เลือกแล้วรวย "พท." ปลุก เลือก "ส.ก." ฟื้นประชาธิปไตย กระจายความมั่งคั่ง

เลือกแล้วรวย "พท." ปลุก เลือก "ส.ก." ฟื้นประชาธิปไตย กระจายความมั่งคั่ง

"แกนนำพท." นำทัพ ปราศรัยหาเสียง "ส.ก." ชู นโยบาย ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ กระจายความมั่งคั่ง ให้คนกรุง ปลุก เลือกให้ชนะทุกเขต ประกาศศักดิ์ศรี พลังประชาธิปไตย

พรรคเพื่อไทย นำโดย นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาค กทม. และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ที่ปรึกษาคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ส.ก. นางสาวณหทัย ทิวไผ่งาม กรรมการบริหารพรรคและกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ส.ก. นางสาวขัตติยา สวัสดิผล อดีต ส.ส. บัญชีรายชื่อ และนายอนุรักษ์ เลิศวัฒนาไพบูลย์ ผู้สมัคร ส.ก.เขตวังทองหลาง หมายเลข 9 ร่วมกันลงพื้นที่คอนโดสตูดิโอวัน ลาดพร้าว102 พร้อมทั้งนางสาวนภัสสร พละระวีพงศ์ ผู้สมัคร ส.ก. เขตบางกะปิ หมายเลข 4 ที่ได้ร่วมกันลงพื้นที่แฟลตคลองจั่น เขตบางกะปิ เพื่อเปิดรับฟังและแลกเปลี่ยนความเห็นกับประชาชนผู้อยู่อาศัยในชุมชนและแลกเปลี่ยนแนวทางแก้ไขปัญหาค่าครองชีพพุ่งสูงแต่รายได้และค่าแรงยังคงตกต่ำ ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้นำเสนอแนวนโยบาย ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ กระจายความมั่งคั่งให้แก่คนกรุงเทพฯ อย่างถ้วนหน้า เพื่อคืนความมั่นคั่งให้คนกรุงเทพฯ

เลือกแล้วรวย "พท." ปลุก เลือก "ส.ก." ฟื้นประชาธิปไตย กระจายความมั่งคั่ง

นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ที่ปรึกษาคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ส.ก. กล่าวว่าพรรคเพื่อไทยนำเสนอแนวนโยบาย ‘ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ กระจายความมั่งคั่งให้แก่คนกรุงเทพฯ อย่างถ้วนหน้า’ เพื่อคืนความมั่นคั่งให้คนกรุงเทพฯ โดยเฉพาะการดูแลประสานงบประมาณของ กทม.ในส่วนที่ใช้ดูแลสุขภาพพี่น้องประชาชน 15,000 ล้านบาท เพื่อมาให้ กทม. ดูแลเอง แล้วจัดระบบให้ดีเพื่อดูแลสุขภาพพี่น้องประชาชนอย่างถ้วนหน้าและทั่วถึง ให้มีโรงพยาบาลอยู่ใกล้กับพี่น้องประชาชนทุกพื้นที่ ตามนโยบาย ‘50 เขต 50 โรงพยาบาล ในส่วนของเรื่องการทำมาหากิน การหารายได้ของพี่น้องประชาชน พรรคเพื่อไทยมีนโยบายในการเพิ่มราย อาทิ 437 สถานศึกษาพัฒนาสร้างรายได้ และ 50 เขต 50 ซอฟต์เพาเวอร์ ที่เราเชื่อว่าทุกชุมชนมีศักยภาพที่สามารถนำไปยกระดับเพื่อสร้างรายได้ให้พี่น้องประชาชน

เลือกแล้วรวย "พท." ปลุก เลือก "ส.ก." ฟื้นประชาธิปไตย กระจายความมั่งคั่ง

นายแพทย์พรหมมินทร์ กล่าวว่า ในส่วนของการลดรายจ่ายให้พี่น้องประชาชน เรามีนโยบาย‘30 บาทถึงที่หมาย’ ที่ผ่านมาศึกษามาเพื่อบรรเทาทุกข์พี่น้องประชาชน ที่จะต้องจ่ายค่าเดินทางในแต่ละวัน เพื่อลดค่าครองชีพ และที่สำคัญคือเรามีนโยบาย ทั้งกองทุนพัฒนาชุมชน200,000 บาทต่อปี ที่มาจากประสบการณ์การทำนโยบายกองทุน SML ยุครัฐบาลพรรคไทยรักไทยและพรรคพลังประชาชน ซึ่งถ้าเรามี ส.ก.จำนวนมากเพียงพอในสภา กทม. เราก็จะสามารถประสานให้ผู้ว่าฯ กทม. รับฟังความต้องการและดำเนินนโยบายที่พี่น้องประชาชนต้องการได้   

“พลังของชาวกรุงเทพฯ คือพลังประชาธิปไตยของการเปลี่ยนแปลงที่อำนาจเผด็จการเกรงกลัวจึงปล่อยให้มีการเลือกตั้งเป็นเขตสุดท้าย วันนี้ เราต้องเลือกเพื่อไทยให้ชนะขาด ทุกเขตต้องชนะให้ได้ เพื่อให้คนกรุงเทพฯ ได้ประกาศศักดิ์ศรี หลังจากที่เขายึดอำนาจแล้วไม่ให้คนกรุงเทพฯ เลือกตั้งมา 12 ปีเต็ม เลือก ส.ก.พรรคเพื่อไทย เพื่อโอกาสที่จะกลับมากินดีอยู่ดีกันอีกครั้ง” นายแพทย์พรหมินทร์ กล่าว   

นายอนุรักษ์ เลิศวัฒนาไพบูลย์ ผู้สมัคร ส.ก.เขตวังทองหลาง หมายเลข 9 กล่าวว่า การลงพื้นที่ในช่วงการระบาดของโควิด-19 เพื่อประสานงานและช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ส่งผลให้ต้องติดเชื้อโควิดและต้องโชคร้ายที่บิดาต้องเสียชีวิตเพราะโควิด แต่ก็ไม่เคยทำให้ย่อท้อต่อการลงพื้นที่ดูแลพี่น้องประชาชน เพราะสิ่งที่ได้กลับมาคือพี่น้องชาววังทองหลางให้การต้อนรับในทุกพื้นที่อย่างอบอุ่น จึงอยากขอให้พี่น้องประชาชนให้โอกาสตนให้ได้สร้างวังทองหลางที่ดีกว่านี้ได้ 

นางสาวนภัสสร พละระวีพงศ์ ผู้สมัคร ส.ก. เขตบางกะปิ หมายเลข 4 กล่าวว่า กรุงเทพฯ ควรพัฒนาไปได้ไกลกว่านี้แล้วในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะช่วงสถานการณ์โควิด ดิฉันลงพื้นที่ประสานงานช่วยเหลือผู้ติดเชื้อในเขตบางกะปิ เห็นความทุกข์ยากของพี่น้อง พรรคเพื่อไทยจึงคิดนโยบายที่จะผลักดันเพื่อแก้ปัญหาและพัฒนากรุงเทพฯ อีกครั้ง จึงขอโอกาสจากพี่น้องประชาชนสนับสนุนให้ไปทำงานเพื่อผลักดันนโยบายที่จะคืนชีวิต โอกาสและคืนความมั่งคั่งให้คนกรุงเทพฯ