"เสรี" ประเมินรัฐบาลผสม มีความเสี่ยง แนะ เน้นทำงานเพื่อส่วนรวม

"เสรี" ประเมินรัฐบาลผสม มีความเสี่ยง แนะ เน้นทำงานเพื่อส่วนรวม

"สว.เสรี" มองภาพรัฐบาลใหม่ เปราะบาง มีความเสี่ยง เหตุเป็นรัฐบาลผสมหลายพรรค แนะให้ยึดการทำงานเพื่อส่วนรวม แทนประโยชน์ของกลุ่มตนเอง มองประเทศไทยได้ประชาธิปไตยที่ต้องการ

นายเสรี สุวรรณภานนท์ สว. กล่าวถึงกรณีการพบกันระหว่างนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯคนใหม่ กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รักษาการนายกฯ  เมื่อวันที่ 24 ส.ค. ที่ผ่านมาที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า ถือเป็นเรื่องที่ดี และดูดีมากกว่าการเผชิญหน้ากัน   ทั้งนี้ตนมองว่าไม่มีนัยยทางการเมือง แม้จะถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการสืบทอดอำนาจ แต่เป็นการส่งต่ออำนาจ

 

"ผมขอให้มองในแง่ดีไว้ก่อนดีกว่า เพราะในการปรับเปลี่ยนรัฐบาลก็เป็นมารยาทกันอยู่แล้วที่ให้เกียรติพูดคุย และแสดงออกด้วยมิตรไมตรีต่อกัน ผมคิดว่าขอให้ประเทศเดินหน้าไปก่อน เพราะยุ่งมาพอสมควรแล้ว ดังนั้นต้องให้โอกาสกันน่าจะดีที่สุด เพราะประชาชนก็อยากจะเห็นรัฐบาลที่สามารถทำงานได้ และทุกอย่างจะได้บเคลื่อนต่อไปได้ ส่วนอะไรที่อยู่ในใจขอให้เก็บไว้ก่อน  อย่าเพิ่งแสดงออกอะไรตอนนี้ เดี๋ยวจะกลายเป็นว่ารัฐบาลใหม่ทำงานอะไรไม่ได้ เพราะมีแต่เรื่องขัดแย้งกัน จึงต้องให้โอกาสกัน" นายเสรี กล่าว

 

นายเสรี กล่าวด้วยว่าสำหรับ โผคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะเรียกความเชื่อมั่นได้หรือไม่นั้น ตนมองว่าอยู่ที่แต่ละพรรคการเมืองที่ร่วมรัฐบาล อย่างไรก็ดีต้องยอมรับว่ารัฐบาลปัจจุบันเป็นรัฐบาลผสมหลายพรรคมีจุดอ่อน อาจเกิดความเปราะบาง และขัดแย้งกัน รวมถึงกระทบกับเสถียรภาพ อนาคตอาจอยู่ลำบาก  ดังนั้นการทำงานในอนาคตนั้นตนขอฝากให้พรรคการเมืองแต่ละพรรคเสนอนโยบายที่เป็นประโยชน์ หากเสนอนโยบายที่เห็นแก่กลุ่มตัวเองหรือฝ่ายตัวเองมากจนเกินไปอาจจะกลายเป็นความขัดแย้ง  รวมถึงหากมีนโยบายที่ไม่สุจริต ไม่ซื่อสัตย์ ไม่มีจริยธรรม ไม่มีคุณธรรม ความเห็นที่ต่างจะเกิดขึ้นง่าย

"ผมขอให้รัฐบาลใหม่ทำตามที่รับปากไว้ ทั้งไม่แก้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112  ไม่แก้รัฐธรรมนูญที่นำสถาบันพระหากษัตริย์เข้าเกี่ยวข้อง แต่ถ้าพูดแล้วผิดคำพูดหรือไม่สนับสนุน หรือพรรคการเมืองใดก็ตามที่กระทบกับสถาบัน นั่นคือจุดอ่อนที่จะเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นรัฐบ่าลใหม่ต้องคำนึงถึงจุดเปราะบางหรือจุดที่มีปัญหา ขอให้คิดดูให้ดี และไม่ทำในเรื่องเหล่านี้ ผมเชื่อว่าประเทศไทยก็สามารถอยู่สงบได้”นายเสรี กล่าว

 

เมื่อถามว่าในนาทีถือเป็นประชาธิปไตยเต็มใบไม่ใช่เปลี่ยนผ่านได้แล้วหรือยัง  นายเสรี กล่าวว่า "เป็นประชาธิปไตยที่ดีที่สุดในขณะนี้ แต่จะระดับไหน เต็มใบ ครึ่งใบ ถือว่ามาจากการเลือกตั้ง ประชาชนตัดสินใจเลือกตัวแทนมาแล้ว ตัวแทนก็เข้ามาบริหารจัดการ เลือกคนเข้ามาบริหารประเทศต่อไป อย่างน้อย ก็เป็นประชาธิปไตยอย่างที่ต้องการ"

เมื่อถามถึงกรณีที่ สว.เสียงแตกโหวตนายกฯ ถูกมองว่าจุดยืนอนาคตอาจเอื้อให้พรรคการเมืองบางพรรคได้ นายเสรี กล่าวว่า   สว.มีเวลาเหลือแค่ 10 เดือน  สถานะของสว.ที่ใกล้หมดอายุ คงไม่เกิดปัญหา ส่วนผลโหวตนายกฯ แม้ผ่านไปแล้ว แต่หากอนาคตทำสิ่งผิด มีผู้ไม่เห็นด้วยอาจกลายเป็นประเด็นปัญหา ดังนั้นรัฐบาลใหม่ก็ต้องทำสิ่งที่ดีงาม อย่าทำสิ่งที่ขัดความรู้สึกของประชาชน และขัดกระบวนการทางกฎหมายที่เป็นธรรม หรือจะออกกฎเกณฑ์อะไรก็ตามต้องคำนึงถึงประชาชน อย่าทำอะไรส่วนตัวหรือส่วนบุคคล จนประชาชนเกิดความรู้สึกไม่ไว้วางใจ หรือเกิดความรู้สึกเหลื่อมล้ำ ตนคิดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อตัวรัฐบาลเอง.