'พ.ต.อ.ภาคภูมิ' เปิดใจหลัง มินนี่ เปิดหน้าชนตร. ลั่นความจริงก็คือความจริง

'พ.ต.อ.ภาคภูมิ' เปิดใจหลัง มินนี่ เปิดหน้าชนตร. ลั่นความจริงก็คือความจริง

'พ.ต.อ.ภาคภูมิ' เปิดใจหลัง 'มินนี่' เปิดหน้าชนตร. ลั่นความจริงก็คือความจริง ข้องใจปมปล่อยรูปมีเจตนาทำให้เสียหาย

หลังจากที่ น.ส.ธันยนันท์ หรือ 'มินนี่' ผู้ต้องหาคดีร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนัน (เว็บพนันออนไลน์) และสมคบฟอกเงิน ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนไปเมื่อวานนี้ (28 ก.ย.66) โดยเจ้าตัวยืนยันว่าไม่ใช่เจ้าแม่เว็บพนัน พร้อมขอความเป็นธรรมกรณีภาพส่วนตัวในโทรศัพท์มือถือที่ถ่ายคู่กับ พ.ต.อ.ภาคภูมิ หรือ รองหนึ่ง หลังถูกตำรวจยึดไปตอนถูกจับได้ถูกนำมาเผยแพร่ให้กับสื่อมวลชน พร้อมยอมรับเคยคบหากับ พ.ต.อ.ภาคภูมิ ในช่วงหนึ่งด้วย 

 

 

ล่าสุด พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิสมัย รอง ผบก.สส.ภ.4 ลูกน้องของ บิ๊กโจ๊ก ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงกรณี 'มินนี่' ว่า ตนได้ดูแล้ว และข้อเท็จจริงก็เป็นจริงตามนั้น เป็นคำพูดของน้องเขา ความสัมพันธ์ก็เป็นไปตามนั้น ส่วนจะมีผลต่อรูปคดีที่ทนายอนันตชัย ไชยเดช กำลังต่อสู้ให้หรือไม่นั้น ตนมองว่าคงไม่เป็นไร เพราะน้องเขาคงพูดความจริงทั้งหมด ความจริงก็คือความจริง 

 

พ.ต.อ.ภาคภูมิ ระบุต่อว่า ส่วนกรณีที่ 'มินนี่' เผยว่าตอนที่ถูกจับนั้นถูกตำรวจ PCT 4 บังคับให้เขียนยอมรับว่าตนมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยนั้น ตอนที่มินนี่ถูกจับตนก็ยังไม่ได้คุยกับมินนี่อีกเลย และพอตนได้ฟังจากที่มินนี่ให้สัมภาษณ์ว่ามีตำรวจบังคับให้เขียนข้อความรับสารภาพนั้น ก็มองว่าความเสียหายจะเกิดขึ้น 2 ส่วน คือ 

 

ส่วนแรกน้องเขาต้องเสียหายที่จะต้องถูกบังคับ ถูกอะไรก็ตาม ตามที่เขากล่าว และอีกส่วนคือ ภาพที่หลุดออกมา เขาก็เสียหายอีกครั้ง เพราะข้อเท็จจริงแล้วการเก็บพยานหลักฐานทำโดยตำรวจ แล้วหลุดไปอยู่ในมือบุคคลภายนอก เจตนาของเขาคืออะไร ทำไมไม่เอาไปใช้เป็นพยานในคดีเท่านั้น และการออกมาเปิดเผยมันจะคิดเป็นเจตนาอื่นอย่างไร และอีกคนที่เสียหายก็คือผม และครอบครัวของผม ซึ่งในทางคดีก็ว่าไป แต่การเอารูปออกมา ก็ลองคิดดูว่าเจตนาของเขาคืออะไร คงไม่ได้สนใจเรื่องคดี แต่ผมมองว่าคงต้องการให้เกิดความเสียหาย 

 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ามีการวางแผนทำให้เสียหายหรือดิสเครดิตมานานแล้วหรือไม่ เพราะเกิดขึ้นตั้งแต่ที่มินนี่ถูกจับกุมในช่วงเดือน ก.ค. โดย พ.ต.อ.ภาคภูมิ กล่าวว่า คงไม่ไปกล่าวหาอย่างนั้น หากมีพยานหลักฐานก็ว่าไปตามกระบวนการ ตนเป็นตำรวจก็ว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม ถ้ามีพยานหลักฐานก็ว่ามา 

 

'วิธีการคือสิ่งที่ผมเองติดใจ ไม่ว่าจะเป็นการออกหมายจับ และการออกหมายค้นต่างๆ ตั้งแต่เริ่มต้น และพอยิ่งมาฟังที่มินนี่ให้สัมภาษณ์อีก ก็มองว่ามินนี่คงต้องไปให้การเป็นพยานเพิ่มเติมในเรื่องนี้อีก ส่วนจะต้องนัดพูดคุยกับมินนี่เพื่อหารือทิศทางการต่อสู้คดีหรือไม่นั้น ตนมองว่าในการต่อสู้คดีของตนกับมินนี่คงแยกกัน เพราะคดีของเขาว่าไปแล้ว คดีของตนเพิ่งเริ่ม ซึ่งก็ต้องดูในอนาคต และตนก็คงต้องให้ทนายดำเนินการ'