ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ขยายเขตควบคุมมลพิษทั่วกรุง คุมเข้มรถควันดำสู้ PM2.5

วันนี้ (8 ต.ค. 68) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM2.5 ณ หน้าห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร โดยเน้นย้ำถึงการใช้สถานะของกรุงเทพฯ ในฐานะ "เขตควบคุมมลพิษ" เพื่อออกมาตรการที่เข้มข้นและต่อเนื่องตลอดทั้งปี

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า กรุงเทพมหานครเตรียม ขยายพื้นที่เขตควบคุมมลพิษจากยานพาหนะให้ครอบคลุมทั้งพื้นที่ เพื่อจำกัดการใช้รถที่ปล่อยควันดำในช่วงวิกฤตฝุ่น โดยจะอนุญาตเฉพาะรถที่อยู่ใน "บัญชีสีเขียว" เท่านั้น หากมีการฝ่าฝืนกฎเกณฑ์ เขตมลพิษต่ำ (Low Emission Zone: LEZ) จะต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
 

นอกจากมาตรการคุมเข้มรถยนต์แล้ว กทม. ยังเดินหน้าแก้ไขปัญหาจากแหล่งกำเนิดอื่นๆ โดยเฉพาะ การเผา ในพื้นที่เกษตรกรรม ในจังหวัดใกล้เคียง จากการวิเคราะห์พบว่า จังหวัดนครนายกมีพื้นที่เกิดการเผาสูงถึง 2 อำเภอ ซึ่ง กทม. จะประสานงานกับจังหวัดที่เกี่ยวข้องเพื่อหามาตรการลดการเผาและป้องกันเพลิงไหม้ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของฝุ่นข้ามพื้นที่

เสริมความแม่นยำข้อมูลและการดูแลสุขภาพ

สำหรับการติดตาม สถานการณ์ฝุ่น กทม. ได้ร่วมมือกับบริษัทต่างประเทศที่มีความเชี่ยวชาญด้านคุณภาพอากาศ เพื่อ เพิ่มความแม่นยำในการติดตามและประเมินสถานการณ์ พร้อมทั้งขยายโครงการ “ห้องเรียนปลอดฝุ่น” ให้ครอบคลุมยิ่งขึ้นเพื่อดูแลความปลอดภัยของนักเรียน
 

ควบคู่กันไป มีการส่งเสริมมาตรการ “Work from Home” อย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันมีผู้ปฏิบัติงานในรูปแบบนี้แล้วกว่า 200,000 คน ช่วยลดการจราจรและการปล่อยควันพิษได้ในระดับหนึ่ง และจะขยายเครือข่ายเพิ่มเติมในระยะต่อไป

พัฒนาทางเลือกเดินทาง ลดใช้รถส่วนตัว

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ยังกล่าวถึงการรณรงค์ “Car Free Everyday” โดย กทม. มุ่งเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะมากขึ้น ทั้งการจัดทำเส้นทางจักรยาน การปรับปรุงทางเท้าให้ปลอดภัย รวมถึงการสนับสนุนการเพิ่มจำนวน รถเมล์ไฟฟ้า ซึ่งรัฐบาลมีแผนจะจัดหามาเพิ่มอีก 1,500 คันในเร็ว ๆ นี้ เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเดินทางและช่วยลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวในระยะยาว

"การแก้ปัญหาฝุ่น ต้องดำเนินการควบคู่กันหลายมาตรการ ทั้งการควบคุมมลพิษจากต้นทาง การลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว และการสร้างทางเลือกในการเดินทาง เพื่อให้กรุงเทพมหานครสามารถรับมือกับสถานการณ์ฝุ่น และคืนอากาศสะอาดให้ทุกคนอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน" ผู้ว่าฯ ชัชชาติเน้นย้ำในตอนท้าย