรรค ปชป.ใช่หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า จริง ๆ หลัก ๆ ของก้าวไกลคือ รอศาลรัฐธรรมนูญ โดยกระบวนการของศาลอาจไม่นานมาก ประมาณ 2-3 เดือน และอาจเร็วกว่าเดือน ม.ค. 2567