พรรคร่วมดึง พรรคใหม่ดูด ลดไซส์ พปชร.“พรรคเล็ก”

พรรคร่วมดึง พรรคใหม่ดูด ลดไซส์ พปชร.“พรรคเล็ก”

พลังประชารัฐ” ที่มีแนวโน้มสูง ว่าจะหล่นจากการเป็นพรรคใหญ่ ไปเป็นพรรคขนาดกลาง ถึงขั้นเป็นพรรคเล็ก ก็ไม่แน่ เพราะนอกจากกระแสไม่ดี ส.ส.ต่างพากันนับวันถอยหลัง รอย้ายบ้านกันถ้วนหน้า

กำลังเผชิญความสั่นคลอนเขย่าอำนาจ ชนิดที่ยากจะกลับตัว สำหรับพี่น้อง “3 ป.” ที่กลายเป็นมวยรองพรรคเพื่อไทย เต็มประตู

หลังจากนิด้าโพล เผยผลสำรวจถึงบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้พบว่า “แพทองธาร ชินวัตร” หรือ “อุ๊งอิ๊ง” หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ฮอตมาอันดับ 1 ร้อยละ25.28 อันดับ 2 ร้อยละ 18.68 ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้

ส่วนอันดับ 3 “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้ร้อยละ 13.24 ส่วน “ประยุทธ์ จันทร์โอชา” มาที่ 4 ได้ร้อยละ 11.68

เรียกว่าเรตติ้งของ “ประยุทธ์” โดน “ลูกสาวทักษิณ ชินวัตร” ทิ้งห่างกว่าเท่าตัว 

สอดรับกับที่พี่ใหญ่ “ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเคยระบุไว้ทำนองว่า พลังประชารัฐ เป็นรองเพื่อไทยอยู่แล้ว

สิ่งที่ทำให้ “3 ป.” สยองเกล้า ไม่มากก็น้อย เนื่องจากนิด้าโพล เคยเผยผลสำรวจกว่า 10 ครั้งตอนเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ว่า “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” จะเป็นผู้ชนะมาตั้งแต่ต้นจนจบ สุดท้ายก็ผลออกมาแม่นยำไม่มีพลิกโผ

ความเคลื่อนไหวในพลังประชารัฐ ส.ส.หลายคนเริ่มหวั่นๆ ว่า อนาคตจะไปไม่รอด เพราะไม่เห็นวี่แววการขยับปรับทัพอะไร ที่เป็นความหวังว่า จะพาให้พรรคประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งครั้งต่อไป

ส.ส.ต่างตัดพ้อเป็นเสียงเดียวกัน ไม่รู้ว่าหัวหน้าและเลขาฯ พรรค จะเดินต่อหรือไม่ หรือกำลังจะพาพรรคไปสู่จุดไหน เพราะคนเป็นผู้แทนฯ ไม่เคยรับรู้ถึงกลยุทธ์ใดๆ มีแต่คนระดับบริหารที่รู้กันเองไม่กี่คน

จึงไม่แปลกที่ ส.ส.จากทุกภาค พยายามดิ้นรนหาบ้านใหม่ที่อุ่นใจกว่า แม้ “พลังประชารัฐ” วันนี้จะพยายามจูงใจให้กล้วย อ้อย น้ำตาล กับลูกพรรค น้ำหนักต่อคนตกเดือนละ 3 ขีด บวกอีก 1 ขีด สำหรับบางคนที่มีภารกิจเพิ่มเติม ก็ดูท่าจะรั้งไม่อยู่

ความไม่ชัดเจนของผู้ใหญ่ในพรรค ทำให้เสียโอกาสมากมาย เช่น บางจังหวัดก่อนหน้านี้ มีการทาบทามผู้สมัครบางรายมาอยู่ด้วย แต่เมื่อหัวไม่ขยับ ทุกอย่างนิ่ง แทนที่คนคนนั้นจะมาอยู่กับพรรค ก็ตัดสินใจไปอยู่พรรคอื่นในที่สุด

อย่างไรก็ตาม “ส.ส.พลังประชารัฐ”เวลานี้หลายคนเนื้อหอม โดนพรรคร่วมรัฐบาลอย่าง “พรรคภูมิใจไทย” ดึงไปอยู่ด้วยจำนวนมาก 

ไม่เว้นแม้แต่ “พรรคสร้างอนาคตไทย” ของ 2 กุมาร + 1 ที่เริ่มจะเห็นบทบาทการเป็นเจ้าบุญทุ่มรายใหม่ของวงการจัดการปิดดีล ส.ส.ใต้ สายแข็งของพลังประชารัฐบางรายไปเป็นที่เรียบร้อย

มีการพูดกันหนาหูว่า “ภูมิใจไทย” กำลังดีลกับอดีตรัฐมนตรี สาย กปปส.คนหนึ่งไปร่วมงานโดยมอบหมายให้รับผิดชอบพื้นที่ กทม. สอดรับกับท่าทีของอดีตรัฐมนตรีรายดังกล่าว ที่เริ่มขยับ หลังเก็บตัวเงียบไปนาน

จะเห็นว่า “ภูมิใจไทย” กำลังใช้กลยุทธ์ ขุนตัวเองให้ใหญ่ ดูดนักการเมืองจากทุกสารทิศมาอยู่ด้วย เพื่อสู้เลือกตั้งครั้งต่อไป

แถมมีกระแสข่าวหนาหูระบุด้วยว่า มีการเปิดการเจรจา ดึงหัวหน้าพรรคการเมืองพรรคหนึ่งในซีกฝ่ายค้านมาร่วมงานกับพรรคเพื่อสู้ศึกครั้งต่อไป

โดยหัวหน้าพรรคคนดังกล่าว เป็นส.ส.จังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือ ที่ตอนนี้กำลังแข็งข้อ จนงานหลายอย่างของพรรคนั้นสะดุดติดขัด เสียกระบวนกันยกใหญ่ ซึ่งนักการเมืองรายนั้นไม่ใช่หัวหน้าพรรคเพื่อไทยแต่อย่างใด

การกำหนดบทบาทของ “ภูมิใจไทย” ในสังเวียนรอบหน้า หมายมั่นปั้นมือจะอัพเกรดจากพรรคขนาดกลาง ขึ้นไปเป็นพรรคขนาดใหญ่

สวนทางกับ “พลังประชารัฐ” ที่มีแนวโน้มสูง ว่าจะหล่นจากการเป็นพรรคใหญ่ ไปเป็นพรรคขนาดกลาง ถึงขั้นเป็นพรรคเล็ก ก็ไม่แน่ เพราะนอกจากกระแสไม่ดี ส.ส.ต่างพากันนับวันถอยหลัง รอย้ายบ้านกันถ้วนหน้า