"นายกฯ" ลงพื้นที่ถี่ไม่เกี่ยวการเมือง ปัด 3 ป.เช็คเรตติ้งก่อนเลือกตั้งใหญ่

"นายกฯ" ลงพื้นที่ถี่ไม่เกี่ยวการเมือง ปัด 3 ป.เช็คเรตติ้งก่อนเลือกตั้งใหญ่

โฆษกรัฐบาล ยันนายกฯ ลงพื้นที่ถี่ไม่เกี่ยวการเมือง เป็นการติดตามงานปกติ ปัด 3 ป.พบประชาชน เช็คเรตติ้งก่อนเลือกตั้งใหญ่ เชื่อศึกซักฟอกไม่ทำงานรัฐบาลสะดุด

เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ที่ จ.สกลนคร วันที่ 15 มิ.ย. 2565 ว่า การลงพื้นที่ของนายกฯ ไม่ได้เป็นสัญญาณทางการเมืองอะไร เพราะตามปกติหากนายกฯ มีเวลา ก็จะลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการต่างๆ ของรัฐบาลที่เคยสั่งการไปแล้ว ในครั้งนี้ที่จ.สกลนคร เป็นการติดตามโครงการพระราชดำริ ที่เกี่ยวกับภาคการเกษตร ฉะนั้นการลงพื้นที่ของนายกฯ จึงไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองเลย แต่เป็นการติดตามผลสัมฤทธิ์ของโครงการของรัฐบาล ซึ่งสำเร็จไปแล้วหลายโครงการ

เมื่อถามถึงกรณีการลงพื้นที่ร่วมกับ พล.อ.อนุพงษ์ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี อย่างพร้อมหน้า ถือเป็นการเช็คกระแสความนิยมของตัวเองก่อนการเลือกตั้งใหญ่หรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า คงไม่ได้เกี่ยวข้องกัน แต่อยู่ที่เวลาของทั้ง 3 คน ว่างพร้อมกันหรือไม่ หากว่างพร้อมกันก็ไปด้วยกัน เพราะมีหลายโครงการที่ต้องบูรณาการร่วมกันหลายกระทรวง ทั้งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงยุติธรรม เป็นต้น นอกจากนี้ นายกฯ ยังชอบลงพื้นที่อยู่แล้ว เพราะต้องการพบปะกับพี่น้องประชาชน เพื่อดูทุกข์สุขของประชาชน ทั้งยังเป็นช่องทางหนึ่งที่พี่น้องประชาชนจะได้สะท้อนปัญหาให้นายกฯ โดยตรง

เมื่อถามว่า ผลตอบรับของประชาชนที่มีต่อนายกฯ ระหว่างลงพื้นที่เป็นอย่างไรบ้าง นายธนกร กล่าวว่า ตนคิดว่าวันนี้พี่น้องประชาชนให้การต้อนรับนายกฯ เป็นอย่างดี เพราะนายกฯย้ำเสมอว่าจะต้องช่วยเหลือพี่น้องประชาชนทุกจังหวัดทุกกลุ่ม โดยไม่เลือกว่าจังหวัดใดจะเลือกพรรคการเมืองใด หรือจะช่วยประชาชนที่เคยเลือกพรรคเท่านั้น เหมือนที่อดีตนายกฯคนหนึ่งพูด นายกฯไม่ทำแบบนั้นเด็ดขาด นายกฯมองประชาชนทุกคนคือคนไทยด้วยกัน จึงจะไปทุกพื้นที่ ตนเชื่อว่าช่วงเวลาที่ผ่านมา ประชาชนได้เห็นความมุ่งมั่นและความตั้งใจของนายกฯในการแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจและวิกฤตโควิด-19 ซึ่งทำให้สถานการณ์ดีขึ้นแล้ว

เมื่อถามว่า การลงพื้นที่และการทำงานในช่วงนี้ของ พล.อ.ประยุทธ์ หมายความว่ามีความชัดเจนที่จะชิงตำแหน่งเพื่อเป็นนายกฯต่อไปใช่หรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า ตนตอบแทน พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้ แต่ส่วนตัวตนมองว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีคุณสมบัติที่สามารถเป็นผู้นำได้ต่อไป เพราะมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และมีประสบการณ์ความสามารถในการบริหารงาน หากมองด้วยใจที่เป็นธรรม ตนคิดว่า พล.อ.ประยุทธ์ ยังทำงานได้ดี เราต้องยอมรับว่าปัจจุบันเป็นภาวะที่ไม่ปกติ เพราะมีผลกระทบจากโควิด-19 สงครามรัสเซีย-ยูเครน และวิกฤตเศรษฐกิจ ที่ประดังเข้ามาเยอะมาก สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ ดำเนินการอยู่ในช่วงที่ผ่านมา ตนคิดว่าทำได้ดี

เมื่อถามว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคร่วมฝ่ายค้านจะไม่เป็นอุปสรรคต่อการทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์ จนต้องสะดุดลงใช่หรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า ตนคิดว่าไม่มีปัญหา เพราะการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ที่ผ่านมา เห็นแล้วว่ารัฐบาลมีเสถียรภาพและมีความมั่นคง ดังนั้นนายกฯ จึงมีความพร้อมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้อยู่แล้ว และคิดว่าจะกลายเป็นเวทีหนึ่งที่ทำให้นายกฯ และรัฐมนตรีแต่ละคนได้ชี้แจงในสิ่งที่ฝ่ายค้านอภิปรายได้ รวมทั้งยังสามารถใช้เป็นเวทีนำเสนอผลงานของรัฐบาลได้ด้วย