“พปชร.-เศรษฐกิจไทย”แตกหัก บิ๊กดีลสะเทือน“ประยุทธ์”

“พปชร.-เศรษฐกิจไทย”แตกหัก บิ๊กดีลสะเทือน“ประยุทธ์”

ไม่แปลก ถ้า “พล.อ.ประยุทธ์”จะผวา ออกอาการชัดเจนไม่มั่นใจว่า สถานะตัวเองจะยังมั่นคง หรือพร้อมเข้าโหมดตกเก้าอี้ “นายกฯ” ได้ทุกเมื่อ ในช่วงปีสุดท้ายของวาระรัฐบาลหรือไม่

สถานการณ์ในพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) ที่กำลังขับเคลื่อนทางการเมือง รองรับการเลือกตั้งครั้งต่อไป ยังไม่ทันไร ก็มีแรงกระเพื่อมครั้งสำคัญ เกิดขึ้นจนได้

เมื่อมีกระแส และสัญญาณมาก่อนว่า “บิ๊กน้อย” พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย ถอดใจลาออกจากตำแหน่ง กระทั่งกลายเป็นเรื่องจริง ด้วยเหตุผลความไม่ลงรอย และทิศทางการทำงานร่วมกับแกนนำคนสำคัญของพรรคอย่าง "ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า" เลขาธิการพรรค ที่ไปกันคนละทาง

“บิ๊กน้อย” ยอมรับว่า มีความไม่เข้าใจ ไปคนละทิศทางกับ “ร.อ.ธรรมนัส” ต่างคนต่างทำ เลยคิดว่าไปด้วยกันลำบาก

ขณะที่ข้อมูลด้านสายผู้กอง ก็อ้างว่า สาเหตุที่มีปัญหาภายในพรรค เนื่องจากส.ส.กลุ่มผู้กอง ไม่พอใจพฤติการณ์ พล.อ.วิชญ์ ที่ชอบใช้อำนาจแบบทหาร และให้บุคคลภายนอกเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องในพรรค และยังมีเรื่องเงินบริจาคเข้าพรรค 

ว่ากันว่า ยังมีอีกประเด็นที่เป็นเรื่องสำคัญ ที่กรรมการบริหารพรรคจะเสนอแคนดิเตตนายกฯ ในบัญชีพรรค ที่ไม่ใช่หัวหน้าพรรค จึงทำให้ “บิ๊กน้อย” คาใจ ปัญหาความขัดแย้งที่มีมาเป็นระยะได้ยินไปถึง พล.อ.ประวิตร จึงได้ไฟเขียว “บิ๊กน้อย” ว่า  “ถ้าอยู่ไม่ได้ ก็ออกมา...”

ทว่า ประเด็นเบื้องหลังสำคัญ ที่สร้างความระหองระแหงให้กับคนทั้งคู่คือ ต่างฝ่ายต่างมีท่าทีที่แตกต่างกันในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี

โดยก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวที่ถูกพูดถึงกันอย่างกว้างขวางว่า “พล.อ.ประยุทธ์” ได้หารือกับ“พล.อ.ประวิตร" ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐแล้ว เพื่อให้ไปเคลียร์กับ “ร.อ.ธรรมนัส” เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า 16 เสียง ส.ส.ของพรรคเศรษฐกิจไทย และบรรดาพรรคเล็กจะยกมือโหวตให้รัฐบาลในศึกครั้งสำคัญ ทั้งการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 66 และ การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล

ลำพัง “บิ๊กน้อย” ที่เป็นหนึ่งในน้องรักของ “บิ๊กป้อม” ยอมโอนอ่อนผ่อนตาม พี่ใหญ่ ไม่ตั้งธงเป็นปฏิปักษ์กับ “บิ๊กตู่”

แต่ทาง “ร.อ.ธรรมนัส” ที่จุดยืนชัดเจน ว่ายอมหักไม่ยอมงอ ถึงอย่างไรก็ไม่ยอมลงให้กับ“พล.อ.ประยุทธ์” เป็นอันขาด 

สืบเนื่องมาจากความขัดแย้งครั้งเก่า ตั้งแต่เหตุการณ์กบฎ คิดโหวตล้มนายกฯ ในสภา จนถูกนายกฯจัดการเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ปลด ร.อ.ธรรมนัส พ้น รมช.เกษตรและสหกรณ์ จนกลายเป็นปมแค้นระหว่างกัน จนไม่มีวันคืนดีกันได้

ดังนั้น การที่“พล.อ.ประวิตร”ไม่สามารถควบคุม “ร.อ.ธรรมนัส”ให้อยู่ในโอวาท หรือเดินตามแนวทางสนับสนุนรัฐบาล ย่อมสร้างความหวั่นวิตกให้กับพล.อ.ประยุทธ์ อย่างเลี่ยงไม่ได้โดยเฉพาะแนวทางการเมือง 

ล่าสุด ที่สมคบคิดกับแกนนำพรรคเพื่อไทย ฝ่ายค้าน และ ร.อ.ธรรมนัส ยังถูกตั้งข้อสงสัยถึงการ“ดีล” กับคนแดนไกล เพื่อกลับไปร่วมงานกัน โดยมี 2 แนวทาง คือ ทำพรรคเศรษฐกิจไทยต่อและเป็นแนวร่วมเพื่อไทย เพื่อเข้าร่วมรัฐบาลหน้า หรือยุบพรรคเศรษฐกิจไทย แล้วยก ส.ส.ไปรวมกับเพื่อไทย โดย ร.อ.ธรรมนัสมีตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย

ปฏิบัติการล่าสุด ที่ผู้กองมนัส ถูกจับตาว่า กำลังร่วมมือกับฝ่ายค้าน เปิดเกมคว่ำนายกฯ ภาค 2 คาสภาฯ ในศึกซักฟอกรอบนี้ 

เรื่องนี้ บิ๊กน้อยก็มั่นใจ เพราะเห็นพฤติกรรม ร.อ.ธรรมนัส ที่ไม่ได้ทำงานบริหารพรรคอย่างจริงจัง ถึงขนาดพูดถึงพฤติกรรมเบื้องหลังอย่างตรงไปตรงมา ทั้งการไม่ให้เกียรติ เอาแต่พวกพ้อง และการเดินเกมเพื่อหวังผลบางอย่าง 

"ไม่ให้เกียรติกันผมว่าตรงนี้มันอยู่ด้วยกันไม่ได้ โดยเฉพาะเมื่อเราเป็นทหารมาก่อน เรื่องนี้เป็นเรื่องหลักที่ทุกคนจะต้องมอง ถึงแม้เขาจะเป็นใครก็แล้วแต่ เราก็ต้องให้เกียรติเขา ตรงนี้เป็นจุดหนึ่งที่ผมคิด มันสำคัญกับตัวเรา ก็คิดว่าการทำงานต่างๆคงทำด้วยกันไม่ได้ 

บิ๊กน้อย ระบุอีกว่า เลขาฯ เอาความรู้สึกของตัวเองเป็นหลัก มันก็คงลำบาก การพิจารณาจะทำอะไร โดยทำให้รัฐบาลปั่นป่วนได้ มันไม่ควร เราไม่ได้ตั้งพรรคเพื่อมาเป็นฝ่ายค้าน เรายังอยู่ในส่วนของรัฐบาล เพราะฉะนั้นการทำอะไรก็ต้อง ฟังเสียงพรรคร่วมรัฐบาลด้วยการที่เลขาฯ จะไปรวมกลุ่มหรือทำอะไร ในสิ่งนี้ มันก็ต้องฟังพรรคหน่อยว่ามีมติอย่างไร ก็ควรทำตาม ไม่เช่นนั้นจะมีพรรคการเมืองไว้ทำไม

"การกระทำต่างๆ มันส่อลักษณะ เหมือนเขาต้องการที่จะตั้งคนของเขาเอง ทำของเขาเอง การเข้ามาของเขา เพื่อประโยชน์บางสิ่งบางอย่างต่อไป ไม่ใช่ปักหลักที่นี่แน่นอน จะไปที่ไหนก็แล้วแต่ที่เขาต้องการ มันไม่ใช่แนวทางเดียวกันที่เราคิดกันตั้งแต่เริ่มต้น มีปัญหารุมล้อมเยอะ และยังมีบุคคลที่สาม ที่คอยเสี้ยม เลยเกิดปัญหานี้ขึ้นมา" พล.อ.วิชญ์ พูดถึง ร.อ.ธรรมนัส 

ขณะที่เกมรักษาอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ ในรอบนี้ ยิ่งขยายความขัดแย้งให้ลงลึก ซึ่งกำลังปะทุอยู่ที่พรรคเศรษฐกิจไทย 

เมื่อเอาเข้าจริง “บิ๊กน้อย” ก็ไม่ได้ตั้งใจจะลาออกจากหัวหน้าพรรคแต่ต้น จนเกิดปรากฎการณ์15 กรรมการบริหารพรรคเศรษฐกิจไทย ยกทีมลาออกเกินครึ่งเพื่อให้มีผลต่อหัวหน้าพรรคต้องพ้นจากตำแหน่งทันที และเปิดทางคัดเลือกกรรมการบริหารชุดใหม่ ที่ ร.อ.ธรรมนัส จะขึ้นมานำพรรคด้วยตัวเอง

สถานการณ์นี้ ย่อมไม่เป็นผลดีกับ “พล.อ.ประยุทธ์” ที่กำลังเผชิญศึกในสภา ที่ต้องแย่งชิงเสียงส.ส.สนับสนุน      

การที่ “ร.อ.ธรรมนัส” สามารถคอนโทรลเสียงคนในพลังประชารัฐบางส่วน และเสียงพรรคเล็กจำนวนไม่น้อยแบบนี้ 

จึงไม่แปลก ถ้า “พล.อ.ประยุทธ์” จะผวา ออกอาการชัดเจนไม่มั่นใจว่าสถานะตัวเองจะยังมั่นคง หรือพร้อมเข้าโหมดตกเก้าอี้ “นายกฯ” ได้ทุกเมื่อ ในช่วงปีสุดท้ายของวาระรัฐบาลหรือไม่