"ส.ว." เห็นชอบ พ.ร.ก.กู้เงินอุ้มกองทุนน้ำมัน

"ส.ว." เห็นชอบ พ.ร.ก.กู้เงินอุ้มกองทุนน้ำมัน

"ส.ว." เห็นชอบ พ.ร.ก.กู้เงินอุ้มกองทุนน้ำมัน "สุพัฒนพงษ์" โอ่ เป็นรัฐบาลเดียวที่ไม่สร้างผลกระทบประชาชน ย้ำวิกฤติพลังงาน ที่ประเทศเจอเป็นภาวะวิกฤติพลังงานซ้อนวิกฤติค่าเงินบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการประชุมวุฒิสภา ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ผ่อนผันให้กระทรวงการคลัง ค้ำประกันการชำระหนี้ของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2565 ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้เสนอ ซึ่งเป็นการพิจารณาอนุมัติต่อจากที่สภาผู้แทนราษฎร ลงมติเห็นชอบ ทั้งนี้ในการพิจารณา ที่ประชุมวุฒิสภาลงมติเห็นด้วย  187 เสียง ไม่เห็นด้วย 1 เสียง งดออกเสียง 5 เสียง

 

 


 

โดยนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯและรมว.พลังงาน ชี้แจงต่อที่ประชุมวุฒิสภา ช่วงหนึ่งว่าจากปัญหาวิกฤติพลังงาน ราคาน้ำมัน ที่ผ่านมา ถือเป็นวิกฤติที่ซ้อนวิกฤติ ทั้งกรณี ค่าน้ำมัน ที่ราคาสูงขึ้น ขณะที่ค่าเงินบาทนั้นตกต่ำ โดยการแก้ปัญหาที่ผ่านมารัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลเดียวที่ไม่ทำให้เกิดผลกระทบกับประชาชน ทั้งนี้การแก้ปัญหาต้องใช้การประคับประคองแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยที่ผ่านมามีดัชนีชี้วัดค่อนข้างดี ส่วนกรณีที่มีข้อเสนอแนะว่าอย่าอุดหนุนจนบิดเบือน เพราะจะทำให้เกิดความเข้าใจ รัฐบาลต้องดูแลเรื่องดังกล่าว ขณะที่การชำระเงินกู้ รัฐบาลได้คำนึงในประเด็นดังกล่าวพร้อมกับการคงเสถียรภาพทางการเงินการคลังอย่างเคร่งครัด 

 

ขณะที่แผนการกู้เงินนั้น นายพรชัย จิรกุลไพศาล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ในฐานะผู้ช่วยเลขาฯ คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ชี้แจงว่า สำหรับแผนการกู้เงินนั้นได้รับอนุมัติจากรัฐบาลแล้ว โดยจะมีการกู้เงินก้อนแรก 3 หมื่นล้านบาท ในปี 2565 และอีกก้อน จำนวน 1.2 แสนบ้านบาท จะดำเนินการในปี 2566 ขณะที่แผนการชำระเงินนั้น หนี้ก้อนแรกจะมีระยะเวลาใช้คืน 7 ปี ขณะที่ก้อนที่สองมีระยะเวลาการชดใช้ 7 ปีเช่นกัน

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์