“เสื้อแดง”คัมแบ็ค“เพื่อไทย” ฟื้นกระแสอีสาน สู้“กระสุน”

“เสื้อแดง”คัมแบ็ค“เพื่อไทย”   ฟื้นกระแสอีสาน สู้“กระสุน”

“นายใหญ่-นายหญิง” ตัดสินใจดึงตัว “ณัฐวุฒิ” มาช่วยกระตุ้นกระแส “คนเสื้อแดง” ในพื้นที่ภาคอีสาน เพื่อสู้กับ “กระสุน” ของคู่แข่งทางการเมือง

การเดินกลับเข้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ของ “เดอะเต้น” ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดง โดยนั่งเก้าอี้ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย เป็นรองแค่ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย

“ณัฐวุฒิ” มาพร้อมกับความคาดหวังชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ ทำให้ “โทนี่” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี “นายหญิง” คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ต้องเปิดดีลกับ “ณัฐวุฒิ-คนเสื้อแดง” ให้กลับมาช่วยหาเสียง-เก็บแต้มการเมือง

“ณัฐวุฒิ” เคยมีหมุดหมายในการตั้งพรรคเส้นทางใหม่ ร่วมกับ “เดอะอ๋อย” จาตุรนต์ ฉายแสง แต่ต้องพับแผน เนื่องจากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้กลับมาใช้บัตรเลือกตั้งสองใบ หากตั้งพรรคใหม่ที่ต้องใช้ “ทุน” สูง อาจไม่คุ้มค่า

ทั้ง “จาตุรนต์-ณัฐวุฒิ”จึงคัมแบ็คมาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีกระแสข่าวว่า “นายใหญ่-นายหญิง” จำต้องจ่ายค่างวดให้กับพรรคเส้นทางใหม่ ที่ต้องแท้งก่อนวัยอันควร

ว่ากันว่า การกลับมาของ “ณัฐวุฒิ” เป็นบัญชาจาก “นายหญิง” ทำให้ “อุ๊งอิ๊ง” ยอมถอย คล้อยตาม ทั้งที่ตั้งใจอยากรีเซ็ตพรรคเพื่อไทย ให้เป็นพรรคการเมืองของคนรุ่นใหม่ ไม่ติดกับดักกับเรื่องเดิมๆ ในอดีต

ขนาด “ทักษิณ” ที่รีแบรนด์ตัวเองมาใช้ชื่อ “โทนี่” เพราะหวังให้ “คนรุ่นใหม่” เสิร์ชชื่อ “โทนี่” ในโซเชียลมีเดีย แล้วพบแต่มุมดีๆ หนีชื่อ “ทักษิณ” ที่เสิร์ชแล้ว มีแต่ภาพลบ รีแบรนด์จนมาอยู่ในแดนบวก แต่เมื่อมีชื่อ “ณัฐวุฒิ” เข้ามาพ่วงในครอบครัวเพื่อไทย มุมบวกอาจจะมี แต่มุมลบมีมากกว่า

มีการประเมินกันในเพื่อไทยว่า ภาพของ “ณัฐวุฒิ” อาจจะส่งผลให้คะแนนในพื้นที่ กทม.ลดลงบ้าง เพราะคนกทม.ยังมีภาพจำด้านลบกับ “กลุ่มคนเสื้อแดง” แต่กระแสที่พ่วงมาจาก “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ผู้ว่าฯกทม. จะช่วยดึงให้แต้มของพรรคไม่ให้ลดลงมากนัก

ที่สำคัญหมุดหมายของ “นายใหญ่-นายหญิง” คืนการยึด-ตรึงพื้นที่ภาคอีสานเอาไว้ให้ได้ จึงมองว่ายี่ห้อ “ณัฐวุฒิ” ที่ยังพอขายได้ในพื้นที่ภาคอีสาน จะช่วยดึงคะแนนมาได้

ยิ่ง “บิ๊กเน” เนวิน ชิดชอบ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล สองผู้ยิ่งใหญ่จากพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เดินเกม เติมกระสุน ดูด ส.ส.เพื่อไทย-อดีตผู้สมัครเพื่อไทย ต้อนเข้ามาอยู่พรรคภูมิใจไทยอย่างคึกคัก และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดช็อป ส.ส. ทั้ง “นายใหญ่-นายหญิง” จึงต้องงัดทุกกลยุทธ์มาสู้

ทว่า การมาของ “ณัฐวุฒิ”ย่อมพ่วงมาด้วยการต่อรองทางการเมืองกับ “นายใหญ่-นายหญิง” ทั้งเก้าอี้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ส.ส.เขต และตำแหน่งรัฐมนตรี ที่ต้องมีโควตาของ “กลุ่มคนเสื้อแดง”

หากย้อนไปในช่วงการเลือกตั้งปี 2554 “แกนนำคนเสื้อแดง” เดินเข้าสายหลายคน ทั้ง ณัฐวุฒิ ตู่ จตุพร พรหมพันธุ์ หมอเหวง โตจิราการ  รพิพรรณ พงศ์เรืองรอง ตัวแทน อริสมันต์ วิภูแถลง พัฒนาภูมิไท พายัพ ปั้นเกตุ และก่อแก้ว พิกุลทอง 

แกนนำคนเสื้อแดงยังมีโควตารัฐมนตรี 1 เก้าอี้ โดยส่ง “ณัฐวุฒิ” เข้าไปนั่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์ ต่อด้วย รมช.พาณิชย์ ซึ่งเป็นผลตอบแทนจากการช่วยพรรคเพื่อไทย โกยแต้มช่วงเลือกตั้งปี 2554

เช่นเดียวกับการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง “นายใหญ่-นายหญิง” ตัดสินใจดึงตัว “ณัฐวุฒิ” มาช่วยกระตุ้นกระแส “คนเสื้อแดง” ในพื้นที่ภาคอีสาน เพื่อสู้กับ “กระสุน” ของคู่แข่งทางการเมือง

ต้องยอมรับว่าภาคอีสานในช่วง 8 ปี ที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เรืองอำนาจ มีการรื้อกลไกการจัดตั้งในระดับพื้นที่ไปมาก ด้วยการเข้าไปทำลายรากฐานของ “คนเสื้อแดง” ให้อ่อนแอลง ส่งผลให้ คนเสื้อแดงระดับพื้นที่ ซึ่งเป็นฐานเสียงสำคัญกระเจิงไปคนละทิศคนละทาง

ที่สำคัญ “คนเสื้อแดง” แทบที่จะไร้ “หัวขบวน” ในการทำพื้นที่ เมื่อ “ณัฐวุฒิ” ตัดสินใจเข้ามารับงานในฐานะผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ภารกิจหลัก คือการฟื้นกระแสคนเสื้อแดงในภาคอีสานให้กลับมาศรัทธาพรรคเพื่อไทย

จับตาวันที่ 17-18 มิ.ย.นี้ “ณัฐวุฒิ” จะประเดิมลงพื้นที่ศรีสะเกษ ภายใต้แคมเปญ “ไล่หนู ตีงูเห่า” จะเป็นอีเวนท์เปิดตัว สร้างกระแสให้ “ณัฐวุฒิ-คนเสื้อแดง” ได้มากน้อยเพียงใด