‘ฐิติภัสร์’ขอบคุณแรงใจ-แรงหนุน 14 พ.ค. ขอโอกาสทำหน้าที่ ส.ส. อีกครั้ง

น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตบางกะปิ-วังทองหลาง เบอร์ 11 พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า วันที่ 14 พ.ค.ขอประชาชนไปใช้สิทธิลงคะแนนด้วย ตนขอฝากชาวบางกะปิ และวังทองหลาง ว่า สี่ปีที่แล้ว ตนทำหน้าที่ ส.ส.ในเขตนี้ ช่วยวางแผนพัฒนาพื้นที่กับทุกภาคส่วน และดูแลทุกข์สุขของประชาชนอย่างถ้วนหน้าโดยไม่เลือกปฏิบัติ ตนศึกษาข้อมูลของพื้นที่อย่างรอบคอบ และร่วมกับทุกฝ่ายในการพัฒนา และแก้ปัญหาในพื้นที่จนลุล่วง แต่บางเรื่องยังต้องสานงานต่อ หวังว่า ไม่กี่นาทีข้างหน้า ชาวบางกะปิ และวังทองหลางจะให้โอกาสตนอีกครั้งในการกลับไปทำหน้าที่ ส.ส.ของเขตนี้อย่างภาคภูมิใจด้วยคะแนนบริสุทธิ์ของทุกคน

“4 ปีที่แล้ว ขอขอบคุณความไว้วางใจที่ทุกคนมอบให้ และไม่กี่วันข้างหน้านี้ หวังว่าความไว้วางใจดังกล่าวจะคงอยู่ และเพิ่มขึ้น และมอบให้ โอ๋ ไปทำหน้าที่ ส.ส.อีกครั้ง เพราะการบ้านข้อหนึ่งที่ โอ๋ และประชาสังคมในพื้นที่ รวมทั้งส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจับมือกันคือ การรักษาพื้นที่สีเขียวไว้ให้เป็นปอดของประชาชนคือ การร่วมกันสร้างสรรค์ชุมชนริมทะเลสาบคลองจั่น” น.ส.ฐิติภัสร์ ระบุ
 

น.ส.ฐิติภัสร์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาการเคหะแห่งชาติ จัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ร่วมกันสร้างสรรค์ชุมชนริมทะเลสาบคลองจั่น ภายใต้โครงการศึกษาความเป็นไปได้การพัฒนาโครงการแบบผสมผสาน (mixed-use) ตามเส้นทางโครงข่ายระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนมาแล้ว 2 ครั้ง ซึ่งประชาชนในพื้นที่สะท้อนมาที่ตนในช่วงที่ทำหน้าที่ ส.ส.ว่า โครงการนี้จะเกิดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม เพราะการเคหะฯมีแนวคิดจะใช้พื้นที่ก่อสร้างโครงการดังกล่าวที่บึงพังพวย, สนามกีฬาคลองจั่น และสวนนวมินทร์ภิรมย์ ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำ, พื้นที่สีเขียวซึ่งเป็นปอดของประชาชนในย่านนี้

รวมทั้งสนามกีฬาที่ประชาชนนำไว้ใช้ออกกำลังกาย และกิจกรรมต่างๆ ในชุมชน โดยตนได้ยืนยันร่วมกับประชาชนในพื้นที่ไปว่า หากส่วนราชการจะดำเนินการใดๆ นั้น ควรสอบถามประชาชนที่ได้รับผลกระทบด้วย และหากประชาชนไม่เห็นชอบก็ควรรับฟังความเห็น และยุติโครงการ ซึ่งโครงการนี้ทราบว่า ผู้ว่าการเคหะแห่งชาติลงนามยุติ เพื่อยกเลิก และถอนพื้นที่สวน และสนามออกจากแผนยุทธศาสตร์ของการเคหะแห่งชาติแล้ว
 

น.ส.ฐิติภัสร์ กล่าวว่า ขอบคุณการเคหะฯ ไว้ด้วย ที่รับฟังความเห็นของประชาชนที่เสนอแนะความเห็นอย่างสร้างสรรค์ และสงบตามหลักประชาธิปไตย และรัฐธรรมนูญ เพราะการที่ประชาชน และภาคประชาสังคมคัดค้านโครงการก่อสร้าง mixed use ของการเคหะฯ ในพื้นที่นั้นเพราะเสียงส่วนใหญ่ต้องการเก็บพื้นที่สีเขียวที่มีประโยชน์กับประชาชนไว้ให้ลูกหลาน ดังนั้น ขอเสนอว่าในวันข้างหน้า การเคหะฯ และภาคประชาสังคมในพื้นที่ควรช่วยกันคิด และวางแผนว่าจะรักษา และพัฒนาพื้นที่สีเขียวเหล่านี้ไว้อย่างไร ตนในฐานะนักการเมืองที่อาสามาทำหน้าที่แทนประชาชนในเขตนี้ จะขอเป็นหนึ่งแรงที่จะช่วยผลักดันให้โครงการดีๆ เหล่านี้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืน

“ทราบมาว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ให้ข้อแนะนำผู้บริหารพรรคและผู้สมัคร ส.ส.ว่าการดำเนินการใดๆ ในพื้นที่นั้นควรรับฟังความเห็นอย่างรอบด้าน และยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ รวมทั้งร่วมรักษาสิ่งแวดล้อมด้วย” น.ส.ฐิติภัสร์ ระบุ

น.ส.ฐิติภัสร์ กล่าวอีกว่า กรณีนี้ก็เช่นกัน ตนได้เสนอผู้บริหารพรรคให้ทราบถึงความต้องการของประชาชนในพื้นที่แล้ว และผู้บริหารพรรคเห็นด้วยที่ควรจะเก็บพื้นที่สีเขียวนี้ไว้ พร้อมกับให้ข้อแนะนำกับตนว่า ควรไปสอบถามประชาชนว่าอยากให้พรรคดำเนินการอะไรบ้างกับพื้นที่นี้ในเชิงสร้างสรรค์ และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ซึ่งแนวทางของพรรคตอบโจทย์ที่ประชาชนต้องการ และหากวันข้างหน้าการเคหะฯ จะพัฒนาพื้นที่นี้อย่างไร ตนก็พร้อมที่จะไปช่วยคิด และประสานทุกฝ่ายหารือให้เกิดจุดสมดุลร่วมกัน

“พรรคและดิฉัน พร้อมสนับสนุนสิ่งที่ประชาชนต้องการในวาระที่เกิดประโยชน์ต่อสังคมอย่างเต็มที่ เพราะพรรครวมไทยสร้างชาติ ยึดประชาธิปไตย และกฎหมายรวมทั้งเสียงของประชาชนเป็นหลักสำคัญ ฉะนั้นพื้นที่รับน้ำในเขตนี้ต้องพัฒนาให้ดีขึ้น รองรับปัญหาน้ำท่วมบนผิวถนน และที่อยู่อาศัย ส่วนสวนสาธารณะ ซึ่งเป็น สิ่งแวดล้อมสีเขียวและลานกีฬาที่สร้างสุขภาพที่ดีให้ประชาชน พวกเราต้องร่วมมือเก็บไว้ ดังนั้นขอโอกาสตนในการกลับมาทำหน้าที่ ส.ส.ในเขตนี้อีกครั้ง รวมทั้งขอให้ไว้วางใจพรรค เพื่อผลักดันสิ่งที่ประชาชนต้องการให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน” น.ส.ฐิติภัสร์ กล่าว

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์