“ค่ายสีน้ำเงิน” วัดรอยเท้า "ค่ายนายใหญ่" 14 ปี แค้นคนดูไบไม่เคยเปลี่ยน
พรรคคู่แข่งเบอร์หนึ่งของเพื่อไทยในสมรภูมิอีสานก็คือ ภูมิใจไทย และวัดผลจากการเลือกตั้งปี 2554 และปี 2562 เพื่อไทยเหนือกว่ามาก แต่การขายนโยบายกัญชา ปลอดหนี้ กยศ. ปลดหนี้ 3 ปี ฯลฯ เริ่มมีเสียงตอบรับ ทักษิณจึงอยู่นิ่งไม่ได้
4 ต.ค.2565 เป็นวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 64 ปี "เนวิน ชิดชอบ" ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และผู้มากบารมีแห่งค่ายสีน้ำเงิน
ปีนี้ สถานที่จัดงานคือ สวนศิวะ 12 โครงการบุรีรัมย์ คาสเซิล จ.บุรีรัมย์ แน่นอนว่า ขบวนแถวนักเลือกตั้ง ทั้ง ส.ส. อดีต ส.ส. และนักการเมืองท้องถิ่น เข้าคิวมาอวยพรกันอย่างคึกคัก
เหนืออื่นใด ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั่วประเทศของภูมิใจไทย มารวมตัวกันอวยพรหัวหน้าพรรคตัวจริงอย่างพร้อมเพรียง และเป็นไปตามคาด ส.ส.พรรคอื่น ที่เตรียมย้ายค่าย ก็มาปรากฎตัว เบื้องต้นนับจำนวนได้ 28 คน จาก พลังประชารัฐ 11 เพื่อไทย 9 ก้าวไกล 5 และ เพื่อชาติ ชาติพัฒนา ประชาธิปัตย์ พรรคละ 1 จนกว่าจะปิดดีล อาจจะมีเพิ่มขึ้นกว่านี้
10 ปีที่แล้ว 4 ต.ค.2555 เนวิน ชิดชอบ ได้ประกาศยุติบทบาททางการเมือง ไม่รับตำแหน่งรัฐมนตรี หรือ ส.ส.ในงานวันเกิด ครบรอบ 54 ปี สาเหตุมาจากความปราชัยย่อยยับในการเลือกตั้งปี 2554
10 ปีผ่านไป เนวิน แถลงต่อหน้าสื่อมวลชนว่า ถ้าการรณรงค์เลือกตั้งครั้งหน้า ไม่สู้ให้อนุทินเป็นนายกรัฐมนตรี ตนเองจะลาออกจากครูใหญ่ พรรคภูมิใจไทย โดยการเลือกตั้งสมัยหน้า ค่ายสีน้ำเงินตั้งเป้าต้อง 100 ที่นั่งขึ้นไป
แต่งานวันเกิดของครูใหญ่เนวินปีนี้ กลับสวนทางกับคำประกาศเมื่อ 10 ปี เพราะบรรยากาศ ไม่ต่างอะไรกับงานวันเปิดตัว ส.ส.ที่ย้ายจากพรรคอื่นมาสังกัดภูมิใจไทย และยังอวยพรบรรดา ส.ส.ที่ผูกข้อมือให้ว่า "ขอให้ได้กลับมาเป็น ส.ส.ทุกคน และมึงต้องดูแลประชาชน" พร้อมคำอวยพรว่า "รอบหน้าให้ได้ 120 คน เท่ากับอายุหมอช้างที่มาทำพิธีในวันนี้"
ไฮไลท์สำคัญ อีกวรรคทอง อยู่ที่คำประกาศว่า "ถ้าการรณรงค์เลือกตั้งครั้งหน้า ไม่สู้ให้นายอนุทินเป็นนายกรัฐมนตรี ตนก็จะลาออกจากครูใหญ่พรรคภูมิใจไทย ขอขอบคุณในทุกพรและทุกคน ขอให้ทุกคนมีความสุขและชนะเลือกตั้ง ยินดีต้อนรับ ส.ส.ทุกคนที่กำลังจะเดินเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย แล้วลงสนามเลือกตั้งไปด้วยกัน เป้าหมายอย่างที่หัวหน้าพรรคพูดไว้ ต้อง 100 ขึ้น"
เสร็จจากพิธีการ พ่อใหญ่เนวินตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงโอกาสที่พรรคภูมิใจไทยจะได้เป็นรัฐบาลอีกหรือไม่ ว่า “ถึงเวลารู้เอง”
ยิ่งตอกย้ำยุทธศาสตร์ของภูมิใจไทย ที่มีเป้าหมายจะอัพเกรดพรรคไปสู่การเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลในเที่ยวหน้า เพราะหากเหลียวหลังแลหน้าในเวลานี้ คู่แข่งหลักมีเพียง"พรรคเพื่อไทย" เท่านั้น และถึงแม้เพื่อไทยจะได้มาเป็นที่หนึ่ง ก็มีบทเรียนให้เห็นแล้วว่า โมเดลการจัดตั้งรัฐบาลในปัจจุบันเป็นอย่างไร
คนดูไบ ย่อมอ่านเกมออก ดังนั้น ในแคร์คลับเฮาส์ “ทักษิณ ชินวัตร” ไม่ได้พูดถึง “เนวิน” โดยตรง แต่ก็มักวิจารณ์เรื่องพลังดูด ส.ส.และคัดค้านนโยบายหลายเรื่องของภูมิใจไทย
วันที่ 22 มิ.ย.2565 ทักษิณหรือโทนี่ พูดเรื่องกัญชาในแคร์คลับเฮาส์เป็นครั้งแรก โดยมองว่า กัญชาก็เหมือนฝิ่น “..เรื่องนี้ต้องดูให้ครบวงจร ไม่ใช่อยากหาเสียงว่า ปลูกกัญชาได้แล้ว บอกว่าชนะแล้ว”
ล่าสุด เมื่อ 27 ก.ย.2565 ทักษิณพูดถึงกรณีมีคลิปเด็กสูบกัญชาในโรงเรียนว่า “ทุเรศสุดๆ” และเปรียบการปลดล็อกกัญชาวันนี้ว่า “จริงๆแล้ว เราปล่อยเชื้อโรค โดยยังไม่ได้ฉีดวัคซีนให้”
ต้องยอมรับช่วงที่มีการปลดล็อคกัญชาใหม่ๆ อีสานโพลได้แถลงผลสำรวจเรื่องคนอีสานกับการปลูกกัญชาเสรี ปรากฏว่า ความนิยมของพรรคภูมิใจไทย เพิ่มจากร้อยละ 9 ในเดือน เม.ย.2565 เป็นร้อยละ 13.7 หลังมีข่าวการปลดล็อคกัญชา
แน่นอน พรรคคู่แข่งเบอร์หนึ่งของเพื่อไทยในสมรภูมิอีสานก็คือ ภูมิใจไทย และวัดผลจากการเลือกตั้งปี 2554 และปี 2562 เพื่อไทยเหนือกว่ามาก แต่การขายนโยบายกัญชา ปลอดหนี้ กยศ. ปลดหนี้ 3 ปี ฯลฯ เริ่มมีเสียงตอบรับ ทักษิณจึงอยู่นิ่งไม่ได้
จะว่าไปแล้ว ทางค่ายสีน้ำเงินก็พยายามส่งสาส์นไปถึงคนแดนไกลว่า อย่าเพิ่งด่วนตัดรอนภูมิใจไทย เพราะพรรคนี้ไม่มีแตกแถว ฟังลูกพี่ใหญ่บุรีรัมย์คนเดียว
แม้แต่ เสี่ยหนู อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ถูกนายใหญ่พาดพิงถึง ก็ไม่เคยตอบโต้ หนำซ้ำยังอวยกลับ “วิพากษ์วิจารณ์อะไร ท่านชมต่างหาก อย่างผมนี่ ถ้ารุ่นใหญ่อย่างนี้เอ่ยชื่อ ผมดีใจตายเลย ท่านเป็นผู้บังคับบัญชาผมนะ ผมพึ่งพามาตลอด ได้เป็นรัฐมนตรีเพราะท่านนี่แหละ ฉะนั้นไม่ต้องมาถามหรอก ผู้ใหญ่พูดถึง ผู้ใหญ่ว่า ก็ถือเป็นคำสั่งสอน ก็ต้องมาดูตัวเราเองว่าเป็นไปตามที่เขาพูดไหม อะไรที่ท่านได้เตือนมา เราต้องไปดูว่า ถ้าเราทำตามหรือดัดแปลงวิถีชีวิตของเรา และมันดีขึ้น เราก็ทำ ผมยังคิดวันดีๆ ในอดีต และคิดถึงบุญคุณที่ท่านเคยมีให้ เชื่อว่าหากไม่มีเรื่องการเมือง ท่านก็คงยังเอ็นดูผมอยู่เหมือนเดิม"
14 ปีที่แล้ว เป็นจุดเปลี่ยน “เนวิน” หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคพลังประชาชน จึงได้เกิดกลุ่มเพื่อนเนวิน แยกตัวออกจากนายใหญ่ทักษิณ
เนวินนำ ส.ส. 23 คน ในนามกลุ่มเพื่อนเนวิน รวมกับกลุ่มสมศักดิ์ เทพสุทิน 8 คน เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลอภิสิทธิ์ จึงทำให้เกิดวลียอดฮิต “มันจบแล้วครับนาย” ตามมา
ปี 2560 เนวินปรับภูมิใจไทย เป็นพรรคทางสายกลาง ดัน อนุทิน ชาญวีรกูล เป็นหัวหน้าพรรค ลดการเผชิญหน้ากับนายใหญ่ และเหมือนส่งสัญญาณไปถึงดูไบว่า พร้อมทำงานร่วมกัน
ผลเลือกตั้งปี 2562 พรรคภูมิใจไทย ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 12 ที่นั่ง และ ส.ส.เขต 39 ที่นั่ง (ไม่นับรวมงูเห่า) ซึ่งดีกว่าการเลือกตั้งปี 2554 (กติกาบัตร 2 ใบ) ภูมิใจไทย ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 5 คน และ ส.ส.เขต 34 ที่นั่ง
จะเห็นได้ว่าภูมิใจไทยได้ ส.ส.เขตเพิ่มขึ้นไม่มากนัก ตรงกันข้ามกับได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อเพิ่มขึ้นเท่าตัว อันเนื่องมาจากกติกาเลือกตั้งบัตรใบเดียว
ยุทธศาสตร์ของครูใหญ่เนวิน จึงมุ่งไปที่ภาคกลาง ภาคเหนือตอนล่าง และภาคใต้ เพื่อจะได้ ส.ส.เพิ่ม เพราะภาคอีสาน และภาคเหนือตอนบน ยากที่จะสู้กับทักษิณได้
อีกด้านหนึ่ง การเบรกนโยบายกัญชาของโทนี่ ก็แสดงชัดว่า ยังไม่มีสัญญาณปรองดองจากนายใหญ่ เรียกว่า 14 ปีสางแค้นนี้ ยังไม่สาย
