"พวงเพ็ชร" สวนคนวิจารณ์ "กระเป๋าเงินดิจิทัล" ศึกษาให้ดี ถ้าโจมตีอาจโดนฟ้อง

"พวงเพ็ชร" สวนคนวิจารณ์ "กระเป๋าเงินดิจิทัล" ศึกษาให้ดี ถ้าโจมตีอาจโดนฟ้อง

"พวงเพ็ชร" สวนคนวิจารณ์นโยบาย "กระเป๋าเงินดิจิทัล" ศึกษาให้ดีก่อนพูด ถ้าโจมตีอาจโดนฟ้องกลับ ติง กกต.ยกคณะบินดูงานต่างประเทศช่วงเลือกตั้ง 66 ไม่สมควร เหตุพรรคการเมืองมีเรื่องปรึกษา แต่ถามใครไม่ได้

เมื่อวันที่ 13 เม.ย.2566 ที่ผ่านมา ที่วัดพระพิเรนทร์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่ กทม. พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย น.ส.กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 กทม. นายศิลปวิชญ์ น้อยสมมิตร ผู้สมัคร ส.ส.เขต 24 กทม. และ นายคชาภา ตันเจริญ หรือ มดดำ สมาชิกพรรคเพื่อไทย ร่วมงานทำบุญรวมญาติ จากนั้นไปร่วมบำเพ็ญกุศลพระภิกษุที่มรณภาพ ณ โรงพยาบาลสงฆ์

โดยนางพวงเพ็ชร กล่าวถึงการร่วมงานในครั้งนี้ว่า มาร่วมทอดผ้าบังสุกุล ซึ่งเป็นงานพิธีที่วัดพระพิเรนทร์จัดขึ้นทุกปี เพื่อทำบุญให้กับพระสงฆ์ที่มรณภาพ และไม่มีญาติ ในช่วงสงกรานต์

เมื่อถามว่า ขณะนี้มีหลายพรรคโจมตีนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัลนั้น นางพวงเพ็ชร กล่าวว่า "ก่อนวิจารณ์คุณต้องศึกษาให้เรียบร้อยก่อน เพราะจะเป็นเรื่องของการใส่ความ ซึ่งในกฎหมายการหาเสียง ห้ามใส่ความผู้อื่นหรือห้ามทำให้ผู้อื่นเสียหาย พร้อมยืนยันนโยบายที่พรรคเพื่อไทยออกมาทุกนโยบายสามารถทำได้จริง ไม่ต้องห่วง ถ้าคุณมาโจมตีอย่างนี้อาจจะโดนฟ้องกลับได้

เมื่อถามถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เดินทางไปเดินทางไปดูงานต่างประเทศในช่วงนี้นั้น นางพวงเพ็ชร กล่าวว่า เรื่องนี้ก็มีคนวิพากษ์วิจารณ์เยอะ ซึ่งทางพรรคก็มีประเด็นที่ต้องสอบถาม กกต. แต่ กกต. ทั้ง 6 คน ก็เดินทางไปต่างประเทศกัน ทั้งนี้ตนมองว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่ทุกคนต้องเตรียมตัวในการเลือกตั้ง รวมถึง กกต. ก็ต้องเตรียมพร้อมในการเลือกตั้ง เพราะฉะนั้นไม่สมควรที่จะไปต่างประเทศ เพราะทุกคนมีปัญหาที่ต้องสอบถาม กกต. มากมาย และพรรคเพื่อไทย ก็มีคำถามที่จะต้องถามแต่ไม่มีใครอยู่ให้คำปรึกษา

ส่วน น.ส.กานต์กนิษฐ์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่มีประชาชนสอบถามเรื่องนโยบายเงินดิจิทัลเช่นกัน โดยตนให้ข้อมูลเพื่อให้มีความกระจ่างขึ้น ซึ่งหลังจากที่อธิบายไป ประชาชนหลายคนก็ให้ความสนใจ ถือเป็นเสียงตอบรับที่ดี

ขณะที่นายศิลปวิชญ์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่พบประชาชน ประชาชนให้ความสนใจกับนโยบายดังกล่าวเช่นกัน และมีแนวคิดถึงขั้นที่ว่า หนึ่งครอบครัวมี 4-5 คน ก็หวังที่จะเอาเงินก้อนมาลงทุนสร้างอาชีพใหม่ให้กับครอบครัว โดยจากที่ฟังเสียงมาหลายคนดีใจและมีความหวังกับนโยบายนี้