GUNKUL เดินหน้าประมูล-ซื้อโรงไฟฟ้าดันมูลค่า 2หมื่นล้าน

GUNKUL เดินหน้าประมูล-ซื้อโรงไฟฟ้าดันมูลค่า 2หมื่นล้าน

GUNKUL ลุ้นคว้าประมูลงานโรงไฟฟ้าไทย-ต่างประเทศ เพิ่มครึ่งปีหลังดันงานทั้งปีเพิ่ม 20,000 ล้านบาท คาดรายได้และกำไรปีนี้โตตามเป้าไม่ต่ำกว่า 20%

ดร.สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (GUNKUL) เปิดเผยถึง ทิศทางผลการดำเนินงานไตรมาส 3-4 /2564 ของบริษัทและบริษัทย่อยคาดว่า มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากการทยอยรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนทั้งในและต่างประเทศ  ซึ่งเป็นรายได้หลักที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่เป็นฤดูกาลของลมและลมค่อนข้างแรงตามปริมาณฝนที่มีเข้ามาค่อนข้างมากในปีนี้  

นอกจากนี้ยังคาดว่าในช่วงไตรมาส 3-4/2564  กลุ่มบริษัทฯ ยังมีโอกาสได้รับงานโครงการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง  และยังรอรับรู้รายได้จากงานรับเหมาและวางระบบทางด้านวิศวกรรม (EPC) ในมือ (Backlog) ประมาณ 9,600 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ใน 2-3 ปีข้างหน้า และมีแผนเข้าร่วมประมูลโครงการใหม่ๆ เพิ่มเติมอีก คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 20,000 ล้านบาทในปีนี้  โดยคาดว่าจะได้งานประมาณ  15-20 %   ซึ่งจะหนุนรายได้ปีนี้เติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ไม่ต่ำกว่า 20%

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวต่อว่า GUNKUL   ยังขยายธุรกิจการลงทุนด้านเทคโนโลยี  โดยร่วมกับ SCB ภายใต้บริษัท กันกุล บีทูบี จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจจัดหา จำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และการบริการผ่านแอพพลิเคชั่น  เพื่อสร้างอุตสาหกรรมในอนาคต (New S- Curve) ใหม่ ให้กับกลุ่มบริษัทฯ ซึ่งเป็นการสร้างการเติบโตแบบไร้ขีดจำกัด

อีกทั้งบริษัทยังเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการเติบโตทางธุรกิจ ผ่านการควบรวมกิจการ (M&A)  มากขึ้น  โดยมองว่าการทำธุรกิจในปัจจุบันและอนาคตต้องใช้จุดแข็ง ความสามารถของพันธมิตรเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจ และเมื่อธุรกิจมีการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งก็พร้อมที่จะ  Spint-off ออกไปเพื่อสร้างการเติบโตในลำดับต่อไป  ดังนั้นจึงมั่นใจว่า การดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ ในระย 2-3 ปี นี้ จะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของกลุ่มบริษัทฯ แบบไร้ขีดจำกัด

สำหรับความคืบหน้าในการดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการปลูกพืชเศรษฐกิจประเภทกัญชง และการลงทุนทำโรงสกัด CBD บริสุทธิ์ 99%  ขณะนี้ยังดำเนินการตามแผนและขั้นตอนที่ได้วางไว้ทุกประการ  และคาดว่าจะเริ่มปลูกได้ในเดือนตุลาคมนี้    ซึ่งขณะนี้รอได้รับใบอนุญาตการนำเข้าเมล็ดพันธุ์และใบอนุญาตในการเพาะปลูกจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) หากมีความคืบหน้าทางบริษัทฯ จะดำเนินการแจ้งข่าวในลำดับต่อไป 

กลุ่มบริษัทฯ ยังมีโอกาสอีกมากในการรับงานใหม่ๆ เพิ่ม  โดยเฉพาะธุรกิจด้านพลังงานทดแทน ทั้งในและต่างประเทศ  และยังคงมองหาโอกาสด้านการลงทุนและเข้าร่วมประมูลงานโครงการใหม่ๆ เพิ่มเติม เพื่อสร้างการเติบโตทางธุรกิจให้เสถียรภาพมากยิ่งขึ้น  ที่สำคัญทำให้ผลการดำเนินงานเติบโตอย่างมีศักยภาพและสร้างผลตอบแทนอย่างยั่งยืนให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต” ดร.สมบูรณ์กล่าวในที่สุด