ทัพจรยุทธ์ “สุดารัตน์” ก้างขวางคอคนแดนไกล

ควันหลงงานวันเกิดครูใหญ่บุรีรัมย์ มีคนแอบได้ยินใครบางคนพูดว่า “ให้เต็มที่ก็ 180 ที่นั่ง” หมายถึงจำนวนที่นั่ง ส.ส.ของพรรคใหญ่ ที่หวังจะแลนด์สไลด์นั้น แต่เกจิการเมืองเซราะกราวฟันธงได้ 180 ที่นั่ง ไม่ถึงเป้าหมาย 250 ที่นั่ง

พรรคเพื่อไทย มีจุดแข็งอยู่ที่ภาคเหนือตอนบน และภาคอีสานเหนือ ซึ่งสนามภาคอีสาน จะเป็นจุดชี้ขาดว่า เพื่อไทยแลนด์สไลด์ได้หรือไม่

การเลือกตั้งปี 2554 สมัยยิ่งลักษณ์ฟีเวอร์ ในภาคอีสาน เพื่อไทยกวาดที่นั่ง ส.ส.ได้ 104 ที่นั่ง จากทั้งหมด 126 ที่นั่ง แต่เลือกตั้งครั้งใหม่ ครูใหญ่ค่ายสีน้ำเงินวางแผนเดินเกมกดตัวเลขให้เพื่อไทย ได้ ส.ส.ไม่ถึง 90 ที่นั่ง จากจาก 132 ที่นั่ง

นอกจากกลยุทธ์ตอกเสาเข็มของภูมิใจไทยในพื้นที่อีสานใต้ ที่ตั้งเป้าให้ได้มากถึง 30 ที่นั่ง ส่วนอีสานเหนือ ก็แอบหวังให้พรรคก้าวไกล และพรรคไทยสร้างไทย เจาะได้รายเขตตัดแต้มเพื่อไทย

อีสานโพลเดือน ต.ค.2565 ในหัวข้ออยากได้ใครเป็นนายกรัฐมนตรี ปรากฏว่าคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ร้อยละ 23.2 มาเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาคือ แพทองธาร ชินวัตร ร้อยละ 21.7 ตามมาด้วยพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ร้อยละ 19.7 และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร้อยละ 11.7

เมื่อถามว่าจะลงคะแนนให้พรรคใด พบว่า อันดับ 1 พรรคเพื่อไทย ร้อยละ 35.6 รองลงมาพรรคก้าวไกล ร้อยละ19.4 ตามมาด้วยพรรคไทยสร้างไทย ร้อยละ 16.6

ผลการสำรวจของอีสานโพล สะท้อนว่า คุณหญิงสุดารัตน์ยังได้รับความนิยมจากคนอีสาน รวมถึงเรตติ้งของพรรคไทยสร้างไทย ก็กระเตื้องขึ้นมาแล้ว

ลองไปสำรวจดูพื้นที่เป้าหมายของคุณหญิงหน่อย และพรรคไทยสร้างไทย เป็นหนังตัวอย่างที่สะท้อนว่า อีสานไม่ได้ผูกขาดอยู่แค่พรรคเดียว

สนามอุบลราชธานี อดุลย์ นิลเปรม ประธานสภาอุตสาหกรรม จ.อุบลราชธานี และน้องชาย อมร นิลเปรม ส.ว. ย้ายจากพรรคพลังประชารัฐ ไปอยู่พรรคไทยสร้างไทย พร้อมกับเสี่ยอี๊ด สิทธิชัย โควสุรัตน์ อดีต รมช.มหาดไทย และอดีตแกนนำกลุ่มวังพญานาค

เลือกตั้งสมัยที่แล้ว เขต 1 อ.เมืองอุบลราชธานี วรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ (พท.) แข่งกับ อดุลย์ นิลเปรม (พปชร.) ผลปรากฏว่า วรสิทธิ์ ได้ 38,660 คะแนน และอดุลย์ ได้ 37,476 คะแนน เรียกว่า วรสิทธิ์เฉือนชนะแค่พันแต้ม

ศึกล้างตารอบใหม่ วรสิทธิ์ ทายาทเสี่ยเกรียง กัลป์ตินันท์ ต้องเจอคู่แข่งที่มีฐานแน่น และได้กระแสคุณหญิงหน่อย ก็สู้กันถึงฎีกาแน่ๆ

 สนามกาฬสินธุ์ วันเพ็ญ เศรษฐรักษา อดีตรองนายก อบจ.กาฬสินธุ์ โบกมือลาพรรคภูมิใจไทย มาอยู่พรรคไทยสร้างไทย หวังปักธงที่เขต 2 (ยางตลาด, ฆ้องชัย และกมลาไสย)

เจ๊นาง หรือวันเพ็ญ เศรษฐรักษา เคยลงสมัคร ส.ส.กาฬสินธุ์ ในนามภูมิใจไทยมา 2 ครั้ง แต่ไปไม่ถึงฝั่งฝัน สมัยที่แล้ว พ่าย ส.ส.กุ้ง หรือ วีระวัฒน์ โอสถานุเคราะห์พรรคเพื่อไทย ไม่กี่พันแต้ม

ส.ส.กุ้ง วีระวัฒน์ โอสถานุเคราะห์ สามีของอรดี สุทธศรี อดีต ส.ส.กาฬสินธุ์ 5 สมัย ที่เสียชีวิตไปแล้ว โดยส่วนตัวคะแนนนิยมเริ่มตกลง เพราะอายุเยอะ แต่อาศัยชื่อเสียงพรรคเพื่อไทยจึงได้เข้าสภาฯ

เขตนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ มั่นใจว่า เจ๊นางเอาชนะสามีอรดีได้ จึงลงพื้นที่กาฬสินธุ์บ่อยครั้ง อีกอย่างเจ๊นางได้ช่วยเหลือชาวบ้านต่อเนื่อง แต่ที่ผ่านมา ชาวบ้านไม่ชอบพรรคของเนวิน

สนามอุดรธานี คุณหญิงหน่อยก็มีความหวังจากนักการเมืองท้องถิ่น 2 คน ที่จะปักธงไทยสร้างไทยกลางเมืองหลวงคนเสื้อแดง

คนแรกคือ โชคเสมอ คำมุงคุณ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองบ้านดุง ที่ลงสนาม ส.ส.เขต 3 อุดรธานี ในสีเสื้อภูมิใจไทย แต่พ่ายขจิตร ชัยนิคม ส.ส.เพื่อไทยแบบมีลุ้น

ในวันที่คุณหญิงสุดารัตน์ มาเปิดตัวโชคเสมอ ที่ลานลานคนเมือง อ.บ้างดุง จ.อุดรธานี มีกองเชียร์โชคเสมอมาร่วมงานนับหมื่นคน ชาวบ้านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน “คืออยู่..ดีกว่าพรรคเก่า”

คนที่สองคือ หรั่ง ธุระพล นายก อบต.เซียงหวาง อ.เพ็ญ หลายสมัย ก็เหมือนโชคเสมอ ที่เคยสวมเสื้อภูมิใจไทยลงสนาม แต่ก็พบกับความผิดหวัง

สมัยที่แล้ว อ.เพ็ญ ถูกจัดให้เป็นเขต 2 อนันต์ ศรีพันธุ์ ส.ส.เพื่อไทยได้ 32,587 คะแนน ส่วนนายกฯหรั่ง ได้ 24,209 คะแนน

ทั้งขจิตร ชัยนิคม และอนันต์ ศรีพันธุ์ ผู้แทนฯ หลายสมัย และหมดเสน่ห์ในสายชาวบ้าน คนแดนไกลอยากเปลี่ยนให้ไปอยู่บัญชีรายชื่อ แต่ทั้งคู่คงไม่ยอม

ดังที่ทราบในพื้นที่อีสานเหนือ พรรคภูมิใจไทยมีภาพติดลบ คนเสื้อแดงยังฝังใจจำเนวิน คนทรยศนายใหญ่ ตรงกันข้ามกับคุณหญิงหน่อยที่ชาวอีสานชื่นชอบ ทำให้นักเลือกตั้งที่มีฐานแน่น ได้เก็บเกี่ยวกระแสสุดารัตน์มาเสริมบ้าง

ทัพจรยุทธ์ไทยสร้างไทยยังมีอีกหลายเขตหลายจังหวัดในอีสานเหนือ ที่พอจะฝ่าพายุอุ๊งอิ๊งเข้าสภาฯได้ หากคุณหญิงหน่อยทำได้ตามเป้า ก็คงกดตัวเลขเพื่อไทยอีสานได้ต่ำกว่า 90 ที่นั่ง