“ศิธา”สวนกลับ ”หมอชลน่าน” ไม่ยอมจบ ขู่ถอนไทยสร้างไทยร่วมรัฐบาล

“ศิธา”สวนกลับ ”หมอชลน่าน” ไม่ยอมจบ ขู่ถอนไทยสร้างไทยร่วมรัฐบาล

“ศิธา”สวนกลับ ”หมอชลน่าน” ไม่ยอมจบ มองพยายามใช้ตนเป็นแพะ ต่อรองก้าวไกล ลั่นยอมให้ถอน ไทยสร้างไทย ออกจากพรรคร่วมรัฐบาล หากเห็นว่าตนเองเสียมารยาท

นาวาอากาศตรีศิธา ทิวารี แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงกรณีที่โพสต์เดือดในทวิตเตอร์เมื่อคืนที่25 พ.ค.ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับพรรคเพื่อไทยว่า เหตุผลที่โพสต์ เป็นเพราะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว "หมอชลน่าน" ยังไม่ยอมจบก่อน ยังคงเดินสายออกรายการมาต่อว่า ว่าตนเสียมารยาทในเรื่องเดิม ทั้งที่ก็ขอโทษไปแล้ว เรื่องนี้ควรจบได้แล้ว แต่กลับยังด่าตนอยู่ฝ่ายเดียว คนก็ต้องใช้สิทธิ์ออกมาปกป้องตัวเอง ยืนยันว่าคืนไม่ได้เมาแต่โพสต์จากใจ 

ทั้งนี้ สิ่งที่ถูกด่าว่าเสียมารยาท จริงๆ ตนยังไม่เคยออกมาพูดเลยด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนในการประชุม MOU ตนยังไม่เคยพูดเลยว่า พรรคเพื่อไทยขอแก้อะไรไปบ้าง แต่กลับมาบอกว่าตนเอาข้อมูลต่างๆไปยัดเพิ่มใน MOU

ทั้งที่ ข้อเท็จจริงเป็นของเพื่อไทยทั้งนั้น และตนเข้าไปแก้ปัญหาให้ด้วยซ้ำ กับการที่เขาขัดแย้งกับคนอื่น และ มีความพยายามจะไม่เซ็น MOU และจะถอนตัวอยู่ตลอดเวลา ตนก็เลยเกิดความไม่มั่นใจ

จึงได้ตั้งคำถามไปเพื่อให้เกิดความมั่นคงมากขึ้นในการจัดตั้งรัฐบาล  ส่วนรายละเอียดว่าพรรคเพื่อไทยขอแก้ไขอะไรไปบ้างใน MOU ขอให้ไปถามพรรคเพื่อไทยเอง ตนไม่อยากเสียมารยาทเอาเรื่องในห้องประชุม MOU มาพูด

พร้อมขอให้แฟนคลับทั้งสองฝ่ายเข้าใจ เพราะต้องการให้ทุกฝ่ายรักกันอยู่แล้ว เรื่องที่พูดไม่ได้เกี่ยวกับมารยาทอย่าเพิ่งเอาทัวร์มาลง แต่มันมีเรื่องที่เกิดขึ้นมาก่อนหน้าในการห้องประชุม MOU สังเกตได้จากการแถลงที่ล่าช้าไปเกือบครึ่งชั่วโมง ซึ่งปัญหาเกิดจากตรงนี้

แต่อยู่ๆ นายแพทย์ชลน่าน กลับออกมาพูดว่าในห้องประชุม ตนเอาเรื่องอื่นๆมาใส่เพิ่มใน MOU ทั้งๆที่ตนไม่ได้แก้อะไรเลยแม้แต่นิดเดียว แต่เขาแก้กันเองแล้วเผชิญหน้ากัน ซึ่งคนก็ไม่เข้าใจว่าสิ่งที่เพื่อไทยแก้แก้ไปเพื่ออะไร และสิ่งที่ตนพยายามออกมาพูดเป็นความบริสุทธิ์ใจ ต้องการให้มันดีขึ้น 

ส่วนปัญหาการแย่งชิงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรระหว่างพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทย รวมถึงแคนดิเดตนายกฯ ของทั้งสองพรรค ใครจะเป็นก็เป็น ตนเชียร์ทั้งหมด ไม่ต้องเอาตนมาเป็นสมการ ในการจัดตั้งรัฐบาลก็ได้ เพราะเรามีแค่ 6 เสียง จะเอา 141 เสียง มาเทียบได้อย่างไร  ถ้าเอา 6 เสียงของไทยสร้างไทยออก ยังไงก็ยังจัดตั้งรัฐบาลได้อยู่แล้ง และยังมีเสถียรภาพเพราะมี  300 กว่าเสียง  และพรรคไทยสร้างไทยก็พร้อมที่จะโหวตสนับสนุนให้แม้ไม่ได้เป็นรัฐบาล เพียงแต่ขอให้จับกันให้แน่นเท่านั้นเอง

“ทำไมมาบอกว่าผมเสียมารยาทผมไม่ได้ไปแย่งตำแหน่งอะไรกับใครเลย แล้วอย่ามาพูดถึงเรื่องที่ตกลงกันในห้องประชุมอีก ทั้งทางที่มี 2 ถึง 3 ข้อ ที่น่าจะเป็นคุณหมอชลน่านขอแก้ไขใน MOU แล้วไปขัดกับคนอื่น แต่ต้นไม่อยากลงรายละเอียดเพราะเป็นมารยาท” นาวาอากาศตรีศิธา กล่าว

นาวาอากาศตรีศิธา อยากกล่าวอีกว่าขนาดนี้มีความพยายามที่จะใส่ร้ายป้ายสีว่าตนมีความพยายามที่จะสร้างเรื่องต่างๆ ซึ่งมันไม่ใช่ หมาป่าถ้ามันอยากจะกินลูกแกะ มีนก็กินอยู่วันยังค่ำ ไม่เกี่ยวกับตนแน่นอน

ส่วนตำแหน่งประธานสภา ถ้าเพื่อไทยยืนยันอยากเป็นประธานสภา เพื่อไทยก็ไปตกลงกับก้าวไกล และถ้าเห็นว่าตนเสียมารยาท ก็เอาตนออกจากพรรคร่วมได้อยู่แล้ว และอย่าเอาตนไปต่อรอง เพื่อไปบีบก้าวไกล ให้เห็นความสำคัญ 6 เสียงกับ 141 เสียง เพราะเขาไม่มีทางเห็นเราสำคัญอย่างแน่นอน อย่าใช้ตนเป็นแพะ

พร้อมยืนยันว่า เรื่องที่เกิดขึ้นหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ไม่ได้ต่อว่าอะไรถ้ามีปัญหาก็พูดคุยกันในพรรคได้อยู่แล้ว แต่ทราบว่ามีการฝากคุณหญิง ให้มาอบรมตน รวมถึงยังไปกดดันพรรคก้าวไกล ทางทางที่ตนก็ได้ขอโทษไปแล้ว แต่ยังมีการพูดอีกว่าไม่สบายใจที่จะร่วมงานกัน ย้ำว่าถ้าไม่รวมก็ไม่ได้ว่าอะไร และดีด้วยซ้ำเพราะตนจะได้พูดในสิ่งควรพูดแทนประชาชน พร้อมยืนยันว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นไม่ได้อยากให้แตกกัน ถ้าจบก็คือจบถ้าไม่จบ ตนก็ออกมาแล้วเป็นตังของตัวเองได้