'ทุเรียน' หมอนทองพูละ 9 บาท ช่วง 19-21 มิ.ย.นี้ เช็กรายละเอียด

เรียกได้ว่า ฮอตมาก 'ทุเรียน' หมอนทองพูละ 9 บาท ช่วง 19-21 มิ.ย.นี้ เช็กรายละเอียด

เทศกาลทุเรียนบุญมาก โคราชเริ่มแล้ว 19-21 มิย.นี้ ปชช.แห่ต่อคิวยาวเยียดซื้อทุเรียนหมอนทองพูละ9บาท  

เมื่อช่วงเย็นวันที่ 19 มิย.68 เวลา 18.00 น ที่บริเวณสนามหน้าที่ว่าการอำเภอหนองบุญมาก จังหวัดนครราชสีมา นายคณัสชนม์ ศรีเจริญ ปลัดจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดงานเทศกาลทุเรียนบุญมากและของดีอำเภอหนองบุญมาก ประจำปี 2568 ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-21 มิถุนายน 2568 นี้ สนามหน้าที่ว่าการอำเภอหนองบุญมาก จ.นครราชสีมา

การจัดงานมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดแสดงและจำหน่ายทุเรียนบุญมาก ผลผลิตทางการเกษตร รวมถึงสินค้าชุมชนท้องถิ่น เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน ส่งเสริมโอกาสการเข้าสู่ตลาดและการขยายช่องทางการตลาดของทุเรียนบุญมาก ผลผลิตทางการเกษตร และผลิตภัณฑ์ชุมชนท้องถิ่น  

ตลอดจนเพื่อเปิดโอกาสให้เกษตรกรได้ประชาสัมพันธ์เผยแพร่ผลผลิตทางการเกษตรให้ผู้บริโภคโดยตรง รวมทั้งเพื่อแก้ไขปัญหาผลผลิตทางการเกษตรล้นตลาด ตลอดจนเพื่อสร้างรายได้ สร้างความเข้มแข็งสู่ชุมชนอย่างยั่งยืน  

กิจกรรมภายไฮไลท์ในวันเปิดงาน คือการจำหน่ายทุเรียนหมอนทอง พูละ 9 บาท ซึ่งมีเพียง 89 พูเท่านั้น ได้มีประชาชนนักท่องเที่ยวภายในงานต่างแย่งต่อคิวเพื่อซื้อทุเรียนหมอนทอง พูละ 9 บาท ไปลองชิม โดยจำกัดได้เพียงคนละ 1 พู 1 สิทธิ์ เท่านั้น

นอกจากนี้ภายในงานยังได้มีการการประกวดผลผลิตทุเรียน การแข่งขันปอกและกินทุเรียน การอบรมให้ความรู้ชาวสวนผู้ปลูกทุเรียนและผู้สนใจปลูกทุเรียน  

การจำหน่ายผลผลิตทุเรียนราคาถูกจากเกษตรกร รวมทั้งการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน ของดีอำเภอหนองบุญมาก การแสดงดนตรีศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน การประกวดธิดาทุเรียนจำแลงการแข่งขันส้มตำลีลา (ตำเนื้อทุเรียน) และการบริการบูทจัดส่งทุเรียนทางไปรษณีย์ไทยอีกด้วย  

สำหรับทุเรียนของอำเภอหนองบุญมาก หรือ ทุเรียนต้นน้ำมูล ที่มีการปลูกกันในพื้นที่ลำน้ำมูล ใน 3 อำเภอ ประกอบด้วย อ.ครบุรี อ.เสิงสาง และ อ.หนองบุญมาก จะมีเนื้อทุเรียนที่มีคุณภาพ รสชาติหวานมัน ละมุน กลิ่นไม่แรงและเนื้อไม่แฉะ

โดยในพื้นที่ อ.หนองบุญมาก มีพื้นที่ปลูกทุเรียนจำนวน 1,350 ไร่ พื้นที่ที่ปลูกมากที่สุดคือ ต.หนองไม้ไผ่ และ ต.หนองบุนนาก  ในปีนี้สวนทุเรียนให้ผลผลิตกว่า 60% ของพื้นที่ปลูกทั้งอำเภอ

คาดการณ์ผลผลิตออกสู่ตลาดช่วงนี้ 1,000-1,200 ตัน คิดเป็นมูลค่า 150-180 ล้านบาท

อ้างอิง ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา