“พิธา” สวน “ปิยบุตร” ยัน “ก้าวไกล” ยังลุยแก้ ม.112 แต่ต้องทำละเอียดอ่อน

“พิธา” สวน “ปิยบุตร” ยัน “ก้าวไกล” ยังลุยแก้ ม.112 แต่ต้องทำละเอียดอ่อน

“พิธา” ยัน “ก้าวไกล” ยังเดินหน้าแก้ไข ม.112 แม้โดน “ปิยบุตร” สับเละ เผยเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องมีพื้นที่ปลอดภัยในการคุย เหตุมีประชาชนได้รับผลกระทบ รับรัฐบาลชุดนี้ยังปิดกั้นยื่นแก้ไข หากทำสมัยนี้ไม่ได้ ต้องทำในสภาชุดหน้า

เมื่อวันที่ 26 พ.ย.2565 ที่อาคารอนาคตใหม่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความถึงการผลักดันของพรรคก้าวไกลต่อการการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เป็นแค่เครื่องมือหาเสียง รักษาฐานคะแนนของคนรุ่นใหม่ ว่า พรรคก้าวไกลยังคงผลักดันการแก้ไขมาตรา 112 เนื่องด้วยในช่วง 1 ปีที่ผ่านมามีการหยิบกฎหมายมาใช้ทำลายคนเห็นต่างทางการเมืองกับรัฐบาล ล่าสุดมี 19 คนที่พรรคก้าวไกลเข้าไปใช้สิทธิ์ ส.ส.ประกันตัว 

นายพิธา กล่าวว่า ยอมรับว่า รัฐบาลชุดนี้ยังมีการปิดกั้นในการยื่นแก้ไขมาตรา 112 โดยหลังจากนี้จะพิจารณาว่าจะสามารถผลักดันในสภาได้อย่างไรบ้าง หากสมัยนี้ทำไม่ได้ ในสภาชุดหน้าจะต้องทำให้ได้มากกว่าเดิม พร้อมย้ำว่าจะยังคงผลักดันต่อเนื่อง ทั้งการผลักดันในสภา รวมถึงทำเป็นนโยบายหาเสียง โดยจะทำตามบริบทของสถานการณ์ เนื่องจากเป็นประเด็นละเอียดอ่อนต้องมีพื้นที่ปลอดภัยในการพูดคุย ซึ่งในสภาเหมาะสมที่สุด เพราะมีประชาชนได้รับผลกระทบจากมาตรา 112 จำนวนมาก

นายพิธา กล่าวถึงผลงานของพรรคก้าวไกล คือการยื่นแก้ไขมาตรา 112 และการอภิปรายงบประมาณ ปี 2566 ที่อยู่ในงบนอกพระราชวัง รวมถึงการดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากมาตรา 112 เป็น 3 อย่างที่พยายามทำอย่างเต็มที่เพื่อให้ประชาธิปไตยของประเทศไทยเป็นไปตามหลักสากล

นายพิธา กล่าวถึงวาระการประชุมในวันที่ 29-30 พ.ย.นี้ ที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญปี 2560 หมวดการปกครองส่วนท้องถิ่น โดยเชื่อว่ารัฐสภาจะให้ความเห็นชอบร่างแก้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ โดยยืนยันว่าฝ่ายค้านเห็นตรงกันที่จะให้ความเห็นชอบ ส่วนความเห็นของฝ่ายรัฐบาลก็ต้องกระทุ้งถาม เพราะเวลาที่มีการอภิปรายเรื่องการกระจายอำนาจ ทุกคนต่างร่วมแสดงความเห็นอภิปราย ขณะเดียวกันก็ต้องติดตามการพิจารณาของวุฒิสภา เชื่อว่าหลายท่านทำงานเรื่องนี้ ซึ่งจะเข้าใจความลำบากของข้าราชการในส่วนภูมิภาค ทั้งนี้ หาก 3 ฝ่ายเข้าร่วมประชุมก็เชื่อว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่พิจารณาวาระนี้ อย่างไรก็ตาม ไม่แน่ใจว่าจะเข้าสู่วาระการประชุมสัปดาห์นี้หรือไม่ เพราะการประสานงานของวิปทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่ราบรื่น