สบยช. ตรวจพบ 'ยาเสพติด' ผสมอยู่ในซอง 'คอลลาเจน-กาแฟ' ขายเกลื่อนโซเชียล

สบยช. ตรวจพบ 'ยาเสพติด' ผสมอยู่ในซอง 'คอลลาเจน-กาแฟ' ขายเกลื่อนโซเชียล

กรมการแพทย์ เตือนภัยผู้บริโภค หลัง ตรวจสอบพบว่า ปัจจุบันมีการพบส่วนผสมของ “ยาเสพติด” ที่ถูกบรรจุอยู่ในซอง “คอลลาเจน และ กาแฟ” วางขายในช่องทาง สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media)

เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2566 นพ.มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสารเสพติด ที่ถูกบรรจุในซองคอลลาเจนที่วางขายในช่องทาง สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) พบว่า มีสารเสพติด ได้แก่ ยาอี ที่ออกฤทธิกระตุ้นประสาทและหลอนประสาท, ยาไอซ์ ที่มีฤทธิกระตุ้นประสาท ทำให้รู้สึกตื่นตัว ยาเค ออกฤทธิหลอนประสาท ทำให้เห็นภาพลวงตา นอกจากนี้ ยังมียานอนหลับ และคาเฟอีนผสมอยู่ด้วย เมื่อเสพรวมกันจะเสริมฤทธิให้รุนแรงขึ้น

นพ.มานัส เตือนว่า ผู้เสพแต่ละคนจะมีอาการที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับปริมาณ และระยะเวลา และส่วนประกอบของสารเสพติดแต่ละชนิดที่ได้รับด้วย ประกอบกับร่างกายแต่ละคนมีความแข็งแรงไม่เท่ากัน บางคนอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้

นพ.สรายุทธ์ บุญชัยพานิชวัฒนา ผู้อำนวยการสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) กล่าวเพิ่มเติมว่า สารเสพติดที่ถูกพบในซองคอลลาเจน ที่วางขายในช่องทาง สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) ในปัจจุบัน หากเสพสารเสพติดรวมกันในปริมาณมาก หรือเสพร่วมกับการดื่มแอลกอฮอล์ จะออกฤทธิ์กดประสาทส่วนกลาง อาจมีอาการทางจิตประสาท หูแว่ว หวาดระแวง เกิดพฤติกรรมรุนแรงก้าวร้าว อาจเกิดอาการหัวใจวาย หรือกดการหายใจ จนทำให้อันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้
 

ทั้งนี้ ผู้ค้ายาเสพติดในปัจจุบัน มักจะหาช่องทางการลักลอบจำหน่าย โดยใช้ สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) ซึ่งตรวจสอบได้ยาก ร่วมกับการโฆษณาชวนเชื่อ อวดอ้างสรรพคุณต่างๆ ทำให้มีคนหลงเชื่อ ตกเป็นเหยื่อของความอยากรู้อยากลอง และกลายเป็นเหยื่อของผู้ค้ายาเสพติด หากคนใกล้ตัวมีพฤติกรรมเสี่ยง ต้องรีบเข้าไปพูดคุย ซักถามด้วยเหตุผล และบอกกล่าวถึงโทษพิษภัยของยาเสพติด ที่ส่งผลต่อสภาพร่างกาย จิตใจ รวมถึงความผิดทางกฎหมาย และรีบพาไปพบแพทย์เพื่อเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา

โดยสามารถขอรับคำปรึกษาได้ที่ สายด่วนบำบัดยาเสพติด 1165  หรือเข้ารับการบำบัดรักษายาเสพติดได้ที่ สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) กรมการแพทย์ จ.ปทุมธานี และโรงพยาบาลธัญญารักษ์ในส่วนภูมิภาคทั้ง 6 แห่ง ได้แก่

  1. โรงพยาบาลธัญญารักษ์เชียงใหม่
  2. โรงพยาบาลธัญญารักษ์แม่ฮ่องสอน
  3. โรงพยาบาลธัญญารักษ์ขอนแก่น
  4. โรงพยาบาลธัญญารักษ์อุดรธานี
  5. โรงพยาบาลธัญญารักษ์สงขลา
  6. โรงพยาบาลธัญญารักษ์ปัตตานี

หรือโรงพยาบาลใกล้บ้าน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.pmnidat.go.th