สมองสร้างนิสัย | อาหารสมอง

เราเชื่อกันว่า “จิตมุ่งมั่น” (willpower) คือปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งอย่างเดียวของการสร้างหรือเปลี่ยนนิสัย ไม่ว่าจะเป็น กินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายเพิ่มขึ้น
กินหวานและกินเค็มน้อยลง เลิกสูบบุหรี่หรือเลิกการพนัน ล่าสุดนักวิทยาศาสตร์พบว่าการสร้างหรือเปลี่ยนนิสัยมิได้อาศัยเพียงแค่พลังจิตเท่านั้น หากมีปัจจัยทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวพันอยู่ด้วยเป็นอย่างมาก
กล่าวคือ นิสัยเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับว่าสมองเรียนรู้และตัดสินใจอย่างไร งานศึกษาเมื่อเร็วๆ นี้พบว่า เราสร้างนิสัยขึ้นมาผ่านการได้รับ “รางวัล” และ “การกระทำซ้ำๆ” มาดูกันว่านิสัยก่อร่างขึ้นมาได้อย่างไร
เรามักคิดกันว่านิสัยคือพฤติกรรมที่สามารถเลือกที่จะเริ่มและเลิกเมื่อใดก็ได้ โดยเชื่อว่าเราสามารถควบคุมการกระทำตลอดจนความพึงพอใจของเราได้ทั้งหมด แต่ในความเป็นจริงแล้วนิสัยนั้นเป็นแบบแผนที่ฝังรากแน่นโดยถูกสร้างขึ้นโดยสิ่งแวดล้อม และการเรียนรู้ของสมองข้ามเวลา
นิสัยใหม่สามารถสร้างขึ้นได้ในเวลา 3 สัปดาห์ถึงหลายเดือนโดยมีเวลาเฉลี่ยประมาณ 70 วัน จุดเริ่มต้นว่าเราจะได้รับ “รางวัล ” หากกระทำสิ่งนั้นๆ เป็นแรงจูงใจที่สำคัญที่สุด การรู้ว่ามี “สิ่งดี” รอคอยอยู่เมื่อกระทำสิ่งนั้น ร่างกายก็จะปล่อยสาร dopamine ในสมอง สารเคมีที่ทำให้ “รู้สึกดี” นี้ จะจูงใจให้เรากระทำสิ่งนั้นต่อไป และหาก “กระทำซ้ำๆ” อยู่ระยะหนึ่งแล้วมันก็จะกลายเป็นนิสัยโดยไม่ต้องใช้สมองช่วยตัดสินใจเลย
dopamine เป็นสารเคมีสื่อประสาท (neurotransmitter) ที่มีหน้าที่ในการนำสัญญาณไฟฟ้าจากเซลล์ประสาทนำไปยังอีกเซลล์หนึ่งในสมอง มักเรียกกันว่าตัวทำให้ “รู้สึกดี” โดยผลิตในหลายส่วนของสมอง dopamine มีหลายบทบาทในเรื่องของการเคลื่อนไหว แรงจูงใจ “รางวัล” อารมณ์ ความสนใจและการเรียนรู้ การเสพติด และการสร้างนิสัย ฯลฯ วิถีธรรมชาติในการผลิต dopamine คือการออกกำลังกาย นอนหลับ นั่งสมาธิ บริโภคอาหารอุดมด้วยโปรตีน รับแสงแดด บรรลุเป้าหมายไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ ฯลฯ
การมีนิสัยใหม่ผ่านการเรียนรู้เกิดขึ้นช้าๆ และบ่อยครั้งมิได้ตระหนักถึง ตัวอย่างเช่น เมื่อเรียนรู้การขับรถครั้งแรก เราจะตระหนักถึงทุกการกระทำ ตรวจกระจก ควบคุมความเร็ว ดูซ้ายขวาอย่างระวัง ฯลฯ การคาดหวังว่าจะได้รับ “รางวัล ”(มี “สิ่งดี” รออยู่เมื่อขับรถเป็น) ทำให้ dopamine พุ่งขึ้นเมื่อขับรถต่อไปสักพักหรือกระทำซ้ำๆ สมองของเราจะทำงานโดยอาศัยเส้นทางของเซลล์ประสาทจนเคยชิน การขับรถก็จะเป็นเรื่องอัตโนมัติขึ้นมา
ส่วนของสมองที่ทำหน้าที่ตัดสินใจจะไม่ถูกใช้งานมากเพราะได้ทำซ้ำๆ จนเกิดการเรียนรู้ใหม่ และเกิดนิสัยในการขับขี่ขึ้นมาแล้ว ส่วนจะเป็นคนขับรถที่มีมารยาทหรือไม่ขึ้นอยู่กับเนื้อหาของการที่จะได้รับ “รางวัล” สิ่งแวดล้อมและประสบการณ์
อย่างไรก็ดี ไม่ใช่ทุกนิสัยของเราที่ให้ความสุขสมอย่างทันด่วนจาก dopamine บางกรณีเช่น การแปรงฟัน หรือปิดประตูบ้านเมื่อไม่มีใครอยู่ มิได้เกี่ยวกับ “รางวัล” หากได้กระทำจนเคยชินอย่างมิได้คิดถึงรางวัล มันได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่เราทำเป็นประจำ หรือรูทีน (routine) ยิ่งเราทำบ่อยเท่าใด สมองก็จะยิ่งเคยชินกับแบบแผนนั้น และสมองในส่วนนั้นจะไม่ทำงานเพราะทุกอย่างเป็นไปโดยอัตโนมัติ
มีประมาณการว่า 45% ของการกระทำของเราในแต่ละวันเป็นเรื่องของนิสัย ซึ่งก่อให้เกิดความเคยชิน เราปิดไฟเมื่อออกจากห้อง ใส่เข็มขัดนิรภัยเมื่อนั่งรถ แม้แต่เส้นทางขับรถไปทำงานหรือส่งลูกไปโรงเรียนก็เป็นไปโดยอัตโนมัติ นิสัยหรือความเคยชินกลายเป็นตัวสร้างความพึงพอใจให้เรา ถ้าตื่นนอนก็ดื่มกาแฟ ระหว่างเข้าห้องน้ำทำธุรกิจส่วนตัวก็อ่านหนังสือ หากเราทำแบบนี้ซ้ำๆ ไม่นานก็จะเป็นนิสัยและกลายเป็นรูทีน
Dr.Marcus Stephenson-Jones หัวหน้าทีมศึกษาเรื่องนี้แห่ง University College London ระบุว่าเมื่อเราเกิดความชอบในการกระทำบางอย่างแล้ว เราสามารถมองข้ามสิ่งที่เป็น “คุณค่านำทางชีวิต” (values) ของเราได้ โดยปล่อยให้สิ่งที่เคยชินและชอบในอดีตเป็นตัวชี้นำโดยอัตโนมัติ กล่าวอีกอย่างก็คือนิสัยทำให้สมองส่วนที่รับผิดชอบการตัดสินใจ “พักงาน” เช่น ไปร้านอาหารแห่งหนึ่งบ่อยๆ เข้า ก็จะสั่งเมนูอาหารซ้ำๆ ที่เราชอบและเคยชินโดยไม่ใช้สมองตัดสินใจ
ตัวอย่างเรื่องที่คนโหดร้ายทารุณมักมีพื้นฐานชีวิตที่ผ่านสงคราม หรือการต่อสู้อันรุนแรงมา สอดคล้องกับการที่นิสัยหรือความเคยชินโดยอัตโนมัติ ทำให้สามารถมองข้ามคุณธรรมดังเช่นทหารนาซีฆ่ายิวในค่ายอพยพตอนสงครามโลกครั้งที่สอง การหลีกหนีความคุ้นชินกับพฤติกรรมที่ชั่วร้ายในขณะหนึ่งของชีวิต จึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับการมีชีวิตที่สงบสุขในช่วงเวลาต่อมา
นิสัยของเราเกิดขึ้นจากอิทธิพลของ 2 ระบบการเรียนรู้ในสมอง ซึ่งทำงานขนานกัน ระบบแรกอยู่บนพื้นฐานของ “รางวัล” (ถูกกำกับโดยการปล่อย dopamine ในบริเวณที่สมองใช้ตัดสินใจ) ที่สอนให้เรามีพฤติกรรมอันนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เราปรารถนา ระบบที่สองคือการกระทำซ้ำๆ ซึ่งช่วยทำให้เกิดเป็นนิสัยและกลายเป็นเรื่องที่กระทำเป็นประจำ ระบบหลังนี้ช่วยให้นักวิจัยเข้าใจว่าเหตุใดเมื่อได้รับ “รางวัล” โดยเริ่มต้นในครั้งแรกแล้ว จึงกลายเป็นนิสัยไปได้
กล่าวโดยสรุปก็คือ นิสัยซึ่งทำให้เกิดพฤติกรรมที่เป็นรูทีนในเวลาต่อมา เกิดขึ้นจากการได้รับ "รางวัล” (การหลั่งของ dopamine) และการกระทำซ้ำๆ การใช้เพียงจิตมุ่งมั่นเพื่อสร้างหรือเปลี่ยนนิสัยเป็นความเข้าใจผิด การกระทำซ้ำๆ ทำให้การกระทำของเราในเวลาต่อมาเป็นเรื่องอัตโนมัติไปโดยไม่ใช้สมองในการตัดสินใจ
dopamine จึงเป็นตัวการสำคัญของการสร้างนิสัยโดยเป็นตัวจูงใจให้เกิดกระทำและการกระทำซ้ำๆ ต่อมา จนบันดาลให้เกิดเป็นนิสัย ส่วนจะเป็นนิสัยดีหรือเลวนั้นเป็นเรื่องของการเลือกเนื้อหาเพื่อให้รางวัล สิ่งแวดล้อมและการใช้วิธีการตอกย้ำซ้ำๆ การสอนเยาวชนในเรื่องคุณธรรมนั้นจึงต้องมี “รางวัล” เพื่อสร้างแรงจูงใจ (ให้คำชื่นชมและสิ่งของที่เยาวชนต้องการ) และกระทำซ้ำๆ ด้วยการพูดและการกระทำให้ดูเป็นตัวอย่าง
อุปมาดั่งโรยเกลือลงไปในอาหารในแต่ละวันข้ามระยะเวลา มิใช่โรยเกลือเพียงครั้งเดียว







