2 ส.ส.พลังประชารัฐ ขอซบ “เพื่อไทย” หนีตาย “นายป้อม” ซุกปีก “ทักษิณ”

2 ส.ส.พลังประชารัฐ ขอซบ “เพื่อไทย” หนีตาย “นายป้อม” ซุกปีก “ทักษิณ”

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในพลังประชารัฐตอนนี้ ดูจะสวนทางกับเพื่อไทยอย่างสิ้นเชิง ที่กำลังเนื้อหอม โหมแคมเปญแลนด์สไลด์ถึงขนาดลูกพรรค“บิ๊กป้อม”ยังอดเคลิ้มไม่ได้ นึกอยากจะย้ายค่ายเปลี่ยนโปร อยากมีนายใหม่ ชื่อ“ทักษิณ ชินวัตร”

กลายเป็นสัญญาณแตกหัก ทางใครทางมัน ในการเลือกตั้งครั้งหน้า สำหรับพรรคเพื่อไทย ที่กำลังลับดาบเตรียมเชือด 7 ส.ส.งูเห่า ที่โหวตสวนมติพรรคในขั้นรับหลักการร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566

การแสดงออกด้วยการสวนมติพรรคเพื่อไทย ก็ปรากฎข้อมูลทางหนึ่ง ที่ถูกพูดถึงค่อนข้างมากคือพรรคใหม่บางพรรคที่ ส.ส.งูเห่าส่วนใหญ่ในกลุ่มนี้ เตรียมยกรัง ย้ายไปอยู่ด้วยนั้น ต้องการให้พิสูจน์ตัวเองว่า มาแน่ ไม่สับขาหลอกในนาทีสุดท้าย

เพราะการแหกมติพรรค ย่อมไม่มีทางเลือกอื่นให้เพื่อไทย นอกจากกาหัวไล่ออก ไม่ส่งลงส.ส.ในนามพรรคอีกต่อไปอย่างแน่นอน แต่ภาวะเลือดไหลของเพื่อไทย ไม่ใช่เรื่องน่าเป็นห่วงด้วยกระแสของพรรคในหลายพื้นที่ ทำให้มีตัวเลือกหรือคนที่อยากลงเลือกตั้งในสีเสื้อพรรคนายใหญ่อยู่ในบัญชี ยาวเป็นหางว่าว

เรียกว่าไม่สะเทือนเป้าหมายแลนด์สไลด์แต่อย่างใด ต่างจาก “พรรคพลังประชารัฐ” ที่สถานการณ์ภายในพรรค กำลังเข้าโหมดใกล้แพแตกเต็มที

ส.ส.ของพลังประชารัฐในหลายจังหวัดหมดใจ มองไม่เห็นอนาคตในทางการเมือง หากยังอยู่ที่เดิม เลยตัดสินใจเตรียมเก็บเสื้อผ้า พร้อมย้ายไปบ้านหลังใหม่

ไม่เว้นแม้แต่ “ส.ส.กทม.” ของพลังประชารัฐ ที่ตอนนี้มีอย่างน้อย 2 คน ที่แสดงเจตจำนง ด้วยการเสนอตัวติดต่ออยากไปร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย ที่กระแสในกรุงเทพฯ ดูดีกว่าหลายพรรคในซีกรัฐบาล

โดยคนแรกเป็น ส.ส.หญิง จากเขตใจกลางเมืองหลวง ที่มีความสลับซับซ้อนของพื้นที่ และมีความความแตกต่างหลากหลายในมิติทางเศรษฐกิจค่อนข้างมาก มีย่านเสื่อมโทรม และโซนหรูหราในเขตเดียวกัน ส่วนอีกคน เป็น ส.ส.ชาย สายแข็ง มีฐานที่มั่นแถบชายขอบของกรุงเทพฯ

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ 2 ส.ส.พลังป้อม คิดมาเพื่อไทย อาจจะเห็นกรณี เจ๊หนุ่ย กนกนุช กลิ่นสังข์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.ดอนเมือง พลังประชารัฐ ที่เพิ่งย้ายมาเพื่อไทย ก่อนคว้าชัยสนามส.ก.ดอนเมือง ด้วยการเอาชนะ พนา วุฒิเดช อดีตส.ก.ดอนเมือง ที่เป็นตัวเต็งคนสำคัญ และถือเป็นคู่บุญของ เก่ง การุณ โหสกุล

ตรงนี้ จึงเป็นตัวบ่งชี้ว่า พลังประชารัฐ ภายใต้การนำของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ดูท่าจะไปต่อลำบาก กราฟความนิยมกำลังทิ้งดิ่งอย่างต่อเนื่อง คนเป็น ส.ส.จึงพยายามหนีตาย เพื่อให้ตัวเองได้ไปต่อในสมัยหน้า

แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ความพยายามรั้งของผู้ใหญ่ในพลังประชารัฐ ผ่านวิธีการประเคนเก้าอี้กมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 66 ให้ ส.ส.บางคน ทั้งที่ไม่ได้ร้องขอ เพื่อซื้อใจให้อยู่ต่อ

ต่างจากปีงบประมาณก่อนหน้านี้ ที่ “ขาใหญ่”บางคนในพรรค จัดแจงล็อกโควตา วางตัวคนของตัวเองเป็นหลักให้เข้าไปทำหน้าที่ โดยกีดกันกลุ่มก๊วนอื่น จนสร้างความกังขามากมาย

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในพลังประชารัฐตอนนี้ ดูจะสวนทางกับเพื่อไทยอย่างสิ้นเชิง ที่กำลังเนื้อหอม โหมแคมเปญแลนด์สไลด์ถึงขนาดลูกพรรค “บิ๊กป้อม” ยังอดเคลิ้มไม่ได้ นึกอยากจะย้ายค่ายเปลี่ยนโปร อยากมีนายใหม่ ชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร