5 'คลัสเตอร์ใหม่' กระจายบริษัทฯ โรงงาน ใน 4 จังหวัด

วันนี้ (7 ส.ค. 64) ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019 ภาพรวมของการระบาดยังต้องคอยเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่อีก 21,838 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมแล้วจนถึงวันนี้ 714,684 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 212 ราย ทำให้การระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่เดือน เม.ย. 2564 มียอดผู้เสียชีวิตสะสมสูงถึง 5,972 รายแล้ว ขณะที่ภาพรวมของการเสียชีวิตจากสถานการณ์โควิด-19 มีผู้เสียชีวิตรวม 6,066 ราย

 

นอกจากนี้ ยังมีรายงานถึงตรวจติดเชื้อเข้าข่าย ATK อีก 6,026 ราย สะสม 17,836 ราย กลุ่มคนไข้อาการหนักที่มีอาการปอดอักเสบที่น่าวิตก 5,159 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจอีก 1,060 ราย

• 10 จังหวัดติดเชื้อรายใหม่สูงสุด

 

 

• เสียชีวิตที่บ้าน 4 ราย 

สำหรับรายละเอียดผู้เสียชีวิต 212 ราย พบว่า ส่วนใหญ่อยู่ในกทม. โดยปัจจัยเสี่ยงต่อความรุนแรงของโรค ยังคงเป็นโรคประจำตัว ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง รวมถึงส่วนใหญ่ยังเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ ค่ากลางเวลาทราบผล จนกระทั่งเสียชีวิตเฉลี่ย 10 วัน นานสุด 38 วัน และยังพบว่ามีผู้เสียชีวิตที่บ้านอีกกว่า 4 ราย ได้แก่ สมุรทรปราการ 3 ราย สงขลา 1 ราย 

• 5 คลัสเตอร์ใหม่ กระจาย 4 จังหวัด

สำหรับรายงานการระบาดในจังหวัดที่มีรายงานผู้ป่วยเพิ่ม พบว่า คลัสเตอร์เดิม ที่เคยมีการรายงานมาก่อนหน้านี้ มีหลายคลัสเตอร์ที่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นเกินร้อยราย อาทิ โรงงานอาหารกระป๋อง จ. สมุทรสาคร พบการระบาด 10 ก.ค มีผู้ติดเชื้อรวม 322 ราย , บริษัทยางรถยนต์ บางเลน นครปฐม พบการระบาด 30 ก.ค. มีผู้ติดเชื้อรวม 138 ราย , บริษัทชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ พื้นที่อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา พบการระบาด 26 มิ.ย. ติดเชื้อรวม 368 ราย เป็นต้น 

ขณะที่ 5 คลัสเตอร์ใหม่ ที่พบกระจาย 4 จังหวัด มีดังนี้ 

• บริษัทของใช้ไฟฟ้า เมืองสมุทรปราการ พบผู้ป่วย 18 ราย 
• บริษัทอาหารแช่แข็ง บางพรี สมุทรปราการ พบผู้ป่วย 11 ราย 
• โรงงานพ่นสี บ้านบึง จ.ชลบุรี พบผู้ป่วย 19 ราย 
• บริษัทผลิตภัณฑ์อาหาร บางเลน จ.นครปฐม พบผู้ป่วย 14 ราย 
• โรงงานเสื้อผ้า เมืองนนทบุรี พบผู้ป่วย 9 ราย 

• ไทยฉีดวัคซีนไปแล้ว 20.2 ล้านโดส 

สรุปผลการฉีดวัคซีนโควิด-19 วันที่ 6 ส.ค. 64 เวลา 18.00 น. พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนไปแล้ว 20,280,108 โดส แบ่งเป็น เข็มที่ 1 จำนวน 15,687,291 ราย และ เข็มที่ 2 จำนวน 4,406,723 ราย และ เข็มที่ 3 จำนวน 186,094 ราย