"เอกนัฏ" ไม่ติดใจคุณสมบัติ “เศรษฐา” แค่เอาให้ชัด ไร้วาระ ม.112 ก็คุยกันได้

"เอกนัฏ" ไม่ติดใจคุณสมบัติ “เศรษฐา” แค่เอาให้ชัด ไร้วาระ ม.112 ก็คุยกันได้

“เอกนัฏ” ย้ำ รทสช. เป็นได้ทั้งรัฐบาล-ฝ่ายค้าน ไม่ติดใจคุณสมบัติ “เศรษฐา” แค่ประกาศให้ชัด ไม่มีวาระ ม.112 ก็คุยกันได้ บอกยังไม่มีสัญญาณร่วมรัฐบาล

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 2 ส.ค. 2566 ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงจุดยืนของพรรครวมไทยสร้างชาติ ภายหลังพรรคเพื่อไทยแถลงฉีกเอ็มโอยูและประกาศไม่มีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาลว่า จุดยืนยังเหมือนเดิม แต่ก็ต้องรอดูเป็นสเต็ป ซึ่งขั้นตอนแรกคือการโหวตนายกรัฐมนตรี เราประกาศชัดเจน หากมีพรรคก้าวไกลและการแก้ไขมาตรา 112 เราไม่สามารถโหวตให้ได้ หากหลุดจากเงื่อนไขตรงนี้ ก็ต้องรอดูสเต็ปต่อไปว่าจะสามารถไปกันได้หรือไม่ อย่างไรก็ตามพรรคเพื่อไทยเพิ่งแถลงข่าวไป ยังมีเนื้อหาสาระคิดว่าคงไม่ง่ายขนาดนั้น ส่วนที่จะมีการแถลงจัดตั้งรัฐบาลในวันที่ 3 ส.ค.นั้น ตนยังไม่ทราบ และทางพรรคเพื่อไทยยังไม่ได้ติดต่อมา ทั้งนี้ตนยืนยันว่ายังไม่ได้มีการพูดคุยกับนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย

เมื่อถามว่า มองคุณสมบัตินายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย อย่างไรบ้าง นายเอกนัฏ กล่าวว่า การโหวตนายกฯ ทั้ง 2 ครั้งติดมาตรา 112 โดยครั้งที่ 3 ต้องประกาศให้ชัด ต้องมีการอธิบายและหารือกันในรัฐสภา จากฝั่งสว. และสส. คิดว่าประเด็นมาตรา 112 ต้องมีการชี้แจงก่อนที่จะโหวตนายกฯ ซึ่งถือเป็นข้อแรก และหากประกาศชัดแล้วว่าไม่เดินหน้าแก้ไข รวมถึงไม่เป็นวาระในรัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาล ก็จะเริ่มสามารถพูดคุยกันได้ แต่ส่วนจะร่วมหรือไม่ร่วมนั้นจะมีการพูดคุยกันก่อน เพราะอาจจะมีหลายเรื่องก็ได้ 

เมื่อถามว่า ยังติดปัญหา 2 ลุงคือพรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคพลังประชารัฐ อยู่จะแก้ปัญหาอย่างไร นายเอกนัฏ กล่าวว่า คงไม่ต้องแก้ปัญหา เพราะในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติ เราไม่ได้ติดใจที่จะเป็นฝ่ายค้าน หรือแม้แต่เป็นรัฐบาล เราสามารถทำหน้าที่ได้ เพียงแต่จะอยู่ตรงไหนต้องรักษาจุดยืน ส่วนการพูดถึงไม่เอาลุงนั้น สำหรับพรรครวมไทยสร้างชาติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ได้ลาออกไปเลย แล้วจะเอากันไปถึงไหน อยากให้พูดถึง อนาคตดีกว่า อะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุด หากจมอยู่กับอดีตก็ไม่มีอนาคต

เมื่อถามว่า จะทำความเข้าใจกับมวลชนฝั่งเราอย่างไร หากต้องไปทำงานร่วมกับพรรคเพื่อไทย นายเอกนัฏ กล่าวว่า การรักษาจุดยืนของพรรครวมไทยสร้างชาติถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด แม้จะเป็นพรรคที่มี 36 เสียงจุดยืนชัดเจนในเรื่องการโหวตนายกฯ คงมีผลต่อการตั้งรัฐบาลยาก เพราะเป็นตัวเลขที่ไม่ได้เยอะมาก ซึ่งในวันนี้จะมีการหารือกันภายในพรรคถึงทิศทางการโหวตนายกฯ ว่าจะเป็นอย่างนั้น ซึ่งขณะนี้ข้อมูลยังไม่พอในการตัดสินใจ เพียงแต่ต้องยึดมั่นในอุดมการณ์ของเราที่เหลือต้องมีการพูดคุย ซึ่งมีรายละเอียดมากกว่านี้ และเสียงของพรรครวมไทยสร้างชาติต้องไปในทิศทางเดียวกัน ย้ำว่าพรรคต้องมีจุด ยืน เห็นได้ว่าตั้งแต่โหวตนายกฯ จนกระทั่งถึงวันนี้ ไม่มีครั้งไหนที่เรางดออกเสียง เราชัดเจนว่าเอาหรือไม่เอา ส่วนเรื่องฟรีโหวตนั้นคงเป็นไปไม่ได้ เราไม่ทำกันแบบนั้น 

เมื่อถามว่า กรณีที่พรรคเพื่อไทยจะมีการแก้ไขและธรรมนูญภายหลังตั้งรัฐบาล จะต้องไม่มีมาตรา 112 ด้วยหรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีการพูดคุยหรือนัดหมายอะไรกัน ส่วนจะแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นก็ต้องดูว่าเขาจะแก้อะไร หากเป็นผลดีก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ส่วนจะแก้เพื่อให้การโหวตนายกฯ ครั้งต่อไปง่ายขึ้นนั้น พรรครวมไทยสร้างชาติก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ขอให้ชัดเจนคือเรื่องมาตรา 112 จะแก้ไขหรือไม่ ถ้ามีการแก้ไขก็ประกาศออกมาให้ชัด ตัวแคนดิเดตนายกฯ จะได้มีความชัดเจนกับคนที่ต้องไปโหวตเลือกนายกฯ