“ยุทธการ”อัด“พงศ์สินธุ์”ปล่อยข่าวลอบกัดปชป.-ปัดสมาชิกจ.นครศรีฯย้ายออก

“ยุทธการ”อัด“พงศ์สินธุ์”ปล่อยข่าวลอบกัดปชป.-ปัดสมาชิกจ.นครศรีฯย้ายออก

“ยุทธการ”อัด“พงศ์สินธุ์”ปล่อยข่าวลอบกัดปชป.-ปัดสมาชิกจ.นครศรีฯย้ายออก ซัดให้ร้ายบ้านเก่าเพื่อเอาใจบ้านใหม่ ย้ำควรต่อสู้ตามวิถีทางที่ได้ตัดสินใจแล้ว

นายยุทธการ รัตนมาศ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายพงศ์สินธุ์ เสนพงศ์ สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ออกมาเปิดเผยว่า จะมีสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์อีกเป็นจำนวนมาก ลาออกเพื่อไปร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ในวันพรุ่งนี้ (3 ธันวาคม) ตนได้ติดตามความเคลื่อนไหวของนายพงศ์สินธุ์ ภายหลังจากที่ผลโพลล์ที่ทำการสำรวจความนิยมของประชาชนในพื้นที่ อ.หัวไทร และ อ.ชะอวด ออกมาว่า ไม่ได้รับเลือกเป็นตัวแทนของพรรคประชาธิปัตย์ ในการเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. นั้น  ปรากฏว่า นายพงศ์สินธุ์ มักชอบให้ข่าวและเล่นใหญ่จนสร้างเข้าใจผิดต่อพรรค และชาวบ้าน มาโดยตลอด

โดยตนพยายามให้ข่าวเท่าที่จำเป็นและเดินหน้าในสิ่งที่ถูกที่ควร คือการลุยแนะนำตัว  ในพื้นที่ 3 อำเภอดังกล่าว ซึ่งกระแสตอบรับของประชาชน ถือว่าเป็นไปในทิศทางที่ดี แต่เมื่อนายพงศ์สินธุ์ ออกมาระบุว่า จะมีสมาชิกพรรคฯ ในจังหวัดนครศรีธรรมราช อีกจำนวนมาก ลาออกตามนายพงศ์สินธุ์ เพื่อไปสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ ในการเลือกตั้งครั้งที่จะถึงนี้ 
 

นายยุทธการ กล่าวต่อว่า ตนเห็นว่า นายพงศ์สินธุ์ มีพฤติกรรมอย่างที่ตนเคยวิจารณ์ นายไพร พัฒโน ที่ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ไปสังกัดพรรคเศรษฐกิจไทย และล่าสุด จะลง ส.ส. ในนามพรรคภูมิใจไทยว่า ‘ให้ร้ายบ้านเก่า เพื่อเอาใจบ้านใหม่’ เพราะการที่นายพงศ์สินธุ์ เคลื่อนไหวเล่นใหญ่ในช่วงที่ผ่านมา เพื่อให้เป็นข่าวตามหน้าสื่อนั้น เจตนาก็เพื่อเล่นกับความรู้สึกของประชาชนว่า ตัวเองน่าสงสาร ถูกกลั่นแกล้ง จนต้องจำใจลาออกเพื่อหาสังกัดพรรคการเมืองใหม่ และพอได้สังกัดพรรคใหม่อย่างเป็นทางการ ก็แสดงออกให้ประชาชนเห็นว่า มีพาวเวอร์ที่สามารถดึงดูดความนิยมให้กับพรรคใหม่ที่ไปสังกัดได้ 

“ผมอยากขอให้ นายพงศ์สินธุ์ เลิกใช้วิธีสร้างความเข้าใจผิดและให้ร้ายต่ออดีตพรรคฯ ที่เคยสังกัด และหันมาใช้วิธีตามวิถีทางประชาธิปไตย คือ การเสนอว่า พรรคที่นายพงศ์สินธุ์ สังกัดอยู่นั้น มีนโยบายอย่างไรบ้าง จะชูบุคคลใดเป็นนายกรัฐมนตรี และจะต้องให้ชาวบ้านเชื่อมั่นว่า หากเลือกนายพงศ์สินธุ์ เป็น ส.ส.แล้ว จะสร้างหลักประกันให้ชาวบ้านอย่างไรว่า หากบุคคลที่พรรคของนายพงศ์สินธุ์สังกัดสนับสนุน เกิดหมดอำนาจวาสนาไปแล้ว พรรคของนายพงศ์สินธุ์สังกัดจะยังอยู่ เพราะเรื่องการคงอยู่ยาวนานของพรรคการเมือง ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ชาวบ้านจะพิจารณาในการเลือกใครสักคนเป็นตัวแทนของคนในพื้นที่อีกด้วย”
 

นายยุทธการ กล่าวต่อว่า ตนยังย้ำเหมือนเดิมว่า ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากให้สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์คนไหนลาออก แต่ที่ผ่านมา คนที่ลาออกจากพรรคหลายต่อหลายคน ก็ต่อสู้ตามวิถีทางการเมืองของตัวเองที่ได้ตัดสินใจแล้ว และไม่ค่อยจะมีพฤติกรรมที่เรียกว่า ‘ให้ร้ายบ้านเก่า เพื่อเอาใจบ้านใหม่’ ทั้งนี้ตนมองว่า นายพงศ์สินธุ์ ต้องการจะมีตัวตนในพรรคการเมืองที่ไปสังกัดใหม่ จึงทำให้ต้องแสดงออกแบบเล่นใหญ่อยู่หลายครั้ง อย่างเช่นการปล่อยข่าวที่บอกว่าสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์จำนวนมากลาออกตามนายพงศ์สินธุ์ไปอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ 

“ผมได้รับการยืนยันมาแล้วว่า สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ส่วนมากที่อยู่ในพื้นที่ ก็ยังจะเดินหน้าตามอุดมการณ์ของพรรค และยังมีคนรุ่นใหม่ๆ เดินทางเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรคฯเป็นจำนวนมากด้วย  ดังนั้น หากนายพงศ์สินธุ์ ต้องการจะมีบทบาทหรือตัวตนในพรรคใหม่แล้ว ควรที่จะมุ่งมั่นตั้งใจทำงานกับพรรคการเมืองที่สังกัดใหม่ มากกว่าที่จะคอยหาประเด็นทำลายพรรคที่นายพงศ์สินธุ์เดินออกมาแล้ว” 

นายยุทธการ กล่าวทิ้งท้ายว่า ประเด็นสุดท้ายขอฝากถึงนายพงศ์สินธุ์ การที่จะเป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนต้องเป็นตัวตนที่แท้จริงของตนเองไม่ใช่เป็นหนังตะลุงที่คอยมีคนกำกับและชักปากคอยสอยให้พูดเหมือนเด็กที่เริ่มฝึกพูด