ดอกบัวบานรับ 'สงกรานต์' เก็บฝักบัวขายสร้างรายได้วันละ 1,000 บาท

เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2566 ที่บริเวณแหล่งน้ำธรรมชาติ ในตำบลคลองคะเชนทร์ อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร ความสวยงามของเหล่าบัวหลวง บัวที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เนื้อที่ กว่า 30 ไร่ ซึ่งกำลังออกดอกบานสะพรั่ง เป็นสีชมพู สลับสีขาว ชูก้านดอกอวดความสวยงามบนผิวน้ำ โดยเฉพาะในช่วงที่ดอกบัวบานรับแสงแดดในยามเช้า จะออกดอกบานเต็มพื้นที่ สร้างความสวยงามประทับใจให้กับประชาชน และนักท่องเที่ยวที่พบเห็น ที่แฝงไปด้วยความชุ่มชื้นของดอกบัว และแหล่งน้ำในช่วงฤดูร้อน

ขณะที่เกษตรกรต่างนำบัวฝัก ที่ออกผลผลิตในช่วงนี้เก็บนำมาจำหน่าย โดยจะนำฝักบัวที่เก็บได้ มัดรวมเป็นกำ รวมถึงการแกะเมล็ดออกจากฝักบัว เพื่อจำหน่ายให้กับ บรรดานักท่องเที่ยว และผู้ใช้รถใช้ถนนเส้นทางสัญจร พร้อมขายส่งให้กับลูกค้า เนื่องจากบัวฝักในช่วง "สงกรานต์" มีรสหวาน กรอบ และมัน จึงเป็นที่นิยมเลือกซื้อนำไปรับประทาน และเป็นของฝาก ซึ่งเม็ดบางจังหวัดไม่มีขาย ซึ่งส่วนใหญ่จะมีมากในจังหวัดพิจิตร โดยการจำหน่ายฝักบัว และเมล็ดบัว จะมีจำหน่ายในช่วงเดือนเมษายน และในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้

นางลำพึง (สงวนนามสกุล) ชาวบ้านเก็บบัว ระบุว่า ช่วงนี้มีบัวฝักออกผลผลิต จึงได้นำฝักบัว และเมล็ดบัว เพื่อนำมาขายจำหน่ายในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยได้ทำการคัดแยกนำมามัดเป็นกำ กำละ 10 บาท โดยจะแยกเป็น บัวหวาน ซึ่งจะมีลักษณะเมล็ดเล็ก กับบัวมัน ที่จะมีเมล็ดใหญ่

บางส่วนยังทำการแกะเปลือกออก แบ่งใส่ถุง จำหน่ายถุงละ 20 บาท ซึ่งเมล็ดบัวหวาน จะผ่านการทดลองชิม ของคนแกะเมล็ด เพื่อให้ได้คุณภาพส่วนบัวมันจะเป็นที่นิยมของผู้สูงอายุ ซึ่งจะออกขมเล็กน้อย เนื่องจากมีดีบัว เป็นที่นิยมกินเป็นยา บำรุงป้องกันโรคเบาหวาน ความดัน ในช่วงนี้ จะมียอดจำหน่ายสูงถึง วันละ 1,000 บาท

สำหรับ "บัว" เกษตรกรที่มีพื้นที่ปลูกพื้นที่โดยรอบ และภายในบึงสีไฟ เกษตรมักจะนิยมปลูกกันมาก เพื่อจำหน่ายดอกบัว และเม็ดบัว ซึ่งจะมีสรรพคุณทางยาสามารถช่วยช่วยบำรุงร่างกาย บำรุงโลหิต ละลายไขมัน อีกทั้งยังช่วยในการบำรุงครรภ์ สำหรับสตรีมีครรภ์ หากกินจะช่วยให้คลอดลูกได้ง่ายขึ้น

นอกจากนั้น เม็ดบัว ยังนำไปแปรรูป ทำเป็นอาหาร และขนมอีกหลายอย่าง ซึ่งผู้ที่ผ่านไปผ่านมาบนถนน สายบายพาส ในเขตเทศบาลเมืองพิจิตร ใกล้กับบึงสีไฟ สามารถจอดซื้อไว้รับประทานได้