ปีนี้คุณอาจจะต้องจ่ายภาษีที่ดินแพงขึ้น 2 เท่า

ปีนี้คุณอาจจะต้องจ่ายภาษีที่ดินแพงขึ้น 2 เท่า

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างประจำปี 2567 จะมีความแตกต่างจากปีที่แล้ว อยู่หลักๆ 3 เรื่องได้ด้วยกันครับ คือระยะเวลาในการชำระภาษี , ส่วนลด และ อัตราภาษี ซึ่งปีนี้เป็นปีที่เราอาจจะต้องจ่ายภาษีที่ดินสูงขึ้นถึง 2 เท่า

สวัสดีครับท่านผู้ท่านทุกท่าน ช่วงนี้สำหรับหลายๆ ท่านที่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในอสังหาต่างๆ น่าจะเริ่มทยอยได้รับหนังสือแจ้งการประเมินภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างประจำปี 2567 (ภ.ด.ส.6 และ ภ.ด.ส.7) กันบ้างแล้ว โดยสำหรับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างประจำปี 2567 จะมีความแตกต่างจากปีที่แล้ว อยู่หลักๆ 3 เรื่องได้ด้วยกันครับ คือระยะเวลาในการชำระภาษี , ส่วนลด และ อัตราภาษี ซึ่งปีนี้เป็นปีที่เราอาจจะต้องจ่ายภาษีที่ดินสูงขึ้นถึง 2 เท่าเลยทีเดียว 

วันนี้ผมมี ผู้เชี่ยวชาญในด้านการวางแผนการเงินของบริษัท Wealth Creation International Investment Advisory Security Co., Ltd. คุณปิติพงษ์ รุ่งเรืองวุฒิกุล CFP® จะมาขยายความเกี่ยวกับความแตกต่าง 3 เรื่องดังกล่าวให้ผู้อ่านได้เข้าใจกันมากขึ้นครับ 

สำหรับระยะเวลาในการชำระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างประจำปี 2567 นั้นจะกลับมาเก็บตามปรกติคือภายในเดือน มิถุนายน (บางพื้นที่อาจจะขยายให้ถึงเดือน กรกฎาคม ข้อมูล ณ วันที่ 22 เมษายน 2567) และปีนี้จะเป็นปีแรกที่จะไม่มีสวนลดใดใด ซึ่งจะทำให้ภาษีที่ดินในปีนี้จะสูงกว่าปีที่แล้ว

และสุดท้ายก็คือัตราภาษี ที่ปีนี้หลายๆ ท่านอาจจะได้รับแจ้งยอดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างสูงกว่าปีที่แล้วถึงสองเท่า หากที่ดินแปลงนั้นถูกปล่อยให้รกร้างมาเป็นระยะเวลาสามปี ติดต่อกัน โดยจากเดิมภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างสำหรับการใช้ประโยชน์ประเภทที่ 4 คือ ถูกทิ้งให้รกร้าง ทิ้งไว้เปล่าหรือไม่ได้ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพ มูลค่ารวมไม่เกิน 50 ล้านบาท จะถูกประเมิน ภาษีที่ 0.3% (ล้านละ 3,000 บาท) 

อย่างไรก็ตาม หากที่ดินใดถูกทิ้งไว้ให้เป็นที่รกร้างติดต่อกัน สามปี จะถูกคิดภาษีเพิ่มอีก 0.3% รวมกันเป็น 0.6% (ล้านละ 6,000 บาท) หรือก็คือเพิ่มจากเดิมเป็นสองเท่านั้นเอง และ หากปล่อยทิ้งไว้ ก็จะถูกคิดภาษีเพิ่มอีก 0.3% ในทุกๆ 3 ปี ซึ่งจะสูงสุดอยู่ที่ 3%

หากเมื่อเราทราบยอดภาษีที่ดินแล้วรู้สึกว่าไม่ถูกต้องก็สามารถ ติดต่อไปทางเทศบาล หรือสำนักงานเขต เพื่อให้เขาเข้ามาตรวจสอบได้ครับ โดยการเขียนคำร้องในแบบฟอร์ม คำร้องคัดค้านการประเมินภาษีหรือการเรียกเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (ภ.ด.ส.10) โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ได้รับคำร้องแล้วก็จะเข้ามาตรวจสอบว่าการใช้ประโยชน์ของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนั้น ตรงตามที่ประเมินหรือไม่ ซึ่งหากเรามีการใช้ประโยชน์จริง ไม่ได้ปล่อยให้รกร้อง ทางเจ้าหน้าที่ก็จะทำการแก้ไขให้ได้ครับ

แต่สำหรับ ท่านที่มีที่ดินรกร้าง และไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไร และต้องการจะลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ต้องเสียในแต่ละปีนั้น การใช้วิธีเปลี่ยนมาใช้ประโยชน์ของที่ดินในลักษณะการทำเกษตร ก็จะช่วยให้ภาษีที่ต้องจ่ายน้อยลงได้ครับ โดยการใช้ประโยชน์ในที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม จะคิดภาษีเริ่มต้นที่ 0.01% หรือล้านละ 100 บาท

สำหรับ สำหรับที่ดินที่มีมูลค่าไม่เกิน 75 ล้านบาทแรก โดยเราสามารถดูได้ว่าต้องปลูกพืชอะไร จำนวนเท่าไรต่อไร่ หรือต้องเลี้ยงสัตว์จำนวนเท่าไร จึงจะถูกประเมินว่าเป็นการใช้ที่ดินเพื่อการเกษตร ได้จาก ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 137 ตอนพิเศษ 126 ง ประกาศกระทรวงการคลังและกระทรวงมหาดไทย เรื่อง หลักเกณฑ์การใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรม

แต่อย่างไรก็ตาม การทำเกษตรก็อาจจะไม่ได้เหมาะกับทุกคน เช่น ที่ดินเป็นพื้นคอนกรีตหรือหิน หรือที่ดินอยู่ในที่ห่างไกล ไม่มีเวลาเข้าไปดูแล ซึ่งหากปล่อยไว้ไม่เข้าไปดูแล ก็อาจจะทำให้ วัชพืชมาขึ้น และกลับกลายเป็นที่รกร้างเหมือนเดิม ทำให้ต้องกลับมาจ่ายภาษีที่สูงอยู่ดี หากคุณเป็นคนที่มีข้อจำกัดทำให้ไม่สามารถทำการเกษตรได้ การเปลี่ยนมาใช้ประโยชน์ในลักษณะพาณิชยกรรม หรืออื่นๆ ดูจะเป็นทางเลือกที่สะดวกกว่า ถึงแม้จะเสียภาษีที่อัตราเริ่มต้นที่ 0.3% แต่ก็จะไม่มีการขึ้นภาษีในทุกๆ 3 ปีเหมือนเช่นที่รกร้าง โดยเจ้าของที่ดินอาจจะใช้วิธีการปรับปรุงที่ดินเพื่อปล่อยให้เช่า หรือ การปรับปรุงล้อมรั้วที่ดิน เพื่อไม่ได้ปล่อยให้พื้นที่รกร้าง และทำให้เสียภาษีน้อยลงได้อีกทางเช่นกันครับ