“ก้าวไกล” ลั่น 4 ปีทำงานคุ้มภาษี! ประกาศกวาด ส.ส.มากกว่ายุค อนค.ปักธงทุกภาค

“ก้าวไกล” ลั่น 4 ปีทำงานคุ้มภาษี! ประกาศกวาด ส.ส.มากกว่ายุค อนค.ปักธงทุกภาค

“ก้าวไกล” ประชุมใหญ่แกนนำ-ผู้สมัคร ส.ส. เตรียมพร้อมยุบสภาฯ สู้ศึกเลือกตั้ง 66 “พิธา” ลั่นที่ผ่านมาทำงานคุ้มภาษี ดุดันไม่เกรงใจใคร ประกาศเป้าหมายกวาดเก้าอี้ได้มากกว่ายุค “อนาคตใหม่” ปักธงทุกภาคทั่วประเทศ ขอประชาชนกาบัตรทั้ง 2 ใบ เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศอย่างแท้จริง

เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2566 ที่โรงแรมเอเชีย แอร์พอร์ท พรรคก้าวไกลได้จัดงานประชุมใหญ่ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ทั้งแบบเขตและบัญชีรายชื่อ เพื่อเตรียมพร้อมก่อนการยุบสภาฯ และสู้ศึกเลือกตั้ง 2566 โดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวเปิดการประชุมว่า การประชุมครั้งนี้เป็นไปเพื่อเตรียมความพร้อมรับยุบสภา เข้าสู่โหมดเลือกตั้งเต็มรูปแบบ ในส่วนเป้าหมายในการเลือกตั้ง พิธาประกาศว่าเป้าหมายในการเลือกตั้งครั้งนี้ของพรรคก้าวไกล มี 2 เรื่อง คือ ได้ ส.ส. มากกว่าพรรคอนาคตใหม่ และต้องปักธง ส.ส. ได้ครบทุกภาคทั่วประเทศ

“ก้าวไกล” ลั่น 4 ปีทำงานคุ้มภาษี! ประกาศกวาด ส.ส.มากกว่ายุค อนค.ปักธงทุกภาค

นายพิธา กล่าวอีกว่า ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา พรรคก้าวไกลได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าเราเป็นพรรคที่ทำงานได้คุ้มค่าภาษีประชาชน เป็นพรรคที่ทำงานอย่างดุดันไม่เกรงใจใคร เกรงใจคนเดียวคือประชาชน แต่เป็นฝ่ายค้าน ทำงานรับใช้ประชาชนไม่เต็มที่ เปลี่ยนประเทศได้น้อยเกินไป เพราะฉะนั้น 4 ปีนับจากนี้ พรรคก้าวไกลจึงขอ ส.ส. มากกว่าสมัยอนาคตใหม่ เพื่อเป็นรัฐบาล ทำงานเปลี่ยนประเทศไทยในแบบที่นักการเมืองในอดีตไม่เคยมีใครทำสำเร็จมาก่อน หรือไม่คิดจะทำ

“ก้าวไกล” ลั่น 4 ปีทำงานคุ้มภาษี! ประกาศกวาด ส.ส.มากกว่ายุค อนค.ปักธงทุกภาค

“ในการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคก้าวไกลมุ่งมั่นที่จะเป็นรัฐบาล เพื่อเข้าไปสร้างการเปลี่ยนแปลงให้ได้มากกว่าเดิม หากประชาชนอยากให้เราบริหารประเทศ ขอให้เลือกพรรคก้าวไกลทั้ง 2 ใบ ใบแรกเลือก ส.ส.เขตเอาไว้ใช้งานที่เขตบ้านของท่าน ใบที่สอง เลือกพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาลเพื่อเปลี่ยนประเทศ เรามี ส.ส. แบบพรรคก้าวไกลน้อยเกินไป เราจึงเปลี่ยนประเทศได้เพียงเท่านี้ ในการเลือกตั้งครั้งหน้าเราต้องการ ส.ส.ให้มากที่สุด เพื่อเข้าไปเปลี่ยนประเทศไทยอย่างแท้จริง” นายพิธา กล่าว

“ก้าวไกล” ลั่น 4 ปีทำงานคุ้มภาษี! ประกาศกวาด ส.ส.มากกว่ายุค อนค.ปักธงทุกภาค

หลังจากนั้น นายพิธา ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมถึงการประชุมร่วมกับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในครั้งนี้ ว่า เป็นการเตรียมตัวก่อนการยุบสภาฯ ไม่เช่นนั้นจะทำให้โอกาสการเตรียมตัวของว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ทั้งเขตและบัญชีรายชื่อ จะเป็นไปได้ยาก โดยมียุทธศาสตร์การหาเสียงโค้งสุดท้ายและแคมเปญแมสเสจที่จะใช้หาเสียง รวมถึงการพยายามปลุกขวัญและกำลังใจของส.ส.ทุกคน ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาพรรคก้าวไกลทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มที่และอยากจะพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าเราจะมีประโยชน์กว่าเมื่อเราได้เป็นรัฐบาลในอีก 4 ปีข้างหน้า เราจึงต้องเตรียมความพร้อมการทำงานเพื่อให้ส.ส.เขตได้ลงพื้นที่และมีงานสภาเด่น และต้องย้ำดีเอ็นเอของพรรคก้าวไกลในช่วงโค้งสุดท้ายที่เหลืออยู่ 60 กว่าวัน

เมื่อถามว่า วางเป้าหมาย ส.ส.ของพรรคก้าวไกลไว้เท่าไหร่ นายพิธา กล่าวว่า ขณะนี้มีอยู่ 2 เป้าหมายเป้าหมายแรกคือการได้ ส.ส.มากกว่าสมัยอดีตพรรคอนาคตใหม่ และเป้าหมายที่สองคือการมี ส.ส.เขตครบทุกภูมิภาคให้ได้

เมื่อถามถึงยุทธศาสตร์ในการหาเสียงเลือกตั้ง นายพิธา กล่าวว่า ยุทธศาสตร์คือ การเข้าหาประชาชนให้มากที่สุด และอยู่ที่การบริหารจัดการ การทำงานอย่างทุ่มเทของว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. แกนนำพรรคและการจัดวางพื้นที่ในการเข้าหาพี่น้องประชาชน เพื่อให้ประชาชนเห็นว่าการมีพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาลสามารถทำให้ปัญหาของเขาได้รับการผ่อนคลายไป 

เมื่อถามถึงกรณีที่เกิดความขัดแย้งและความวุ่นวายระหว่างที่ลงพื้นที่ นายพิธา กล่าวว่า พรรคก้าวไกลเข้าใจเรื่องนี้ ว่าเป็นส่วนหนึ่งของระบบประชาธิปไตยคือการมีกระบวนการพูดคุยและสิทธิในการแสดงออกแต่ต้องมีกระบวนการจัดการและมีวุฒิภาวะ โดยเราจะไม่ทำให้เหมือนกับกรณีของป้านาที่จังหวัดราชบุรีอย่างแน่นอนไม่ว่าจะตอนที่หาเสียงหรือตอนที่ตนรัฐบาลแล้ว เพราะเราต้องการให้มีพื้นที่ปลอดภัยไว้พูดคุยกัน ขณะเดียวกันคนก็คงจะดูออกว่าเป็นความตั้งใจมาใช้สิทธิทางการเมืองจริงหรือไม่ หรือมาอย่างมีความตั้งใจแอบแฝงอื่นที่โดนบังคับมา 
 
เมื่อถามถึงการวางตัวผู้ปราศรัยหลักในแต่ละภูมิภาคอย่างไร นายพิธากล่าวว่า คงต้องหาจุดสมดุล คนที่เป็นผู้นำ จะต้องมีความรู้และวิสัยทัศน์หลากหลาย ครอบคลุมทั้งเรื่องเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมเพื่อให้ประชาชนเกิดความไว้เนื้อเชื่อใจ ขณะเดียวกันต้องมีความสมดุลในการทำงานเป็นทีม ในเร็ว ๆ นี้จะมีทีม “ทิม พิธา” เพราะการเมืองนี้ไม่ใช่ว่ามีซุปเปอร์แมนคนเดียวแล้วจะแก้ไขปัญหาได้ทั้งหมด จึงต้องมีการทำงานเป็นทีม ที่มีความเชี่ยวชาญในหลายรูปแบบ โดยมีตนเป็นตัวหลัก เพราะเป็นแคนดิเดตนายกฯ 

เมื่อถามถึงกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้าและผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกลมีส่วนร่วมในการหาเสียงเลือกตั้งมากเพียงใด นายพิธา กล่าวว่า นายธนาธรเป็นผู้ช่วยหาเสียงตามกฎหมายเท่านั้น