แลนด์สไลด์รั้ง“ส.ส.”ไม่อยู่ 2 ขั้ว“รุกฐาน-ดูด”อีสาน พท.

แลนด์สไลด์รั้ง“ส.ส.”ไม่อยู่ 2 ขั้ว“รุกฐาน-ดูด”อีสาน พท.

หลายพรรค-หลายขั้ว รุกพื้นที่ภาคอีสาน “ทักษิณ-เพื่อไทย” อาจจะต้องดูโมเดล “ภาคใต้” เป็นแบบอย่าง หมดยุคพรรคประชาธิปัตย์ ส่งเสาไฟฟ้าลงสมัครยังชนะ เพราะยุคนี้พรรคและนักการเมืองเดินเข้าสู่ยุคแข่งกันด้วยผลงาน และท่อน้ำเลี้ยง 

จากอีเวนท์ “ครอบครัวเพื่อไทย” ถึงอีเวนท์ “แลนด์สไลด์เพื่อไทย เพื่อไทยคนไทยทุกคน” สะท้อนภาพพรรคเพื่อไทย (พท.) ภายใต้การนำของ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ที่หมายมั่นปั้นมือจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งครั้งหน้าให้ได้

แต่โจทย์ที่ “แพทองธาร-เพื่อไทย” ต้องฝ่าด่านหินไปให้ได้ คือจำนวน ส.ส. ในสภาผู้แทนราษฎรจำเป็นจะต้องกวาดมาให้ได้ไม่ต่ำกว่า 200-250 เสียง ถึงจะมีแรกต่อรองทางการเมือง ทั้งภายในสภาฯ และกับ “ขั้วอนุรักษ์นิยม” เพราะหากต่ำกว่า 200 เสียง โอกาสของ “เพื่อไทย” จะพลิกได้ทันที และย่อมกระทบต่อโอกาสสานฝันพา ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ สองอดีตนายกรัฐมนตรีพี่น้อง กลับบ้าน

จับจังหวะการเมืองเพื่อไทย ที่ค่อนข้างเร่งเร้า อยากปิดจ็อบเช็คบิล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้เร็วที่สุด เพื่อเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง ไม่อยากให้ทอดเวลาไปจนถึงใกล้ครบเทอม

“หมอชลน่าน” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กางไทม์ไลน์งานสภา กฎหมายลูกเลือกตั้ง 2 ฉบับ จะเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาในวาระ 2 และวาระ 3 ประมาณกลางเดือน มิ.ย. หรืออย่างช้า ในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือน มิ.ย. ทำให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจ น่าจะเกิดขึ้นไม่ปลายเดือน มิ.ย. หรือต้นเดือน ก.ค. 

แถมประโคมข่าวขู่ “พล.อ.ประยุทธ์” ว่าขั้วฝ่ายค้านมีดีล 30 ส.ส. โหวตล้มพ้นเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ซึ่ง 30 เสียง ตามคำขู่ของ “ชลน่าน” โฟกัสไปที่ “พรรคเศรษฐกิจไทย+พรรคเล็ก” ซึ่งตัวเลขจะอยู่ไม่เกิน 30 เสียง

โดยท่าทีของ "หมอชลน่าน” สอดรับคำกระแสข่าว “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่อ่านกันว่า หวังปั่นกระแส “พล.อ.ประวิตร” พบ “โทนี่” ทักษิณ ชินวัตร ให้นักการเมืองหาคำตอบในสายลมต่ออีกยก

ยุทธศาสตร์ของ “ทักษิณ-เพื่อไทย” หวังให้พล.อ.ประยุทธ์ ยุบสภาโดยเร็วที่สุด เนื่องจากไม่มั่นใจว่าจะสามารถรั้ง “ส.ส.” ให้อยู่กับพรรคได้นานเท่าไร ยิ่ง “ส.ส.เกรดเอ”ตกเป็นเป้าหมายถูกดูดจากหลายพรรค ที่อาจทำให้แลนด์สไลด์ไม่เกิดขึ้นจริง

โดยเฉพาะ “พรรคสีน้ำเงิน” ที่พร้อมหอบสินสอดมากองตรงหน้า เดินเกมรุกหนักในพื้นที่ภาคอีสาน ส.ส.เพื่อไทย หลายคนถูกทาบทามให้ย้ายพรรค พร้อมข้อเสนอที่ยากจะปฏิเสธ จนมี ส.ส.หลายรายไหลออกไปบ้างแล้ว

โดยพื้นที่อีสานใต้ “พี่ใหญ่” เนวิน ชิดชอบ คุมเกมเอง ดึง 3 ส.ส.ศรีสะเกษ เพื่อไทย เข้าภูมิใจไทย ทั้ง “ผ่องศรี แซ่จึง” ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 8 “จาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์” ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 4 “ธีระ ไตรสรณกุล” ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 5 ซึ่งทั้ง 3 ส.ส.เปิดตัวต้อนรับ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในงานมหกรรมกัญชาที่ จ.ศรีสะเกษ กันอย่างเอิกเกริก

นอกจากนี้ พี่ใหญ่ยังวางเป้าดูด ส.ส. อีสานใต้เพิ่มเติมอีก ทั้ง ส.ส. นครราชสีมา ส.ส. สุรินทร์ ส.ส. อุบลราชธานี ส.ส. ชัยภูมิ ซึ่ง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ย่อมรู้ดีว่า มีใครถูกทาบทามกันบ้าง

ขณะเดียวกัน ภูมิไทยไทย ก็ไม่ทิ้งพื้นที่อีสานเหนือ แต่วางเกมให้ “ครูแก้ว” ศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ส.ส. นครพนม เป็นคนตัวกลาง ทั้ง "ดีล-ดูด" 

จนมีกระแสข่าวว่า เล็ง “ไพจิต ศรีวรขาน” ส.ส.นครพนม เขต 3 ไว้ ก่อนที่ “ไพจิต” จะออกมาปฏิเสธข่าวลือ

ส่วนอีกราย ที่ได้รับเทียบเชิญคือ “ชวลิต วิชยสุทธิ์” ส.ส.นครพนม เขต 4 แต่อีกกระแสข่าว “ชวลิต” เตรียมหอบข้าวของไปสังกัดพรรคชาติไทยพัฒนา

ให้จับตาบทบาทของ “ศุภชัย” ที่บารมีในพื้นที่ จ.นครพนม เบ่งบานมากเป็นพิเศษ ว่าจะสามารถดูด ส.ส. เพื่อไทย ให้ย้ายมาสังกัด “พรรคสีน้ำเงิน” ได้มากน้อยเพียงใด แต่การข่าวระบุว่า หาก ส.ส. เพื่อไทย ขาดตกบกพร่องในเรื่องใด แค่ยกหูบอก “ศุภชัย” พร้อมจัดให้แบบไม่ขัดข้อง

นอกจาก “พรรคสีน้ำเงิน” แล้ว “ทักษิณ-เพื่อไทย” ยังต้องเฝ้าระวังพรรคน้องใหม่ ที่ขับเคลื่อนโดยลูกน้องเก่าให้ดี เนื่องจาก “คุณหญิงหน่อย" สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย หวังเจาะพื้นที่ภาคอีสาน แบ่ง ส.ส. จากพรรคเพื่อไทยเช่นกัน

พุ่งเป้าไปที่ จ.ขอนแก่น “ข้าวฟ่าง” สรัสนันท์ อรรณนพพร ส.ส.ขอนแก่น เขต 8 พรรคเพื่อไทย ลูกสาว “พงศกร อรรณนพพร” ผู้ร่วมก่อตั้งพรรรคไทยสร้างไทย และ “บัลลังก์ อรรณนพพร” ส.ส.ขอนแก่น เขต 10 พรรคเพื่อไทย น้องชายของ “พงศกร” ที่ค่อนข้างแบเบอร์ว่า จะย้ายเข้าสังกัดไทยสร้างไทย

เช่นเดียวกับ “จักรพรรดิ ไชยสาส์น” ส.ส.อุดรธานี เขต 6 น้องชาย “ต่อพงษ์ ไชยสาส์น” แกนนำพรรคไทยสร้างไทย ได้ปลดป้ายพรรคเพื่อไทยในพื้นที่ออกหมดแล้ว ทำให้มีโอกาสสูงที่จะมาอยู่ค่ายไทยสร้างไทยเช่นกัน

นอกจากนี้ ยังมี พรรคพลังประชารัฐ พรรคเศรษฐกิจไทย ที่พยายามเดินแรงในหลายพื้นที่ภาคอีสาน เพื่อชิงตัว ส.ส.เกรดเอ เข้ามาอยู่ในพรรค เพราะรู้ดีว่า จุดอ่อนของพรรคเพื่อไทยคือ “ไร้ท่อน้ำเลี้ยง-ไม่แจกจ่ายกระสุน”

 ที่มองข้ามไม่ได้คือ “พรรคก้าวไกล” ที่มีเงาของ “คณะก้าวหน้า” โดย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กำลังรุกฐานคนรุ่นใหม่ในฐานที่มั่นของเพื่อไทยทั้งอีสาน-เหนือ รวมทั้ง กทม.อย่างหนัก 

แม้จุดแข็งของพรรคเพื่อไทย จะอยู่ที่แบรนด์ “ทักษิณ” และนามสกุล “ชินวัตร” ของ “แพทองธาร” แต่การเมืองไทยชั่วโมงนี้กระแสของ “ทักษิณ” และความเป็น “ชินวัตร” อาจไม่เพียงพออีกต่อไป เพราะบริบทการเมืองไทยเปลี่ยนไปไม่น้อย

“ทักษิณ-เพื่อไทย” อาจจะต้องดูโมเดล “ภาคใต้” เป็นแบบอย่าง หมดยุคพรรคประชาธิปัตย์ ส่งเสาไฟฟ้าลงสมัครยังชนะ เพราะยุคนี้ พรรคและนักการเมืองเดินเข้าสู่ยุคแข่งกันด้วยผลงาน และท่อน้ำเลี้ยง 

อีกไม่นาน “ภาคอีสาน” ดินแดนไข่แดงของ “ทักษิณ-เพื่อไทย” จะไม่ต่างจากโมเดล “ภาคใต้” ที่พลังประชารัฐ-ภูมิใจไทย ตีป้อมค่ายประชาธิปัตย์แตกกระเจิง