ทีมเศรษฐกิจ“เศรษฐา” ไม่มีเวลาทดลองงาน

รัฐบาลเศรษฐา 1 กำลังเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น ถึงแม้ว่าขณะนี้ยังมีการเจรจาต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรีกันไม่เรียบร้อย แต่ดูเหมือนนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนใหม่แสดงความพร้อมที่จะเริ่มทำงานแล้ว ถึงแม้ยังเริ่มทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีไม่ได้ เพราะต้องแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้เรียบร้อย และต้องแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาจึงจะเริ่มบริหารราชการแผ่นดินได้ ถึงเวลานั้นก็จะหมดหน้าที่ของรัฐบาลรักษาการที่ทำหน้าที่มาตั้งแต่เดือน ก.ค.2562

เมื่อวันที่ 25 ส.ค.2566 นายเศรษฐาได้ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและจังหวัดพังงา เพื่อติดตามสถานการณ์การท่องเที่ยว โดยก่อนที่จะขึ้นเครื่องบินที่สนามบินสุวรรณภูมิได้หารือกับผู้บริหารบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. และฝากการบ้านทันทีเพื่อให้เตรียมความพร้อมในการรับนักท่องเที่ยวช่วงฤดูไฮซีซั่น รวมทั้งมีแผนที่จะแก้ปัญหาให้นักท่องเที่ยวจีน เช่น การขอวีซ่า ซึ่งถือว่านายเศรษฐาเริ่มต้นได้ดีกับความพยายามแก้ปัญหาการท่องเที่ยวที่ในแง่รายได้ยังต่ำกว่าเป้าหมาย ถึงแม้จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมามาก

การจัดวางตำแหน่งรัฐมนตรีจะต้องเลือกผู้ที่เหมาะสมที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถึงแม้ว่าประเพณีการเมืองจะทำให้ได้ผู้ที่ไม่เหมาะสมกับตำแหน่ง โจทย์ที่สำคัญของรัฐบาลใหม่อยู่ที่การรับมือกับเศรษฐกิจไทยที่มีทิศทางชะลอตัว โดยเห็นได้ชัดเจนเมื่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 ปี 2566 ขยายตัวเพียง 1.8% รวมทั้งสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ลดประมาณการณ์เศรษฐกิจมาเหลือเพียง 2.5-3.0% รัฐมนตรีที่มารับตำแหน่งจึงไม่มีเวลาทดลองงาน

ทีมเศรษฐกิจรัฐบาลจะเป็นเงื่อนไขสำคัญในการบริหารราชการแผ่นดินในช่วงเริ่มต้นรัฐบาล โดยการที่นายกรัฐมนตรีประกาศจะควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอง สะท้อนถึงการหาบุคลากรที่เหมาะสมมาทำหน้าที่ดังกล่าวไม่ได้ และน่ากังวลว่าจะทำได้ดีนายกรัฐมนตรีจะทำหน้าที่ทั้ง 2 ได้ดีแค่ไหน ถึงแม้ว่าจะมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังมาช่วยงาน และแน่นอนว่าพรรคเพื่อไทยจะไม่ได้ดูแลกระทรวงเศรษฐกิจเองทั้งหมด จึงน่ากังวลว่าจะบริหารทีมเศรษฐกิจอย่างไร

จุดอ่อนของรัฐบาลผสมอยู่ที่ความเป็นเอกภาพในการขับเคลื่อนนโยบาย โดยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มีแรงสนับสนุนจากหลายส่วน แต่การเป็นรัฐบาลผสมก็ทำให้การขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจทำได้ไม่เต็มที่ โดยเฉพาะงานด้านโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมที่บางโครงการประมูลไม่สำเร็จ เช่น รถไฟฟ้าสายสีส้ม ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของนายเศรษฐา ที่ต้องบริหารและกำกับดูแลทีมเศรษฐกิจจากหลายพรรคให้มีความพร้อมรับมือเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกชะลอตัวให้ได้