“พีระพันธุ์” ขันน็อต 36 ว่าที่ ส.ส. ลั่น รทสช.อนุรักษนิยม เดินหน้าสู่ทันสมัย

“พีระพันธุ์” ขันน็อต 36 ว่าที่ ส.ส. ลั่น รทสช.อนุรักษนิยม เดินหน้าสู่ทันสมัย

“พีระพันธุ์-เอกนัฏ” ถก 36ว่าที่ ส.ส.รทสช. ชี้ ทุกคนเป็นนักสู้ หลายจังหวัด ได้คะแนนนิยมมาอันดับหนึ่งเพราะ “ลุงตู่” ย้ำเดินหน้าพรรคสู่ความทันสมัย เน้นการสื่อสารเพื่อเลือกตั้งครั้งใหม่

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค ประชุมร่วมกับว่าที่ ส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ทั้งรูปแบบบัญชีรายชื่อ และ ส.ส. เขต 

นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ในฐานะหัวหน้าพรรครู้สึกว่าการเลือกตั้งครั้งนี้พรรครวมไทยสร้างชาติได้ ส.ส.มา 36 คน ถือว่าประสบความสำเร็จ เพราะใช้เวลาในการต่อสู้รณรงค์หาเสียงเลือกตั้งเพียงแค่ 4 เดือนเท่านั้น ซึ่งต้องยอมรับว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้ที่ทำให้ความนิยมของพรรคเพิ่มขึ้นหลังจากลงมาช่วยหาเสียงในช่วง 3 เดือน และหลายสิ่งก็เป็นสิ่งที่ท่านไม่เคยทำมาก่อน แต่ก็ทำด้วยความเต็มใจ จนกระทั่งวันนี้ทุกคนผ่านอุปสรรคมาจนได้เป็น ส.ส.ในวันนี้ต้องขอขอบคุณที่ทุกต่อสู้มาตลอด มั่นใจว่าในอนาคต ส.ส ของพรรครวมไทยสร้างชาติจะได้เข้ามามากกว่านี้  จากคะแนนที่เห็นว่าอยู่ในลำดับที่ 2 ที่สำคัญคือ ต้องสร้างความเชื่อถือความศรัทธาของประชาชนที่มีต่อไปให้ต่อเนื่องต่อไป

“วันนี้ ไม่ใช่การต่อสู้เพื่อประโยชน์ทางการเมือง แต่เป็นการต่อสู้เพื่อความมั่นคงของประเทศ ขอให้ทุกคน ทำงานอย่างตั้งใจ โดยถือเอาประโยชน์ของบ้านเมือง ของพรรค และประชาชนนำหน้า เพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่า เป็นพรรคที่พวกเขาจะสามารถฝากอนาคตไว้ได้” นายพีระพันธุ์กล่าวและย้ำว่า

แม้ว่าพรรคจะเป็นพรรคในเชิงอนุรักษ์  แต่ก็จะต้องมีความก้าวหน้าปรับเปลี่ยน ให้ทันกับยุคและทันสมัยตามกาลเวลา แต่ยังคงไว้ซึ่งความเป็นไทย ซึ่งจะเป็นแนวทางในการดำเนินงานของพรรคต่อไป สิ่งที่จะทำได้ ก็คือ การสร้างคนรุ่นใหม่ รับคนรุ่นใหม่เข้ามา ทำงานกับพรรคให้มากขึ้น เพื่อนำแนวคิดใหม่ๆ เข้ามาช่วยงานเพื่อเตรียมสู่การเลือกตั้งครั้งที่สำคัญ และขอให้ทุกคนรวมกันเป็นปึกแผ่นอย่าแตกแยกกัน

ด้าน นายเอกนัฏ กล่าวต่อว่า ตนต้องขอขอบคุณทุกคนที่ได้สู้ต่อสู้ในสนามการเมืองกันมาอย่างสุดตัว กว่าจะฝ่าด่านมาได้ไม่ใช่เรื่องง่าย  ถึงแม้จะเป็นพรรคใหม่ แต่ก็ได้ ส.ส.มาถึง 36 ที่นั่ง และยังได้เสียงจากพี่น้องประชาชนมากกว่า 4.6 ล้านเสียง ถือว่าเป็นความสำเร็จ 

ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ ที่เข้ามาช่วยหาเสียง ซึ่งตนก็ไม่เคยจินตนาการมาก่อนว่าจะได้ขึ้นเวที และได้ไปขึ้นปราศรัยคู่กับลุงตู่หลายต่อหลายเวที ที่ผ่านมาตนรู้สึกประทับใจมาก  และเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ สามารถปราศรัยได้สุดยอด เรียกคะแนนนิยมได้เป็นอย่างดี 

“ที่สำคัญจะเห็นได้ว่า หลายจังหวัดเบอร์ 22 มาเป็นที่หนึ่ง แม้จะถูกโจมตีในหลายประเด็น แต่ก็สามารถทำให้คะแนนนิยมอยู่ในลำดับที่หนึ่งอย่างน่าพอใจ” นายเอกนัฏ กล่าว

นายเอกนัฏ กล่าวต่อว่า ตอนนี้การเมืองกำลังเปลี่ยน ดังนั้นแนวทางการทำงานของพรรคต่อจากนี้ ต้องเดินไปข้างหน้านอกจากเรื่องของนโยบายแล้ว พรรคจะเน้นเรื่องการบริหารจัดการ การสื่อสาร เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ใช่การรีแบรนดิ้ง เพราะว่าแบรนด์ รทสช. ถือว่าเป็นแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จ เพียงแต่จะต้องมีการปรับปรุงกระบวนการทำงานบางอย่าง โดยเฉพาะเรื่องการสื่อสารในรูปแบบต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น 


โดยจะมีการดำเนินการ เพื่อให้มั่นใจว่า สามารถสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมาย และประชาชนได้อย่างชัดเจน โดยจะต้องขอความร่วมมือจาก ส.ส.ทุกคน ในการดำเนินการหลังจากนี้