มุ่งมั่น ไม่ยอมแพ้ 10 บทเรียนด้านอาชีพจากคนดังเวทีออสการ์ 2025
เปิด 10 บทเรียนด้านอาชีพการงานจากเวทีออสการ์ 2025 เมื่อความล้มเหลวในอดีตไม่อาจตัดสินอนาคต หากมุ่งมั่นต่อไปและไม่ยอมแพ้ ย่อมคว้าความสำเร็จด้านอาชีพมาได้ในที่สุด
KEY
POINTS
- แม้ผ่านช่วงตกต่ำมาก่อนแต่ประสบความสำเร็จได้ คนดังที่มีชื่อเสียงอย่างเดมี มัวร์, โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ และทิโมธี ชาลาเมต์ ล้วนเคยประสบกับช่วงเวลาวิกฤติในอาชีพ แต่กลับมาประสบความสำเร็จได้อีกครั้งจนได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงหรือได้รับรางวัลออสการ์
- การเปลี่ยนความล้มเหลวให้เป็นโอกาสต้องอาศัยทัศนคติที่ถูกต้อง ได้แก่ การไม่ยอมแพ้ง่ายๆ คิดบวก ให้กำลังใจตัวเอง มีแรงผลักดัน ก้าวข้ามขีดจำกัด และกล้าเสี่ยง ซึ่งล้วนเป็นกุญแจสำคัญสู่การฟื้นตัวทางอาชีพ
- การรักษาความสำเร็จ มีความสำคัญไม่แพ้การฟื้นตัว การรายล้อมตัวเองด้วยคนคิดบวก การสร้างเครือข่ายกับผู้มีเป้าหมายเดียวกัน จะช่วยพัฒนาความยืดหยุ่นทางจิตใจ รักษาความสำเร็จในระยะยาว
คุณเคยรู้สึกไหมว่าอาชีพการงานของตัวเองถึงทางตัน? บางครั้งปัญหาต่างๆ ในชีวิตอาจทำให้เรารู้สึกว่าเส้นทางการทำงานต่อไปข้างหน้าช่างมืดมน แต่เรื่องราวของคนดังอย่างเดมี มัวร์, ทิโมธี ชาลาเมต์, โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ และแอนดรูว์ คูโอโม แสดงให้เห็นว่า ไม่มีใครที่กลับมาเฉิดฉายไม่ได้ ถ้าหากเรายังมีความมุ่งมั่นและไม่ยอมแพ้
เปิด 3 เคสคนดังฮอลลีวู้ด เกือบหลับ..แต่กลับมาบนสายอาชีพได้สุดปัง!
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดในปีนี้คงหนีไม่พ้น การกลับมาของ 'เดมี มัวร์' ดาราหญิงฝีมือดี เธอผ่านจุดต่ำสุดจนมาสู่เวทีออสการ์ได้ในปีนี้ ในอดีตเธอเคยเป็นนักแสดงแถวหน้าของฮอลลีวูด แต่ในช่วงหนึ่งอาชีพของเธอกลับดิ่งลงเหว ไม่มีบทเด่นๆ ให้เล่น และดูเหมือนว่าอุตสาหกรรมภาพยนตร์จะลืมเธอไปแล้ว แต่เธอไม่ยอมแพ้ และในปีนี้ เธอสามารถกลับมาเข้าชิงรางวัลออสการ์จากบทบาทใน The Substance แม้ว่าจะพลาดรางวัลไปให้กับ 'ไมกี้ แมดิสัน' จากหนังเรื่อง Anora แต่เธอก็ถือว่าประสบความสำเร็จในการกลับมาครั้งนี้ เพราะก่อนหน้านี้เธอสามารถคว้ารางวัลลูกโลกทองคำ รางวัลนักวิจารณ์ และรางวัลจากสมาคมนักแสดงมาได้
ถัดมาคือ 'ทิโมธี ชาลาเมต์' ก็เป็นอีกคนที่ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคบนเส้นทางฮอลลีวู้ด เขาอดทนต่อคำปฏิเสธจนคว้าการเข้าชิงออสการ์ โดยในช่วงแรกของอาชีพ เขาโดนปฏิเสธบทหลายครั้ง แต่เขายังคงเดินหน้าต่อ และในปี 2025 เขาสามารถเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำชายได้สำเร็จ จากเรื่อง A Complete Unknown นี่เป็นเครื่องยืนยันว่า หากเรามีความอดทนและมุ่งมั่น วันหนึ่งโอกาสจะเป็นของเรา
ขณะที่ 'โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์' นักแสดงชายผู้เคยติดยาเสพติด แต่ก็ต่อสู้เอาชนะมันมาได้ พลิกชีวิตกลับมายืนหยัดบนอาชีพนักแสดงจนคว้ารางวัลออสการ์ในปี 2024 เขาคือตัวอย่างที่น่าสนใจในการฟื้นกลับมาในสายอาชีพนี้ได้อย่างน่าทึ่ง ในอดีตเขาเคยเป็นดาราดังมาก่อน แต่ปัญหายาเสพติดทำให้เขาต้องสูญเสียโอกาสหลายครั้ง เขาถูกจับและต้องเข้าบำบัดนับครั้งไม่ถ้วน แต่เขาก็สามารถกู้คืนอาชีพของตัวเองได้ และเมื่อปีที่แล้ว เขาคว้ารางวัลออสการ์สาขานักแสดงสมทบชายจาก Oppenheimer ได้สำเร็จ
10 บทเรียนเปลี่ยนความล้มเหลวให้เป็นโอกาส จากคนดังหลากหลายวงการ
1. พัฒนาแนวคิดแบบผู้ชนะและการเติบโต
เบ๊บ รูธ ตำนานนักเบสบอลเคยบอกไว้ว่า "ทุกครั้งที่ตีพลาด เท่ากับเข้าใกล้โฮมรันครั้งต่อไป" คนที่ประสบความสำเร็จมักมองความล้มเหลวเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิต พวกเขาเข้าใจว่าความสำเร็จและความล้มเหลวเป็นของคู่กัน ถ้ากลัวความล้มเหลว ก็อาจหมายถึงการกลัวความสำเร็จไปด้วย
2. อย่ายอมแพ้เร็วเกินไป
หากคุณรู้สึกอยากยกธงขาว (อยากยอมแพ้) อย่าเพิ่งทำแบบนั้นแต่ให้เอาผ้าขาวนั้นมาเช็ดเหงื่อซะ แล้วสู้ต่อ! ยกตัวอย่างเคสของ 'บาร์บารา คอร์โคแรน' นักลงทุนชื่อดังจากรายการ Shark Tank เคยถูกปฏิเสธไม่ให้เป็นกรรมการในรายการ แต่เธอไม่ยอมแพ้ เธอเขียนจดหมายถึงผู้บริหารรายการ พร้อมให้เหตุผล 3 ข้อว่าทำไมควรให้เธอเข้าร่วม สุดท้ายเธอได้งานและอยู่ในรายการมา 12 ปีแล้ว!
3. จงเป็นคนคิดบวกเสมอ
บาร์บารา คอร์โคแรน เปิดเผยว่า ชีวิตเธอเปลี่ยนไปตั้งแต่เริ่มเปลี่ยนความคิดจาก "ฉันไม่เก่งพอ" เป็น "ฉันโคตรเก่ง!" วิธีนี้ทำให้เธอมีความกล้าหาญ มีความมั่นใจในทุกๆ การทำงานและการเติบโตในสายอาชีพ ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยที่ระบุว่า คนคิดบวกจะเครียดน้อยกว่า ได้เลื่อนตำแหน่งเร็วกว่า มีสุขภาพดีขึ้น และมีอายุยืนยาวกว่า หากคุณรู้สึกผิดหวังครั้งใหญ่ ให้เน้นย้ำถึงความสำเร็จและแสดงความยินดีกับ “ความสำเร็จ” ของตัวเอง เพื่อสร้างพลังให้บรรลุผลสำเร็จในครั้งต่อไป
4. อย่าดูถูกตัวเอง แต่จงเห็นอกเห็นใจตัวเอง
เดมี มัวร์ เคยรู้สึกหลงทางในอาชีพ แต่เธอเลือกที่จะให้กำลังใจตัวเองแทนการโทษตัวเอง หลังจากนั้นแค่สองสัปดาห์ต่อมา เธอได้รับโอกาสในการเป็นนักแสดงหลักของหนังเรื่อง The Substance ดังนั้น การตำหนิตัวเองจะขัดขวางการก้าวไปข้างหน้า ลองเปลี่ยนมาพูดให้กำลังใจดีๆ กับตัวเอง เช่น "ฉันมีคุณค่า ฉันมีความสามารถ" แล้วคุณจะฟื้นตัวจากความล้มเหลวได้ไวขึ้น
5. ใช้ประสบการณ์ที่ผ่านมาเป็นแรงผลักดัน
ลองนึกถึงช่วงที่คุณเคยผ่านปัญหาใหญ่ๆ มาได้ คุณเอาชนะมันยังไง? นักวิทยาศาสตร์บอกว่า การย้อนคิดถึงความสำเร็จในอดีต และทบทวนว่าคุณเอาชนะอุปสรรคในอดีตได้อย่างไร จะช่วยเพิ่มความมั่นใจและความแกร่งทางจิตใจ อีกทั้งช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น และทำให้เห็นว่าความยากลำบากในอดีตทำให้คุณแข็งแกร่งขึ้น
6. ก้าวข้ามขีดจำกัด
พอล แบรนด์ นักร้องคันทรีชาวแคนาดาเคยพูดว่า อย่าบอกฉันว่า ‘ท้องฟ้าคือขีดจำกัด’ ในเมื่อมนุษย์เคยไปดวงจันทร์แล้ว! เช่นเดียวกับ แอนดรูว์ คูโอโม นักการเมืองชื่อดังที่เคยล้มเหลวและถูกบีบให้ลาออกในปี 2021 แต่ตอนนี้เขากลับมาลงสนามการเมืองอีกครั้ง เพราะเขายอมรับอดีตและเดินหน้าต่อ
7. เปลี่ยนอุปสรรคเป็นโอกาส
มิเชล ซัลลิแวน อดีตประธานมูลนิธิ Caterpillar Foundation เกิดมาพร้อมโรคเตี้ยแคระชนิดหายากที่สร้างความท้าทายมากมายในชีวิตประจำวันของเธอ เธอเคยบอกฉันว่า แต่ก่อนฉันมองอาการป่วยนี้เป็นอุปสรรค แต่วันนี้ฉันเปลี่ยนวิธีคิดและมองมันเป็นข้อได้เปรียบแทน มันเป็นวิธีที่เธอนำมาปรับใช้ชีวิตทุกวัน เธอไม่ปล่อยให้ข้อจำกัดดังกล่าวมากำหนดชีวิต แต่ใช้มันให้เกิดประโยชน์
8. มองภาพให้กว้างขึ้น หาข้อดีในสถานการณ์ที่แย่
เมื่อเราเผชิญปัญหา สมองมักจะโฟกัสแต่เรื่องแย่ๆ ลองเปลี่ยนมุมมองให้กว้างขึ้น มองหาข้อดีจากสถานการณ์แย่ๆ และเน้นไปที่การแก้ปัญหาแทนที่จะจมอยู่กับมัน เพราะการขยายมุมมองของคุณด้วยเลนส์มุมกว้าง จะช่วยให้คุณปฏิบัติต่อปัญหาเหมือนความท้าทาย แทนที่จะเป็นภัยคุกคามส่วนตัว นำไปสู่ความเป็นไปได้ต่างๆ ที่ยิ่งใหญ่กว่า ดังนั้น จงมองหาด้านบวกของสถานการณ์ด้านลบ
9. ชีวิตต้องกล้าลองเสี่ยง ไม่เสี่ยงเลยก็อาจไม่ก้าวหน้า
บางครั้งความสำเร็จต้องอาศัยความกล้า เดมี มัวร์ ตัดสินใจรับบทใน The Substance ทั้งที่รู้ว่ามันมีความเสี่ยงและนำไปสู่จุดจบได้สองทาง นั่นคือ "มันอาจทำให้อาชีพเธอพัง" หรือ "มันอาจทำให้เธอกลับมายิ่งใหญ่" แต่สุดท้ายเธอก็เลือกที่จะเสี่ยงดู จนทำให้เธอได้กลับมายืนในจุดสูงสุดในอาชีพนักแสดงได้อีกครั้ง
10. รายล้อมตัวเองด้วยคนคิดบวก
การอยู่กับคนที่มองโลกในแง่ดีจะช่วยเสริมพลังให้คุณ เลือกคบคนที่สนับสนุนคุณ แทนที่จะดึงคุณลงมา บาร์บารา คอร์โคแรน เคยบอกไว้ว่า "ความคิดลบก็เหมือนหัวขโมยในยามค่ำคืน" มันจะขโมยพลังงานของคุณไปโดยไม่ให้สิ่งใดตอบแทน ดังนั้น หากคุณอยากก้าวไปข้างหน้า ให้ล้อมรอบตัวเองด้วยคนที่มองโลกในแง่ดี แล้วคุณจะประหลาดใจกับความก้าวหน้าของตัวเอง พลังงานบวกเป็นสิ่งที่ส่งต่อกันได้ ยิ่งคุณใช้เวลากับคนที่มีทัศนคติที่ดีมากเท่าไร โอกาสในอาชีพของคุณก็จะเพิ่มขึ้นแบบไร้ขีดจำกัด ดังนั้น จงพยายามเชื่อมโยงตัวเองกับคนที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน
โดยสรุปคือวัยทำงานทุกคนสามารถพัฒนาและก้าวหน้าในอาชีพการงานได้เสมอ ไม่ว่าในอดีตจะเคยล้มเหลวมาก่อนก็ตาม เพียงแค่ต้องรู้เคล็ดลับในการฟื้นตัวกลับมา จำไว้ว่า..คนที่มีความยืดหยุ่นทางจิตใจสูง จะรับมือกับความกดดันได้ดีกว่า และรักษาความสำเร็จได้นานกว่า ให้มองว่าความพ่ายแพ้ก็เหมือนเทรนเนอร์ส่วนตัว มันช่วยให้คุณแข็งแกร่งขึ้น แม้บางครั้งมันทำให้คุณอยากยอมแพ้ แต่อย่าลืมว่าจริงๆ แล้ว คุณไม่ได้อยากเลิกทำ คุณแค่ไม่อยากเจ็บปวด แต่ถ้าคุณลุกขึ้น ปัดฝุ่น แล้วลุยต่อ! การกลับมาที่ยิ่งใหญ่เป็นไปได้เสมอ เหมือนหนังยางที่ถูกดึงจนสุด แล้วดีดกลับมาได้แรงกว่าเดิม
อ้างอิง : Forbes