"ประยุทธ์ " ปรากฎตัวต่อสาธารณชนครั้งแรก เปิดงานดีเฟนส์ แอนด์ ซิคิวริตี้ 2022

วันที่ 29 ส.ค.ที่อาคารชาเลนเจอร์ 1 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เดินทางถึงศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ด้วยรถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ส่วนตัวหมายเลขทะเบียน ญค 1881 กรุงเทพมหานคร  เป็นประธานในพิธีเปิดงานนิทรรศการอุปกรณ์ป้องกันประเทศ (Defense & Security 2022) 

โดยพล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม   พล.อ.วรเกียรติ รัตนานนท์ ปลัดกระทรวงกลาโหมพล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ
(ผบ.ทร. )และตัวแทนเหล่าทัพให้การต้อนรับ  ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม โดยไม่ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนที่ถามว่าที่สอบถามว่าเป็นอย่างไรบ้างสบายดีหรือไม่

โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า ท่านเอกอัครราชทูต ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้ประกอบการ และผู้มีเกียรติทุกท่าน ตนรู้สึกเป็นเกียรติและมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นประธานในพิธีเปิดงานดีเฟนส์ แอนด์ ซิคิวริตี้ 2022 ครั้งที่ 10 ในวันนี้ผลสำเร็จจากการจัดงานในครั้งที่ผ่านๆ มาเป็นที่ยอมรับว่างานดีเฟนส์ แอนด์ ซิคิวริตี้เป็นงานที่มีความสำคัญในระดับภูมิภาคเอเชีย เป็นนิทรรศการทางทหารที่นำอาวุธยุทโธปกรณ์และเทคโนโลยีด้านความมั่นคงที่ทันสมัยจากนานาประเทศ มาจัดแสดงโดยครอบคลุมในมิติต่าง ๆ อย่างครบถ้วน

ตามที่ประธานกรรมการอำนวยการประสานงานการจัดงานนิทรรศการอุปกรณ์ป้องกันประเทศได้กล่าวถึงผลสำเร็จของการจัดงานในครั้งนี้ โดยมีท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ เจ้าหน้าที่
ระดับสูงและคณะผู้แทน จากหลายประเทศ ได้ให้เกียรติเดินทางมาร่วมงานในครั้งนี้รวมถึงผู้ผลิต ผู้ประกอบการ จากประเทศต่าง ๆ ได้นำอาวุธยุทโธปกรณ์ และ
ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับความมั่นคง ปลอดภัย และการบรรเทาสาธารณภัยมาร่วมจัดการแสดง ในงานนี้ ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์ต่อกองทัพไทยและนานาประเทศในภาพรวม
ตนในนามของกระทรวงกลาโหม ขอขอบคุณรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
มิตรประเทศ ท่านเอกอัครราชทูต ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และผู้มีเกียรติทุกท่าน
ที่ได้ให้เกียรติมาร่วมงานในวันนี้
และขอขอบคุณผู้ผลิตรวมทั้งผู้ประกอบการจากประเทศต่าง ๆ ที่ได้ให้ความสนใจเข้าร่วมแสดงผลิตภัณฑ์ในครั้งนี้ ด้วยความยินดี เป็นอย่างยิ่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ถือเป็นการปรากฏตัวครั้งแรกต่อสาธารณชน ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด แต่เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนเข้าทำข่าวได้ใกล้ชิด ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีสั่งให้หยุดปฎิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยเรื่องการดำรงตำแหน่ง 8 ปี.