สภาเกษตรฯหวั่นสูญ 1.5 แสนล้าน จี้รัฐสกัด ’หมู’ ป่วย

สภาเกษตรฯหวั่นสูญ 1.5 แสนล้าน จี้รัฐสกัด ’หมู’ ป่วย

(ชมคลิปข่าวด้านล่าง) สภาเกษตรฯ ระบุโรคระบาดในสุกร สร้างความเสียหายภาคอุตสาหกรรมต่อเนื่องกว่า 1.5 แสนล้านบาท จี้รัฐเร่งจ่ายเยียวยา พร้อมแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ยกเครื่องการผลิต

ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ ประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ระบุ การระบาดของโรคกลุ่มอาการระบบสืบพันธุ์และทางเดินหายใจในสุกร หรือ PRRS ทำให้สุกรไทยป่วยตายถึง 30%  และกระทบภาคอุตสาหกรรมต่อเนื่องอื่นๆ มูลค่าความเสียหายโดยรวมกว่า 1.5 แสนล้านบาทและเสี่ยงต่อโอกาสการส่งออกสุกรมีชีวิต เนื้อสุกรแช่แข็งและผลิตภัณฑ์สุกร ซึ่งมีมูลค่าปีละกว่า 2.2 หมื่นล้านบาท
  
สภาเกษตรฯ จึงเสนอให้นายกรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินมาตรการเร่งด่วน คือ การจ่ายเงินเยียวยาให้เกษตรกรที่ทำลายซากสุกรไปแล้ว และจัดหาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำหรือปลอดดอกเบี้ย เพื่อฟื้นฟูอาชีพ ปรับปรุงโรงเรือน สถานที่ และระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ เพื่อเป็นระบบ GFM และผู้ประกอบการโรงฆ่าสุกร โรงงานแปรรูป ปรับปรุงโรงเรือนและกระบวนการผลิตเข้าสู่ระบบมาตรฐาน GMP , HACCP ขึ้นทะเบียนคนกลางรับซื้อสุกรทุกรายทุกขนาด  รวมทั้งจัดตั้งกองทุนสุกร

ส่วนมาตรการระยะปานกลาง ภายใน 3 ปี คือ ให้กรมปศุสัตว์เพิ่มศักยภาพในการตรวจวินิจฉัย ชันสูตรโรค หรือสร้างเครือข่ายการชันสูตรโรคกับมหาวิทยาลัยต่างๆในภูมิภาค  สนับสนุนให้มีการวิจัย และพัฒนาการเลี้ยงสุกรเข้าสู่ระบบเกษตรแม่นยำสูง หรือ Precision agriculture รวมถึงวิจัยวัคซีนและชีวภัณฑ์ต่างๆเพื่อลดการใช้ยาปฏิชีวนะ โดยสถาบันการศึกษาทั้งในและต่างประเทศร่วมกับกรมปศุสัตว์ 

สำหรับมาตรการระยะยาว ภายใน 5 ปี คือ การกำหนดเป็นวาระแห่งชาติ ให้ไทยปลอดจากโรคปากและเท้าเปื่อย หรือควบคุมโรคได้ด้วยวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ  สนับสนุนให้ภาคเอกชน หรือกลุ่มเกษตรกร ตั้งโรงงานผลิตวัคซีน เพื่อใช้ในประเทศและจำหน่ายในกลุ่มอาเซียน

นอกจากนี้ การประกันภัยสุกรยังมีอัตราค่าเบี้ยสูง ในระยะเริ่มต้นรัฐบาลควรสนับสนุนงบประมาณบางส่วน เพื่อให้เกษตรกรได้ปรับตัวและมีความเข้มแข็ง