‘เพื่อไทย’มั่นใจ ‘พิธา’แจงปมหุ้นไอทีวีได้ - ย้ำไม่มีแผนสำรองตั้งรัฐบาล

‘เพื่อไทย’มั่นใจ ‘พิธา’แจงปมหุ้นไอทีวีได้ - ย้ำไม่มีแผนสำรองตั้งรัฐบาล

‘เพื่อไทย’มั่นใจ ‘พิธา’แจงปมหุ้นไอทีวีได้ - ย้ำไม่มีแผนสำรองตั้งรัฐบาล ประกาศจุดยืนชัดไม่เอาด้วยแก้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เชื่อคำ ‘ก้าวไกล’ มีเสียง ส.ว.พอ

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีแปดพรรคร่วมนัดหารือในวันที่ 11 ก.ค. ว่าจะพูดคุยเตรียมความพร้อมในการโหวตเลือกนายกฯ และอาจจะมีประเด็นที่เกี่ยวเนื่องของคณะกรรมการเปลี่ยนผ่านบ้าง จากนั้น นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ได้นัดหมายประชุมวิปสามฝ่าย เวลา 11.00 น. เพื่อกำหนดแนวทางในการประชุมวันที่ 13 ก.ค.ว่าการโหวตนายกฯ จะต้องอาศัยข้อบังคับข้อใดบ้าง ก่อนโหวตควรจะมีการแสดงวิสัยทัศน์ก่อนหรือไม่ ซึ่งแนวทางการโหวตของแปดพรรคร่วมฯ มีความชัดเจน เป็นเอกภาพ และเป็นไปตามเอ็มโอยูที่จะสนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล (ก.ก.) เป็นนายกรัฐมนตรี 

เมื่อถามถึงความคืบหน้าเสียงของส.ว. ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี นายประเสริฐ กล่าวว่า เท่าที่สอบถามทางพรรค ก.ก.เขา ก็ยืนยันว่าสามารถหาเสียง ส.ว.ได้เพียงพอ ตนเข้าใจพรรค ก.ก.เป็นอย่างดีว่าคงไม่เปิดเผยรายละเอียด เนื่องจากการโหวตครั้งนี้มีความสำคัญ แต่ก็ได้รับการยืนยันจากแกนนำพรรค ก.ก.เสมอว่าได้รับเสียงที่เพียงพอ ฉะนั้น ก็เป็นไปตามนี้ก่อน 
 

เมื่อถามว่า จำเป็นต้องมีการถามพรรค ก.ก.หรือไม่ เพราะพรรคเพื่อไทยจะได้ช่วยพูดคุยกับส.ว.ด้วย นายประเสริฐ กล่าวว่า มีการสอบถามกันอยู่บ้าง แต่หลักๆ จะอยู่ที่พรรคก.ก. เนื่องจากพรรคก.ก. อาจจะยังไม่อยากเปิดเผยอะไรมากนัก เพราะอาจส่งผลกระทบต่อคะแนนโหวต และเราเข้าใจดีว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน จึงถามเท่าที่ทำได้ 

เมื่อถามว่าต้องพูดคุยกันหรือไม่ว่า หากโหวตครั้งแรกไม่ผ่าน พรรคร่วมรัฐบาลเดิมอาจจะเสนอชื่อคนแข่ง นายประเสริฐกล่าวว่า ตนคิดว่าวันพรุ่งนี้อาจจะมีการพูดคุยกันถึงเรื่องนี้อยู่บ้าง แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะได้รายละเอียดมากน้อยแค่ไหน ฉะนั้นหากจะไปถามบ่อยๆ ก็จะดูอย่างไรอยู่ จึงต้องให้เกียรติเขาในฐานะที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และเป็นพรรคหลักที่ไปประสานงานกับส.ว. 

เมื่อถามถึง กระแสที่ออกมาค่อนข้างมองว่าพรรคก.ก. จะโหวตไม่ผ่านในรอบแรก พรรค พท. มองว่าจะโหวตอีกกี่ครั้ง นายประเสริฐ กล่าวว่า เรื่องนี้ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา จะต้องนำเรื่องนี้มาหารือกับแกนนำจัดตั้งรัฐบาลทั้ง 8 พรรค ว่าหากโหวตครั้งแรกไม่ผ่านจะมีแนวทางอย่างไรในครั้งต่อไป จึงยังไม่อยากสรุปไปก่อนว่าจะออกมาทิศทางใด 

เมื่อถามว่า หากนายพิธาไม่ได้เสียงในครั้งแรก พรรคเพื่อไทย มองแผนสำรองไว้อย่างไร นายประเสริฐ กล่าวว่า ยังไม่มองไปไกล และไม่มีแผนสำรอง เพราะวันนี้เราจะต้องให้เกียรติพรรคก.ก.ก่อน พรรค พท.จึงยังไม่สมควรที่จะมาพูดเรื่องนี้ ให้ดูกันวันที่ 13 กรกฎาคมก่อนค่อยมาพูดคุยกันอีกครั้ง

เมื่อถามถึง ประเด็นและเงื่อนไขหลักที่ส.ว.จะไม่ยกมือให้นายพิธาคือเรื่องการแก้ไขม.112 จุดยืนของพรรค พท. เป็นอย่างไร นายประเสริฐ กล่าวว่า วันที่พรรคพท.และพรรค ก.ก. แถลงข่าวในวันที่ 2 ก.ค. เราได้พูดคุยเรื่องข้อตกลงเอ็มโอยูกันแล้วว่าพรรค พท.ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขมาตรา 112 และขอสงวนความเห็นหากจะหยิบยกเรื่องนี้มาพิจารณา ดังนั้นจุดยืนของพรรค พท.มีความชัดเจนอยู่แล้ว 

เมื่อถามว่า มีส.ว.ออกมาเตือนว่าหาก 8 พรรคร่วมฯ โหวตบุคคลที่ไม่มีคุณสมบัติจะเข้าข่ายผิดกฎหมายได้ พรรค พท.มีความกังวลหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นดุลยพินิจของส.ว.แต่ละคน ซึ่งตนมองว่าเป็นเพียงการส่งสัญญาณออกมา และท้ายที่สุดแล้วเชื่อว่าไม่ว่าส.ส.หรือส.ว.ทุกคนมีวุฒิภาวะและดุลยพินิจที่จะตัดสินใจเองได้ เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าอาจจะมีความวุ่นวายเกิดขึ้นใน วันโหวตนายกรัฐมนตรี หากครั้งแรกไม่ผ่าน เพราะจะมีมวลชนมาให้กำลังใจด้วย นายประเสริฐ กล่าวว่า ไม่กังวล ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามครรลองประชาธิปไตย สามารถชี้แจงกับทุกฝ่ายได้ถึงที่มาที่ไปเป็น

เมื่อถามถึง กรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เตรียมประชุมส่งเรื่องหุ้นไอทีวีของนายพิธาให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นก่อนวันที่ 13 ก.ค. 8 พรรคร่วมจะนำเรื่องนี้มาพูดคุยหรือไม่ หากนายพิธาถูกศาลสั่งให้หยุดปฎิบัติหน้าที่ นายประเสริฐ กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้อยู่ในหัวข้อการพูดคุยในวันพรุ่งนี้ แต่หากดูจากข่าวคำร้องที่กกต.จะยื่นศาลรัฐธรรมนูญ รวมถึงคำร้องที่นายพิธายื่นไปยังกกต. ขอให้มีการไต่สวนข้อเท็จจริงก่อนส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญ 

“เชื่อว่าเรื่องนี้กกต.จะให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกร้องคือนายพิธา และเชื่อว่าหากมีการหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมานายพิธาและพรรคก.ก.จะสามารถตอบคำถามและชี้แจงเรื่องนี้ได้ ตนจึงมั่นใจว่า ไม่กระทบกับวันที่ 13 กรกฎาคมการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีจะยังคงดำเนินต่อไปไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง”